เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 ก.ค. นายธนัท สุวัธนเมธากุล
รองอธิบดีกรมศุลกากร นางอรอนงค์ วัชรเศรษฐกุล รองอธิบดีด้านปราบปราม
นางชลิดา พันธ์กระวี ผอ.สำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
พร้อมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและ
สำนักสืบสวนและปราบปราม
ร่วมกันแถลงผลการตรวจยึดงาช้างที่ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศแอฟริกาจำนวน 158
ท่อน มูลค่าประมาณ 22.80 ล้านบาท
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบลังไม้ต้องสงสัย 6 ลัง ที่ไม่มีผู้แสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าขนมาจากประเทศเคนย่า ด้วยเที่ยวบิน เคคิว 886 สำแดงรายละเอียดสินค้าเป็นประเภทงานฝีมือหัตถกรรม และไม่มีใบขนสินค้าตามพิธีการศุลกากร จึงเปิดพิสูจน์ทราบปรากฏว่าเป็นงาช้างแอฟริกาที่ถูกตัดเป็นท่อนสั้น ๆ ยาวประมาณ 50-80 เซนติเมตร รวม 158 ท่อน น้ำหนัก 456.12 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 22.80 ล้านบาท จึงยึดไว้ เนื่องจากเป็นของต้องห้ามมิให้นำเข้ามาราชอาณาจักร ตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญ พันธุ์ (CITES) และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535
นายธนัท สุวัธนเมธากุล รองอธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ตามที่กรมศุลกากร ได้กำหนดเป็นนโยบายที่สำคัญในการเร่งรัดการปราบปรามสินค้าลักลอบ หลีกเลี่ยงอาการ รวมถึงความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีและการปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมศุลกากร จึงสั่งการให้ทุกฝ่ายร่วมกันเฝ้าระวังและสกัดกั้นขบวนการลักลอบของต้องห้าม นำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยเฉพาะการลักลอบนำเข้างาช้างที่มีมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการป้องกันและสกัดกั้นแล้ว อยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันให้ความรู้ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมมือกัน สกัดกั้นและตรวจตรากันอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการปลูกฝังให้เด็กนักเรียนและเยาวชนให้มีจิตสำนึกในการรักษา ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสอนให้รู้ว่าการลักลอบนำเข้าสิ่งเหล่านี้ มีความผิดที่ร้ายแรง กรณีนี้อาจจะมีการลำทายหรือเก็บไว้ใช้ศึกษาต่อไป.
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบลังไม้ต้องสงสัย 6 ลัง ที่ไม่มีผู้แสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าขนมาจากประเทศเคนย่า ด้วยเที่ยวบิน เคคิว 886 สำแดงรายละเอียดสินค้าเป็นประเภทงานฝีมือหัตถกรรม และไม่มีใบขนสินค้าตามพิธีการศุลกากร จึงเปิดพิสูจน์ทราบปรากฏว่าเป็นงาช้างแอฟริกาที่ถูกตัดเป็นท่อนสั้น ๆ ยาวประมาณ 50-80 เซนติเมตร รวม 158 ท่อน น้ำหนัก 456.12 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 22.80 ล้านบาท จึงยึดไว้ เนื่องจากเป็นของต้องห้ามมิให้นำเข้ามาราชอาณาจักร ตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญ พันธุ์ (CITES) และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535
นายธนัท สุวัธนเมธากุล รองอธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ตามที่กรมศุลกากร ได้กำหนดเป็นนโยบายที่สำคัญในการเร่งรัดการปราบปรามสินค้าลักลอบ หลีกเลี่ยงอาการ รวมถึงความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีและการปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมศุลกากร จึงสั่งการให้ทุกฝ่ายร่วมกันเฝ้าระวังและสกัดกั้นขบวนการลักลอบของต้องห้าม นำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยเฉพาะการลักลอบนำเข้างาช้างที่มีมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการป้องกันและสกัดกั้นแล้ว อยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันให้ความรู้ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมมือกัน สกัดกั้นและตรวจตรากันอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการปลูกฝังให้เด็กนักเรียนและเยาวชนให้มีจิตสำนึกในการรักษา ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสอนให้รู้ว่าการลักลอบนำเข้าสิ่งเหล่านี้ มีความผิดที่ร้ายแรง กรณีนี้อาจจะมีการลำทายหรือเก็บไว้ใช้ศึกษาต่อไป.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น