เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (19 ก.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.สุกำพล
สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน
ทำหนังสือขอให้กระทรวงกลาโหม ตรวจสอบข้อเท็จจริงและชี้แจงกรณีนายอภิสิทธิ์
เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ใช้เอกสารเข้ารับราชการเป็นอาจารย์ในโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าว่า
กระทรวงกลาโหมได้ส่งหลักฐานให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเมื่อวันที่ 10
ก.ค.ที่ผ่านมา ในเอกสารเป็นการรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ
ซึ่งไม่ใช่ความรู้สึกนึกคิด
ทั้งนี้เอกสารระบุไว้ค่อนข้างชัดเจนว่า เรื่องนี้มีการหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหารในอดีตที่ผ่านมา ส่วนนายอภิสิทธิ์จะมีเจตนาหนีทหารหรือไม่นั้น ต้องถามนายอภิสิทธิ์เอง แต่เอกสารระบุอย่างนั้น ทางกระทรวงกลาโหมมีหน้าที่รวบรวมข้อมูล ซึ่งต้องรอให้ทางสำนักงานผู้ตรวจการฯดำเนินการต่อไป
พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ทางกระทรวงกลาโหมได้ให้กรมพระธรรมนูญไปศึกษารายละเอียด เพราะเรื่องดังกล่าวนี้มีผลทางคดีมานานกว่า 20 ปีแล้ว แต่ถ้าเราไม่เร่งดำเนินการในขณะนี้จะโดนอีก ดังนั้นต้องดูว่าจะทำอะไรได้บ้าง โดยอยู่ในขั้นตอนดำเนินการรวบรวมข้อมูล ทั้งนี้ไม่ได้เป็นการเช็คบิลทางการเมืองนายอภิสิทธิ์ เพราะไม่ใช่ว่าอยู่ดี ๆ ตนจะมาทำเรื่องนี้ แต่เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนให้กระทรวงกลาโหมส่งเอกสารไปให้ โดยมีกฎเกณฑ์ว่าต้องส่งให้ภายใน 30 วัน และทางกระทรวงกลาโหมได้ส่งไปตามข้อเท็จจริง ส่วนเอกสารดังกล่าวจะนำไปสู่ สิ้นสุดความเป็น ส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ หรือไม่นั้น เป็นเรื่องต่อไปในอนาคต เราต้องดูหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมมีแค่ไหน เรื่องการเมืองเป็นเรื่องการเมืองไป
ต่อข้อถามว่า การที่นายอภิสิทธิ์อ้างว่าเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า แล้วไม่ต้องเป็นทหาร พล.อ.อ.สุกำพลตอบว่า การเป็นอาจารย์ถือว่ารับราชการ ซึ่งเรื่องนี้มี 2 ประเด็นคือ 1.ในช่วงการเกณฑ์ทหารไม่ได้ไปเกณฑ์ เพราะบอกว่ามีการผ่อนผัน ต้องดูหลักฐานบอกว่าผ่อนผันอย่างไร 2.มีหลักฐานจริงหรือไม่ และตอนเข้าสมัครเป็นอาจารย์ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า มีหลักฐานครบจริงหรือไม่ และเป็นเอกสารเท็จหรือไม่ เมื่อถามว่า จากผลการสอบสวนของกองทัพพบว่า มีการปลอมแปลงเอกสาร และลงโทษทหารที่เกี่ยวข้องไปแล้ว พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า เรื่องนี้มีอยู่ชัดเจนและได้ส่งไปด้วย พร้อมรับรองสำเนาถูกต้องจากหน่วยที่ชัดเจน ไม่ใช่ว่าไปขุดจากไหนมา เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงเกิดมาเป็น 10 ปีแล้ว ส่วนถูกลงโทษหรือไม่ ตนไม่ทราบแต่มีรายงานว่าให้เสนอแนะลงโทษ เนื่องจากเอกสารที่ส่งมาทางกระทรวงกลาโหมเป็นสำเนา ส่วนเอกสารจริงส่งให้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในอดีต แต่จะเป็นอย่างไรต่อไปยังไม่ได้สืบไปถึงขนาดนั้น แค่ส่งเอกสารหลักฐานมาเราก็พอใจแล้ว
เมื่อถามว่า แสดงว่าในยุคที่ผ่านมากองทัพช่วยปกปิดในเรื่องนี้ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ในยุคของตน หลักฐานรวบรวมจากข้อเท็จจริงไม่ใช่หลักฐานที่ปั้นแต่ง เรามีอะไรจะส่งให้สำนักงานผู้ตรวจการฯทุกอย่าง อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่เหมาะสมที่จะเปิดเผย เอกสารคงต้องไปขอทางสำนักงานผู้ตรวจการฯตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ทั้งนี้ในความคิดของตนเรื่องการหนีทหารที่ผ่านมามีมากมาย หากมีใครร้องเรียนมาก็เป็นหน้าที่ที่ต้องดำเนินการ ส่วนจะให้ไปดำเนินการหาว่าเป็นใครบ้างคงไม่ไหว ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ยืนยันมาตลอดว่าไม่ได้หนีทหารนั้น มีสิทธิ์ยืนยันแต่เป็นเรื่องของหลักฐานที่เรามีอยู่ เรื่องนี้เป็นเรื่อง เก่าที่ผ่านมาแล้ว สมัยนี้มีนโยบายชัดเจนและวันนี้ยากหากใครจะทำแบบนี้ เพราะการเกณฑ์ทหารมีขั้นตอนชัดเจนมากขึ้น.
