วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555

บุกร้องสื่อ-หวั่นขสมก.ลอยแพ


            วันนี้ (  14  มี.ค.  ) ผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์” ได้รับการติดต่อจาก น.ส.วิภาวี  คำพูล อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 548 ซอยนพเกล้า แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ อาชีพพนักงานธุรการ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งย่าน ถนนพญาไท พร้อมด้วยมารดา นางจรียา คำมูล อายุ 71 ปี เพื่อขอร้องทุกข์  จากกรณีที่ น.ส.วิภาวี ได้โดยสารรถร่วมบริการแต่ระหว่างทางได้เกิดเหตุ ไฟลุกไหม้ บริเวณช่วงห้องเครื่อง จึงได้กระโดดหนีตายออกมาทางหน้าต่างรถ จนส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บ
             โดย น.ส.วิภาวี  ได้เล่าลำดับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ว่าเมื่อวันที่ 20 ก.พ. ได้ขึ้นรถโดยสารร่วมบริการ สาย 29  ม.ธรรมศาสตร์(ศูนย์รังสิต)-หัวลำโพง สีม่วงคาดน้ำตาล ของบริษัทสหธนบุรีขนส่ง จำกัด หมายเลขข้างรถ 29-24 หมายเลขทะเบียนป้ายสีเหลือง 10-8816 กทม.  จากหน้าวัดเสมียนนารี จะไปลงยังอนุสาวรีย์สมรภูมิ เพื่อไปที่ทำงานย่าน ถนนพญาไท ซึ่งได้นั่งที่เบาะนั่งแถวหน้าสุด  จู่ๆ ก็ได้มีเปลวไฟลุกพรึบขึ้นมาตรงด้านข้างคันเกียร์ของรถ พนักงานขับรถก็ได้พยายามกดปุ่มเปิดประตูขึ้น-ลง อัตโนมัติ แต่ปรากฏว่าประตูไม่ยอมเปิด พนักงานขับรถจึงได้ตะโกนให้ผู้โดยสารกระโดดหนีอออกจะรถทางหน้าต่าง ทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นภายในรถขึ้น โดยตนกระโดดออกมาทางหน้าต่างฝั่งซ้ายด้านหน้ารถเพื่อหนีตาย แต่ด้วยความสูงจากพื้นดินประมาณ 180 เซนติเมตร จึงตกลงมานอนกองอยู่ที่พื้นได้รับบาดเจ็บ ทำให้รู้สึกจุกแน่นที่ท้องชาที่ข้อเท้าและข้อศอกด้านขวา
          น.ส.วิภาวี  กล่าวต่อว่า ต่อมารู้สึกว่าที่บริเวณข้อเท้าขวาและข้อศอกขวาบวมขึ้น มีอาการปวดเป็นอย่างมาก และจุกแน่นหน้าอก อาเจียนตลอดเวลา จึงไปหาหมอที่ รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น โดยทางแพทย์สรุปผลการตรวจว่ากระดูกข้อเท้าขวาแตก กระดูกข้อศอกขวาร้าว ซึ่งเกิดจากการตกจากที่สูง หรือกระแทกอย่างรุนแรง จากนั้นจึงไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐานกับ ร.ต.อ.วิทยา วงศ์แก้ว พงส.สบ.1 สน.พญาไท
            ด้าน นางจรียา กล่าวว่า ในวันที่ 2 มี.ค. ได้เดินทางไปที่ สำนักปฏิบัติการรถเอกชนร่วมบริการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)  พร้อมทั้งนำเอกสารเพื่อไปติดต่อร้องเรียนเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นแทนลูกสาวพบ นายยิ่งเจริญ พันธุ์เพ็ง เจ้าหน้าที่ของสำนักปฏิบัติการรถเอกชนร่วมบริการ มารับเรื่องร้องเรียนโดย นายยิ่งเจริญ บอกว่าจะรีบดำเนินการประสานงานกับบริษัทเจ้าของรถร่วมบริการดังกล่าว พร้อมจะติดต่อกลับมาให้เร็วที่สุด จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายวัน ก็ยังไม่มีการติดต่อกลับซึ่งไม่รู้ว่าจะหันไปพึ่งใคร จึงได้ติดต่อร้องทุกข์มาที่ “เดลินิวส์” ให้ช่วยเป็นสื่อกลางเพื่อขอความเป็นธรรม และหาผู้ที่จะรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
      หลังจากนั้นผู้สื่อข่าว จึงทำทีให้ นางจรียา โทรศัพท์ติดต่อกลับไปสอบถามความคืบหน้า จากเจ้าหน้าที่ของสำนักปฏิบัติการรถเอกชนร่วมบริการ โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ได้โทรไปบอกทางอู่รถร่วมบริการ สาย 29 ให้แล้วว่า มีคนเจ็บตอนที่หนีไฟไหม้ห้องเครื่องของรถ ทางอู่เขาก็รับรู้เรื่องแล้ว แล้วทำไมถึงไม่โทรไปคุยกับทางอู่รถฯ เองบอร์โทรศัพท์ ก็จดให้ไปแล้ว จะให้ช่วยอะไรอีก นี่ก็ถือว่าเป็นการประสานงานให้แล้ว ที่เหลือก็ไปตกลงกันเอาเอง ก่อนวางสายโทรศัพท์ตัดการสนทนาไปเฉยๆ .
        ต่อมาผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์” พร้อมกับน.ส.วิภาวี และนางจรียา ได้ เดินทางมาที่บริเวณ อู่จอดรถร่วมบริการ สาย 29  ย่านหมู่บ้านรัตรนโกสินทร์ 200 ปี รังสิต เพื่อมาตรวจสอบหารถร่วมบริการคันดังกล่าว ปรากฏว่าได้พบรถร่วมบริการ สาย 29 ซึ่งมีหมายเลขต่างๆ ตรงกับลักษณะที่ผู้ร้องเรียนระบุไว้ จอดอยู่พอดี โดยผู้สื่อข่าวได้ทำการตรวจดูโดยรอบ พบว่า รถเมล์คันดังกล่าว คล้ายกับมีการทำสีของตัวถังมาใหม่ ส่วนภายในตัวรถนั้นไม่สามารถขึ้นไปดูได้ เนื่องจากประตูถูกปิดอยู่ แต่ก็ได้สังเกตุเข้าไปในตัวรถจากทางด้านนอกหน้าต่าง พบว่าที่บริเวณฝาครอบเครื่องยนต์ข้างที่นั่งของคนขับ มีการพ่นสีน้ำเงินทับร่องรอยที่ถูกไฟไหม้ไปแล้ว ซึ่งทางด้าน น.ส.วิภาวี ผู้บาดเจ็บ ก็ยืนยันว่า รถคันนี้เป็นคันเดียวกันกับรถคันที่ตนกระโดดหนีตายออกจากทางหน้าต่าง จนตกลงมาขาหัก เพราะว่าไฟลุกที่ห้องเครื่องจริงๆ ตนจำได้ไม่เคยลืม

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources