วันนี้ (17 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ครม.
ถึงการดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม
มาตรา 291 ไม่เข้าข่ายกระทำผิด มาตรา 68
ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ว่า
การตัดสินใจในเรื่องนี้อยู่ที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี(ครม.)
แต่ตนคิดว่าถ้ายังเดินหน้าให้รัฐสภาลงมติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
มาตรา 291 วาระ 3 ก็จะมีปัญหาตามมาอย่างแน่นอน
ซึ่งตนคิดว่าเรื่องนี้อย่าใช้ความรู้สึก
แต่ต้องใช้ความรอบคอบและแม่นยำในข้อกฎหมาย ทั้งนี้
การที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยกคำร้องที่ว่าเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบ
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
เป็นเพราะกระบวนการขั้นตอนยังไม่แล้วเสร็จ แต่ถ้ายังดื้อดึงไปลงมติวาระ 3
ก็จะมีคนร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญทันที ซึ่งถือว่าเป็นความผิดสำเร็จ
และรัฐบาลจะอยู่ยาก เนื่องจากถ้าผ่านร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา
291 วาระ 3 และมีคนร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ
ศาลฯจะมีคำสั่งให้ชะลอและต้องเสนอต่อนายกรัฐมนตรีภายใน 20 วัน
นายกรัฐมนตรีจะต้องนำขึ้นกราบบังคมทูลฯ
ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะตกอยู่ในที่นั่งลำบาก
และตนเห็นว่าไม่ความจำเป็นอะไรที่ต้องไปดื้อดึง
ดังนั้นเมื่อศาลรัฐธรรมนูญบอกอย่างนี้ ก็ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา
อีกทั้งถ้าเดินลงมติวาระ 3
แล้วมีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมายกร่างก็ต้องไปขอประชามติ
ซึ่งเป็นกระบวนการขั้นตอนที่ลำบาก ทั้งนี้
ตนคิดว่าการที่ศาลรัฐธรรมนูญชี้แนะมาอย่างนี้มีความเหมาะสม จะรีบร้อนทำไม
ต่อข้อถามว่าถ้ายังเดินหน้าให้รัฐสภาลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 จะทำให้พรรคเพื่อไทยมีโอกาสที่จะถูกยุบมากแค่ไหน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า มีล้านเปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม ตนไม่ร่วมลงมติวาระ 3 อย่างแน่นอน โดยตนไม่กลัวว่าจะทำให้ถูกปรับออกจากครม. เพราะความกลัวทำให้เสื่อม ทั้งนี้ ตนไม่ได้ร่วมการประชุมของพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ได้ทำบันทึกความเห็นของตนส่งไปยังพรรคเพื่อไทยแทน ซึ่งระบุว่าควรแก้ไขมาตราใดบ้าง โดยประเด็นที่เกี่ยวกับศาลรัฐธรรมนูญซึ่งจะให้มีการควบรวม โดยศาลรัฐธรรมนูญยังมีอำนาจหน้าที่เหมือนเดิม โดยต้องอยู่บนความถูกต้อง ชอบธรรม แต่ต้องมีการถ่วงดุลและตรวจสอบ โดยไม่ให้มีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมีอิทธิพลเหนือบ้านเมือง แต่ตนยังไม่ขอบอกว่าเป็นการควบรวมลักษณะใด เพราะยังไม่มีการเรียกใช้ตน แต่ถ้าตนอธิบายแล้ว สังคมรับได้และไม่มีใครโต้แย้ง
ต่อข้อถามจะทำให้มีปัญหากับกลุ่มคนเสื้อแดงหรือไม่ รองนายกฯตอบว่า ต้องทำความเข้าใจกันว่าการแก้ไขเป็นรายมาตราจะทำได้เร็วกว่าและสามารถกำหนด ทิศทางได้ แต่ถ้ามีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) เรากำหนดทิศทางไม่ได้ ซึ่งตนเชื่อว่าจะทำความเข้าใจกันได้ ไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าสุดท้ายจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ไปเป็นอย่างอื่นไม่ได้ อย่างไรก็ตามตนจะไม่เสนอความเห็นต่อที่ประชุมครม.วันนี้(17 ก.ค.) เพราะเสนอความเห็นต่อพรรคเพื่อไทยแล้ว.
ต่อข้อถามว่าถ้ายังเดินหน้าให้รัฐสภาลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 จะทำให้พรรคเพื่อไทยมีโอกาสที่จะถูกยุบมากแค่ไหน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า มีล้านเปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม ตนไม่ร่วมลงมติวาระ 3 อย่างแน่นอน โดยตนไม่กลัวว่าจะทำให้ถูกปรับออกจากครม. เพราะความกลัวทำให้เสื่อม ทั้งนี้ ตนไม่ได้ร่วมการประชุมของพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ได้ทำบันทึกความเห็นของตนส่งไปยังพรรคเพื่อไทยแทน ซึ่งระบุว่าควรแก้ไขมาตราใดบ้าง โดยประเด็นที่เกี่ยวกับศาลรัฐธรรมนูญซึ่งจะให้มีการควบรวม โดยศาลรัฐธรรมนูญยังมีอำนาจหน้าที่เหมือนเดิม โดยต้องอยู่บนความถูกต้อง ชอบธรรม แต่ต้องมีการถ่วงดุลและตรวจสอบ โดยไม่ให้มีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมีอิทธิพลเหนือบ้านเมือง แต่ตนยังไม่ขอบอกว่าเป็นการควบรวมลักษณะใด เพราะยังไม่มีการเรียกใช้ตน แต่ถ้าตนอธิบายแล้ว สังคมรับได้และไม่มีใครโต้แย้ง
ต่อข้อถามจะทำให้มีปัญหากับกลุ่มคนเสื้อแดงหรือไม่ รองนายกฯตอบว่า ต้องทำความเข้าใจกันว่าการแก้ไขเป็นรายมาตราจะทำได้เร็วกว่าและสามารถกำหนด ทิศทางได้ แต่ถ้ามีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) เรากำหนดทิศทางไม่ได้ ซึ่งตนเชื่อว่าจะทำความเข้าใจกันได้ ไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าสุดท้ายจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ไปเป็นอย่างอื่นไม่ได้ อย่างไรก็ตามตนจะไม่เสนอความเห็นต่อที่ประชุมครม.วันนี้(17 ก.ค.) เพราะเสนอความเห็นต่อพรรคเพื่อไทยแล้ว.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น