ทั้งนี้เอกสารระบุไว้ค่อนข้างชัดเจนว่า เรื่องนี้มีการหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหารในอดีตที่ผ่านมา ส่วนนายอภิสิทธิ์จะมีเจตนาหนีทหารหรือไม่นั้น ต้องถามนายอภิสิทธิ์เอง แต่เอกสารระบุอย่างนั้น ทางกระทรวงกลาโหมมีหน้าที่รวบรวมข้อมูล ซึ่งต้องรอให้ทางสำนักงานผู้ตรวจการฯดำเนินการต่อไป
พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ทางกระทรวงกลาโหมได้ให้กรมพระธรรมนูญไปศึกษารายละเอียด เพราะเรื่องดังกล่าวนี้มีผลทางคดีมานานกว่า 20 ปีแล้ว แต่ถ้าเราไม่เร่งดำเนินการในขณะนี้จะโดนอีก ดังนั้นต้องดูว่าจะทำอะไรได้บ้าง โดยอยู่ในขั้นตอนดำเนินการรวบรวมข้อมูล ทั้งนี้ไม่ได้เป็นการเช็คบิลทางการเมืองนายอภิสิทธิ์ เพราะไม่ใช่ว่าอยู่ดี ๆ ตนจะมาทำเรื่องนี้ แต่เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนให้กระทรวงกลาโหมส่งเอกสารไปให้ โดยมีกฎเกณฑ์ว่าต้องส่งให้ภายใน 30 วัน และทางกระทรวงกลาโหมได้ส่งไปตามข้อเท็จจริง ส่วนเอกสารดังกล่าวจะนำไปสู่ สิ้นสุดความเป็น ส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ หรือไม่นั้น เป็นเรื่องต่อไปในอนาคต เราต้องดูหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมมีแค่ไหน เรื่องการเมืองเป็นเรื่องการเมืองไป
ต่อข้อถามว่า การที่นายอภิสิทธิ์อ้างว่าเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า แล้วไม่ต้องเป็นทหาร พล.อ.อ.สุกำพลตอบว่า การเป็นอาจารย์ถือว่ารับราชการ ซึ่งเรื่องนี้มี 2 ประเด็นคือ 1.ในช่วงการเกณฑ์ทหารไม่ได้ไปเกณฑ์ เพราะบอกว่ามีการผ่อนผัน ต้องดูหลักฐานบอกว่าผ่อนผันอย่างไร 2.มีหลักฐานจริงหรือไม่ และตอนเข้าสมัครเป็นอาจารย์ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า มีหลักฐานครบจริงหรือไม่ และเป็นเอกสารเท็จหรือไม่ เมื่อถามว่า จากผลการสอบสวนของกองทัพพบว่า มีการปลอมแปลงเอกสาร และลงโทษทหารที่เกี่ยวข้องไปแล้ว พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า เรื่องนี้มีอยู่ชัดเจนและได้ส่งไปด้วย พร้อมรับรองสำเนาถูกต้องจากหน่วยที่ชัดเจน ไม่ใช่ว่าไปขุดจากไหนมา เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงเกิดมาเป็น 10 ปีแล้ว ส่วนถูกลงโทษหรือไม่ ตนไม่ทราบแต่มีรายงานว่าให้เสนอแนะลงโทษ เนื่องจากเอกสารที่ส่งมาทางกระทรวงกลาโหมเป็นสำเนา ส่วนเอกสารจริงส่งให้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในอดีต แต่จะเป็นอย่างไรต่อไปยังไม่ได้สืบไปถึงขนาดนั้น แค่ส่งเอกสารหลักฐานมาเราก็พอใจแล้ว
เมื่อถามว่า แสดงว่าในยุคที่ผ่านมากองทัพช่วยปกปิดในเรื่องนี้ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ในยุคของตน หลักฐานรวบรวมจากข้อเท็จจริงไม่ใช่หลักฐานที่ปั้นแต่ง เรามีอะไรจะส่งให้สำนักงานผู้ตรวจการฯทุกอย่าง อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่เหมาะสมที่จะเปิดเผย เอกสารคงต้องไปขอทางสำนักงานผู้ตรวจการฯตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ทั้งนี้ในความคิดของตนเรื่องการหนีทหารที่ผ่านมามีมากมาย หากมีใครร้องเรียนมาก็เป็นหน้าที่ที่ต้องดำเนินการ ส่วนจะให้ไปดำเนินการหาว่าเป็นใครบ้างคงไม่ไหว ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ยืนยันมาตลอดว่าไม่ได้หนีทหารนั้น มีสิทธิ์ยืนยันแต่เป็นเรื่องของหลักฐานที่เรามีอยู่ เรื่องนี้เป็นเรื่อง เก่าที่ผ่านมาแล้ว สมัยนี้มีนโยบายชัดเจนและวันนี้ยากหากใครจะทำแบบนี้ เพราะการเกณฑ์ทหารมีขั้นตอนชัดเจนมากขึ้น.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น