เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ศูนย์ประชุมไบเทค บางนา กรมคุมประพฤติ
จัดงานเปิดตัวโครงการพ่อแม่อาสา นำพาปลอดยาเสพติด
กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ 80 พรรษา มหาราชินี
เพื่อบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดคืนคนดีสู่สังคม
โดยเน้นให้พ่อแม่และผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด
โดยร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐตรี เป็นประธาน
พร้อมด้วยพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรมและนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์
ปลัดกระทรวงยุติธรรม โดยร.ต.อ.เฉลิม
กล่าวว่าบุคคลในครอบครัวถือเป็นผู้ที่มีความใกล้ชิดกับบุตรหลานมากที่สุด
จึงเชื่อว่าจะเข้าใจปัญหาและเป็นผู้บำบัดได้ดีที่สุด
ทั้งนี้โครงการพ่อแม่อาสานำพาปลอดยาเสพติดถือเป็นรุ่นแรกที่เริ่มเปิดตัว
โครงการจะให้พ่อแม่ของผู้เข้ารับการฟื้นฟูที่อยู่ในเขตพื้นที่ภาคกลาง
กทม.และธนบุรี ประมาณ 20,000 คนเข้าอบรมการบำบัดหน้าที่พ่อแม่อาสา
โดยให้พ่อแม้สามารถใช้อุปกรณ์ตรวจสารเสพติดได้ด้วยตัวเอง ส่วนรุ่นที่ 2
จะให้พ่อแม่ผู้เข้ารับการบำบัดฟื้นฟูในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวน
10,000 คนเข้ารับการอบรมหลังจากนั้นจะมีการอบรมครั้งใหญ่ทั่วประเทศ
ซึ่งตั้งเป้าให้มีเครือข่ายพ่อแม่อาสาเข้าอบรมให้ได้ 200,000 คน
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า โครงการนี้มีจุดประสงค์เพื่อเปลี่ยนบ้านให้เป็นสถานฟื้นฟูดูแลบุตรหลาน ส่งเสริมการให้ความรักความอบอุ่น เพราะปัญหาคนในครอบครัวต้องแก้ด้วยครอบครัว มุ่งสร้างครอบครัวร่วมเป็นหูเป็นตา โดยเฉพาะเป็นภาคีตรวจหาสารเสพติดของบุตรหลานด้วยตัวเอง สำหรับการอบรมพ่อแม่อาสาจะมีการให้ความรู้เกี่ยวกับการตรวจหาสารเสพติด พร้อมแจกคู่มือการปฏิบัติตัวของพ่อแม่และเปิดช่องทางติดต่อสื่อสารใกล้ชิด ระหว่างพ่อแม่และสำนักงานคุมประพฤติ ทั้งนี้สถิติการฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดในระบบบังคับรักษาและผู้ติดยาที่เข้า สู่กระบวนการฟื้นฟูตั้งแต่เดือนมี.ค. 2546-พ.ค. 2555 มีจำนวนทั้งสิ้น 756,020 คน
ด้านนายอุดม อายุ 62 ปี ชาวจ.สระแก้ว หนึ่งในผู้ปกครองที่เข้าร่วมโครงการพ่อแม่อาสากล่าวว่า ตนสมัครใจเข้าร่วมโครงการเพื่อหวังจะช่วยดูแลลูกชายที่ก้าวพลาดไปเกี่ยวข้อง กับยาเสพติด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างบำบัดจะครบ 6 เดือนแล้ว ซึ่งในฐานะผู้ปกครองมองว่าคนใกล้ชิดมีส่วนช่วยผู้บำบัดได้มาก โดยเฉพาะการให้กำลังใจและไม่ซ้ำเติมแต่ใช้วิธีตักเตือนด้วยประสบการณ์และ เหตุผล ซึ่งตนพยายามบอกให้ลูกชายเข้าใจถึงโทษของยาเสพติดว่าเป็นสิ่งที่สังคมไม่ยอม รับ และเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ทั้งนี้ เห็นว่าในส่วนของรัฐบาลควรทำหน้าที่ในการปราบปรามยาเสพติดให้เด็ดขาด เพื่อเป็นการป้องกันตั้งแต่ต้นทาง ขณะเดียวกันเห็นว่าปัจจุบันมีข้าราชการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งผิด กฎหมายมากขึ้นจึงต้องการให้ภาครัฐช่วยกวดขันด้วย.
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า โครงการนี้มีจุดประสงค์เพื่อเปลี่ยนบ้านให้เป็นสถานฟื้นฟูดูแลบุตรหลาน ส่งเสริมการให้ความรักความอบอุ่น เพราะปัญหาคนในครอบครัวต้องแก้ด้วยครอบครัว มุ่งสร้างครอบครัวร่วมเป็นหูเป็นตา โดยเฉพาะเป็นภาคีตรวจหาสารเสพติดของบุตรหลานด้วยตัวเอง สำหรับการอบรมพ่อแม่อาสาจะมีการให้ความรู้เกี่ยวกับการตรวจหาสารเสพติด พร้อมแจกคู่มือการปฏิบัติตัวของพ่อแม่และเปิดช่องทางติดต่อสื่อสารใกล้ชิด ระหว่างพ่อแม่และสำนักงานคุมประพฤติ ทั้งนี้สถิติการฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดในระบบบังคับรักษาและผู้ติดยาที่เข้า สู่กระบวนการฟื้นฟูตั้งแต่เดือนมี.ค. 2546-พ.ค. 2555 มีจำนวนทั้งสิ้น 756,020 คน
ด้านนายอุดม อายุ 62 ปี ชาวจ.สระแก้ว หนึ่งในผู้ปกครองที่เข้าร่วมโครงการพ่อแม่อาสากล่าวว่า ตนสมัครใจเข้าร่วมโครงการเพื่อหวังจะช่วยดูแลลูกชายที่ก้าวพลาดไปเกี่ยวข้อง กับยาเสพติด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างบำบัดจะครบ 6 เดือนแล้ว ซึ่งในฐานะผู้ปกครองมองว่าคนใกล้ชิดมีส่วนช่วยผู้บำบัดได้มาก โดยเฉพาะการให้กำลังใจและไม่ซ้ำเติมแต่ใช้วิธีตักเตือนด้วยประสบการณ์และ เหตุผล ซึ่งตนพยายามบอกให้ลูกชายเข้าใจถึงโทษของยาเสพติดว่าเป็นสิ่งที่สังคมไม่ยอม รับ และเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ทั้งนี้ เห็นว่าในส่วนของรัฐบาลควรทำหน้าที่ในการปราบปรามยาเสพติดให้เด็ดขาด เพื่อเป็นการป้องกันตั้งแต่ต้นทาง ขณะเดียวกันเห็นว่าปัจจุบันมีข้าราชการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งผิด กฎหมายมากขึ้นจึงต้องการให้ภาครัฐช่วยกวดขันด้วย.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น