จี้ออกกม.ภาษีที่ดินกันนิติกรรมอำพรางฮุบเมืองไทย

เอกชนแนะให้เร่งออกกฎหมายภาษีที่ดิน กันต่างชาติฮุบเมืองไทย ชี้บาปเคราะห์ผู้มีอำนาจหมกเม็ด

วันนี้ (15 มี.ค.) นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวว่าที่ดินในพื้นที่ตากอากาศสำคัญได้ตกอยู่ในมือของคนต่างชาติไป 30% แล้วนั้น  เชื่อว่าในความเป็นจริงคงไม่มีผู้ใดรู้จริง เนื่องจากไม่มีสถิติที่แน่ชัด แต่คงไม่ได้มากอย่างที่เข้าใจ เพราะในไทยมีโฉนดที่ดินเกือบ 30 ล้านแปลง มีที่อยู่อาศัยเกือบ 20 ล้านหน่วย  โอกาสที่ต่างชาติจะมาซื้อถึง 30% ย่อมไปได้ยาก

อีกทั้งโดยปกติแล้ว ต่างชาติมักสนใจซื้อแต่ที่ดินตากอากาศ ที่ดินเชิงพาณิชย์ที่มีผลตอบแทนสูงในการลงทุน และที่ดินเพื่อการอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรม ส่วนที่อยู่อาศัยหรือพื้นที่เกษตรกรรมทั่วไปนั้น คงไม่มีนักลงทุนต่างชาติสนใจซื้อมากนัก  และเป็นอุปทานที่มีไว้เพื่อการใช้สอยของประชากรในประเทศไทยถึง 67 ล้านคนเป็นสำคัญ

อย่างไรก็ตาม กรณีนี้แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอประการหนึ่งของประเทศ ที่ขาดระบบฐานข้อมูลการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์โดยคนต่างชาติ หรือแม้แต่คนไทยกันเองก็ไม่สามารถระบุเปิดเผยชัดเจนได้ว่า หน่วยงานใด บุคคลใด ถือครองอสังหาริมทรัพย์สูงสุด  คงเพราะผู้มีอำนาจในระดับสูงเกรงจะได้รับผลกระทบด้านภาพพจน์ จึงเท่ากับการปกปิดข้อมูลที่ควรเปิดเผยเช่นนานาชาติ ไม่สามารถดำเนินการได้ การที่ต่างชาติมาแอบซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยโดยเราตรวจสอบไม่ได้ จึงเป็นบาปเคราะห์ที่เกิดจากผู้มีอำนาจที่ต้องการปกปิดฐานะของตนเองได้สร้างไว้

ไทยควรจัดทำฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ที่ดีเหมือนนานาชาติ มีการบังคับใช้กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่แม้แต่กัมพูชา ยังเริ่มเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตั้งแต่ปี 54 แล้ว  ไม่ควรอ้างว่าหากมีกฎหมายที่ตรวจสอบและลงโทษเคร่งครัด จะเป็นการเปิดโอกาสให้มีการทุจริตเพิ่มมากขึ้น  เพราะรัฐต้องตรวจสอบผู้บังคับใช้กฎหมายทุกระดับชั้นเช่นกัน นอกจากนี้จึงควรมีกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้ออกมาบังคับใช้โดยเร็ว

อย่างไรก็ตามโดยหลักการแล้ว ไทยอนุญาตให้ต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศได้ หากมีภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เช่น คนไทยไปซื้อบ้านในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีราคาเฉลี่ย 10 ล้านบาท ต้องเสียภาษีถึง 2% ต่อปี หรือเป็นเงิน 200,000 บาท ขณะที่ต่างชาติมาซื้อบ้านพักตากอากาศในไทยราคา 40 ล้านบาทที่เกาะภูเก็ต ไม่ต้องเสียภาษีดังกล่าวเลย  นอกจากนั้นในอนาคต 30 ปีข้างหน้า หากราคาบ้านในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 5 เท่าหรือเป็นเงิน 50 ล้านบาท การรับมรดกยังต้องเสียภาษีอีก 30% ขณะที่ไทยไม่ต้องเสียภาษีมรดกเช่นกัน

“เห็นได้ว่าบุคคลชั้นสูงในไทย ไม่ต้องเสียภาษีจากการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ เป็นการถ่างความเหลื่อมล้ำ และสร้างความไม่เป็นธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม กรณีที่เจ้าของที่ดินรายใหญ่ ๆ ปล่อยที่ดินเปล่าทิ้งไว้โดยไม่ยอมพัฒนาหรือไม่ยอมขาย มุ่งเก็บไว้ให้ตนเองและลูกหลานในอนาคต ทั้งที่มีสาธารณูปโภคเข้าถึง ย่อมเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจทางหนึ่ง การพัฒนาเมืองก็ต้องออกไปสู่รอบนอก ทำให้สาธารณูปโภคต้องขยายตัวออกไปอย่างไม่สิ้นสุด เป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากร  พื้นที่สีเขียวหรือพื้นที่ชนบทก็ถูกบุกรุกทำลาย”

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

This entry was posted in News