สั่งย้ายแล้ว!รปภ.บีทีเอสยึดลูกโป่งเด็ก

บิ๊กบีทีเอสสั่งย้าย รปภ.ยึดลูกโป่งเด็ก แจงมีการปล่อยให้นำขึ้นตั้งแต่สถานีสยาม เตรียมลงทัณฑ์เจ้าหน้าที่ยกชุด ด้านตำรวจเตรียมนัดเคลียร์บนโรงพัก

จากกรณีมีคลิปเหตุการณ์นายประสาน ถาวงษ์กลาง รปภ.ของสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพร้อมพงษ์ ขัดขวางและยึดลูกโป่งสวรรค์ 4 ลูก จากนายจอห์น บีฮัน ครูสอนภาษาชาวไอร์แลนด์ ที่พยายามถือขึ้นชานชลา จนเกิดเหตุการณ์ชุลมุนกระทบกระทั่งกันขึ้น ภายหลังมีผู้ใช้ชื่อพัชรมาศ ภู่ศรี อ้างว่าเป็นภรรยาชาวไทยของนายจอห์น ได้โพสต์ลงในเว็ปไซด์พันทิป โดยระบุบว่า สามีได้ถือช่อดอกไม้และลูกโป่งสวรรค์ ซึ่งเป็นของขวัญวันเรียนจบชั้นอนุบาล 3 ของลูกสาวเข้าไปในสถานีรถไฟฟ้า เพื่อนำกลับบ้าน แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่รปภ.ห้ามนำลูกโป่งเข้าพื้นที่ แม้จะพยายามอธิบายแล้วว่ามีความสำคัญต่อจิตใจเด็กมากก็ตาม จนเกิดเหตุยื้อแย่งกันชุลมุน และสามีถูกเจ้าหน้าที่ใช้เครื่องตรวจโลหะตีจนคิ้วแตก สุดท้ายต่างฝ่ายต่างเข้าแจ้งความซึ่งกันและกัน ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 22 มี.ค. พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม ผกก.สน.ทองหล่อ กล่าวถึงคดีดังกล่าวว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากความไม่เข้าใจกันของทั้งสองฝ่าย เพราะต่างคนต่างอยากทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด โดยนายจอห์น อยากแสดงความเป็นพ่อที่ดีด้วยการนำของขวัญวันจบการศึกษาของลูกกลับบ้าน ส่วนเจ้าหน้าที่ รปภ.ก็ปฏิบัติหน้าที่ไปตามระบียบของสถานีเท่านั้น เพราะในลูกโป่งมีก๊าซ ถ้าเกิดแตกอาจสร้างความแตกตื่นขึ้นได้ ซึ่งทางตำรวจจะดำเนินการไปตามเนื้อผ้าในความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ล่าสุดได้ภาพจากกล้องวงจรปิดของสถานีมาแล้วอยู่ระหว่างตรวสอบ จากนี้จะได้เรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำ เนื่องจากภาพที่ได้มาไม่มีเสียงประกอบ

"ตอนแรกทางพนักงานสอบสวนได้นัดให้นายประสาน เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมในวันนี้ แต่ตนสั่งให้เลื่อนไป และนัดคู่กรณีทั้งสองมาพบพร้อมกัน เพื่อพูดคุยตกลงทำความเข้าใจกัน โดยตนจะเป็นคนกลางให้ แต่ในส่วนของคดีก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจร่างกายของนายจอห์น สำหรับคดีทำร้ายร่างกายแบ่งออกเป็น 3 ระดับโดยระดับแรก ตามมาตรา 391 คือทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้ถึงอันตรายแก่กาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ระดับที่ 2 ตามมาตรา 295 ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และระดับที่ 3 ตามมาตรา 297 ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายสาหัส เช่น ถึงขั้นตาบอด สูญเสียอวัยวะหรือต้องรักษาตัวนานเกิน 20 วัน ก็มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน-10 ปี ตามลำดับ" ผกก. สน.ทองหล่อ กล่าว

