เมื่อเวลา 09.30 น. (วันนี้ 19 ก.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 908
ศาลอาญารัชดาภิเษก ศาลขึ้นนั่งบังลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่
อ.3713/54ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 เป็นโจทก์
ฟ้องนายเอกพันธ์ กุมมาน้อย อายุ 24 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐาน
เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ
ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบโดยโจทก์บรรยายฟ้องสรุปว่า
ระหว่างวันที่ 26 พ.ค. - 8 ก.ค.54 จำเลยได้สุ่มรหัสผ่านของผู้เสียหายที่
2-15 เพื่อเข้าถึงข้อมูลรายชื่อประจำตัวผู้เสียหายที่ 2-15
อันเป็นรหัสผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ฯ ผู้เสียหายที่ 1
ออกให้โดยมิชอบและโดยทุจริต
เมื่อจำเลยเข้าไปทำรายการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหายอีก14 ราย
ผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ตของธนาคารไทยพาณิชย์ รวม 39 ครั้ง และได้เงินไป
103,050 บาท เหตุเกิดที่ แขวงและเขตจตุจักร และแขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.
ขอให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 269/5 ,269/7, 334,
335,พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 3,5,7,9
ให้จำเลยคืนเงิน 103,050 บาทให้แก่ธนาคารไทยพาณิชย์ ฯ
จำเลยรับสารภาพว่า เป็นนักเล่นเกมส์ออนไลน์ เข้ารหัสจากการสุ่มตัวเลขเรียงง่ายๆ หรือเลขตอง เมื่อรหัสตรงกับผู้เสียหายรายได้จะถอนเงินออกจากบัญชี ไปเล่นเกมส์ออนไลน์ และชำระค่าโทรศัพท์มือถือ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลยมุ่งต่อประโยชน์ส่วนตน เป็นภัยต่อสังคม แต่จำเลยได้บรรเทาผลร้ายด้วยการชดใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหาย จำนวน 103,050 บาท แล้ว พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ อันเป็นบทลงโทษหนักสุด จำคุก 39 กระทงๆ ละ 3 ปี รวม 117 ปี ปรับกระทงละ 900 บาท เป็นเงิน 35,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุกรวม 58 ปี 5 เดือน ปรับ 17,550 บาท แต่คงให้จำคุกสูงสุดเป็นเวลา 20 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้จากรายงานการสืบเสาะ ประวัติ การศึกษา สถานครอบครัว มาประกอบการพิจารณา เห็นว่าจำเลย ไม่เคยกระทำผิดหรือรับโทษทางอาญามาก่อน ทั้งมีบิดา มารดา และบุตร ต้องดูแล เห็นสมควรให้กลับตัวเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 3 ปี ให้คุมประพฤติเป็นเวลา 2 ปี โดยให้รายงานตัวกับเจ้าพนักงานคุมประพฤติมีกำหนด 8 ครั้ง และให้บำเพ็ญประโยชน์เป็นเวลา 48 ชั่วโมง .
จำเลยรับสารภาพว่า เป็นนักเล่นเกมส์ออนไลน์ เข้ารหัสจากการสุ่มตัวเลขเรียงง่ายๆ หรือเลขตอง เมื่อรหัสตรงกับผู้เสียหายรายได้จะถอนเงินออกจากบัญชี ไปเล่นเกมส์ออนไลน์ และชำระค่าโทรศัพท์มือถือ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลยมุ่งต่อประโยชน์ส่วนตน เป็นภัยต่อสังคม แต่จำเลยได้บรรเทาผลร้ายด้วยการชดใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหาย จำนวน 103,050 บาท แล้ว พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ อันเป็นบทลงโทษหนักสุด จำคุก 39 กระทงๆ ละ 3 ปี รวม 117 ปี ปรับกระทงละ 900 บาท เป็นเงิน 35,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุกรวม 58 ปี 5 เดือน ปรับ 17,550 บาท แต่คงให้จำคุกสูงสุดเป็นเวลา 20 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้จากรายงานการสืบเสาะ ประวัติ การศึกษา สถานครอบครัว มาประกอบการพิจารณา เห็นว่าจำเลย ไม่เคยกระทำผิดหรือรับโทษทางอาญามาก่อน ทั้งมีบิดา มารดา และบุตร ต้องดูแล เห็นสมควรให้กลับตัวเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 3 ปี ให้คุมประพฤติเป็นเวลา 2 ปี โดยให้รายงานตัวกับเจ้าพนักงานคุมประพฤติมีกำหนด 8 ครั้ง และให้บำเพ็ญประโยชน์เป็นเวลา 48 ชั่วโมง .
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น