ด้านนายอาณัติ อาภาภิรม กรรมการบริหารบริษัทระบบขนส่งมวลชน กรุงเทพจำกัด มหาชน (บีทีเอส) กล่าวว่า บริษัทรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.04 น.วันศุกร์ที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ผู้โดยสารซึ่งทราบชื่อภายหลังคือนายจอห์น บีฮัน พร้อมด้วยลูกสาวได้เดินทางด้วยรถไฟฟ้าขึ้นจากสถานีสุรศักดิ์ โดยลูกสาวได้นำลูกโป่งขึ้นมาด้วย และได้ผ่านเข้าในระบบโดยเป็นช่วงที่เจ้าหน้าที่สถานีในห้องจำหน่ายตั๋วไม่เห็น ซึ่งปกติระเบียบของทางสถานีลูกโป่งจัดอยู่ในวัตถุประเภทไวไฟจะไม่สามารถนำเข้าระบบได้ เมื่อผู้โดยสารเดินทางมาถึงสถานีสยามได้เปลี่ยนถ่ายขบวนรถเพื่อทำธุระส่วนตัว หลังจากนั้นกลับมาขึ้นรถที่สถานีสยามเดินทางไปลงที่สถานีพร้อมพงษ์ ออกจากระบบไป แต่ได้กลับเข้ามาที่สถานีพร้อมพงษ์อีกครั้ง เพื่อที่จะเข้าระบบซึ่งเป็นจุดที่เกิดเหตุ เมื่อผู้โดยสารขึ้นมาที่ชั้นจำหน่ายตั๋ว เพื่อเข้าระบบพร้อมด้วยลูกสาวที่ถือลูกโป่งจึงได้ถูกนายสถานีผู้หญิงและ รปภ. ห้ามปรามมิให้นำลูกโป่งเข้าไปในระบบอีกตามกฎระเบียบของบริษัทฯ

นายอาณัติ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้กับเจ้าตัว เพราะสามารถเดินทางได้มาตั้งแต่ต้นทางและมิได้ถูกยับยั้งแต่ประการใด จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้น และทำให้นายจอห์น บีฮัน ไม่พอใจผลักอก รปภ. และยกเท้าเตะนายสถานี ทำให้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนกันขึ้นบริเวณประตูทางเข้าอัตโนมัติ ซึ่ง รปภ.ได้ป้องกันตัว พร้อมกับใช้อุปกรณ์สำหรับตรวจโลหะที่ถือติดตัวอยู่ ตีเข้าไปที่คอผู้โดยสารจนได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่สถานีพยายามที่จะนำตัวผู้โดยสารไปปฐมพยาบาล แต่เจ้าตัวไม่ยินยอมและต้องการเดินทางกลับขึ้นรถไฟฟ้าต่อ โดยขึ้นไปบนชั้นชานชาลา ทำให้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นอีกครั้งเหตุการณ์ดังกล่าว บริษัทฯ มิได้นิ่งนอนใจโดยทันทีที่ได้รับรายงานได้มีการสอบสวนข้อเท็จจริง และได้สั่งการให้ย้าย รปภ. ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ที่รับจ้างภายนอกออกไปให้พ้นจากระบบของบีทีเอสทันที ส่วนพนักงานที่ได้ปล่อยปละละเลยซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้โดยสารไม่พอใจและบันดาลโทสะ และมีส่วนร่วมทำให้ผู้โดยสารบาดเจ็บ บริษัทฯ ได้สั่งสอบสวน เพื่อลงโทษทางวินัยขั้นสูงสุดต่อไป

"สำหรับคดีความที่นายจอห์น ได้ไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับพนักงานนั้น ทางบริษัทฯ ยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่ในการสอบสวน ส่วนของความรับผิดชอบทางด้านจริยธรรม ทางบริษัทฯ และพนักงานทุกคนขอแสดงความเสียใจ และขออภัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของนายจอห์น ผ่านสาธารณชน ทั้งนี้บริษัทจะหาหนทางและมาตรการควบคุมเพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกต่อไปในอนาคต" นายอาณัติ กล่าวชี้แจง.

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th    

This entry was posted in News