วันนี้ (15 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.ท.ประดับ
เชื้อโพหัก สวส. สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี ว่าเมื่อช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา
ได้เกิดเหตุยิงกันภายในร้านอาหารเชดกุ้งย่าง เลขที่ 113
ริมถนนสายโพธาราม –บ้านเลือก เขตเทศบาลโพธาราม จึงพร้อมด้วย
พ.ต.อ.ภาสกรณ์ เกตุอำนวยกุล ผกก.สภ.โพราม และ นายตำรวจในสังกัด
รีบไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบกองเลือด ที่โต๊ะอาหาร บนพื้นมีหัวกระสุนปืนขนาด .22 จํานวน 2 หัวตกอยู่ นอกจากนั้นที่บริเวณป้ายร้านอาหารและพื้นปูนริมฟุตบาทมีรอยถูกกระสุนปืนหลาย จุด และ ที่บริเวณท้ายรถยนต์เบนส์ สีขาว ถูกกระสุนปืนเป็นรูพรุน ส่วนผู้ถูกกระสุนปืนบาดเจ็บ มีทั้งหมด 4 คน ทราบชื่อต่อมา น.ส.รัตนาภรณ์ สันติภราภพ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 255 หมู่ 4 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี เจ้าของกิจการขายเกาลัดใน จ.ราชบุรี , นายพงษ์เทพ มุทาหัตภากร อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/16 ตลิ่งชัน กรุงเทพฯ , นายกฤษฎี ธารธนา อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 217 / 1 ถนนรถไฟ เขตเทศบาลโพธาราม และ นายธนวุฒิ มุนินทร์สาคร อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 ถนนสามัคคี เขตเทศบาลโพธาราม ทั้งหมดถูกนําตัวส่ง รพ.โพธาราม ไปก่อนหน้านี้ แต่ภายหลัง นางสาวรัตนาภรณ์ ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เนื่องจากถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .22 เข้าที่ด้านหลัง กระสุนทะลุหน้าอกตัดขั้วหัวใจ เสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายและผู้บาดเจ็บมีเพื่อนรวมทั้งหมด 9 คน เป็นคนมีฐานะดี ขับรถเบ็นซ์สีขาว และรถลัมโบกินี่ สีเหลืองออกส้ม ทะเบียน สส.66 กรุงเทพมหานคร ไปร่วมงานศพใน อ.โพธาราม หลังจากนั้น ทั้งหมดได้มานั่งส่งอาหารกินที่ร้านเชดกุ้งย่างที่เกิดเหตุ ในระหว่างนั้น ได้มีกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์มาเป็นแก๊งกว่า 10 คัน ขับไล่กวดตีรถจักรยานยนต์คู่อริมาตามถนน จนมาถึงหน้าร้าน กลุ่มวัยรุ่นที่ถูกไล่กวดขี่จยย. หลบหนีเข้ามาจอดภายในร้านอาหาร แล้วพากันจะวิ่งหลบหนีไปทางด้านหลังร้าน กลุ่มแก๊งรถจักรยานยนต์ที่ขับไล่กวดมาจึงจอดรถจยย. ก่อนจะชักอาวุธปืนยิงกราดเข้าไปหวังจะสังหารคู่อริ แต่กระสุนปืนพลาดไปถูก นางสาวรัตนาภรณ์ฯ ที่กำลังนั่งกินอาหารอยู่จนเสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บอีก 3 ราย หลังก่อเหตุกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดได้พากันแยกย้ายหลบหนี
ทางด้าน พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบ.ตร.ภ.7 , พล.ต.ต.สมบูรณ์ ฮวบบางยาง รองผบ.ตร.ภ.7 ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพธาราม เร่งติดตามจับกุมแก๊งวัยรุ่นที่ก่อเหตุ มาดำเนินคดีโดยเร็ว ซึ่งขณะนี้ทราบแล้วว่ากลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุแก๊งนี้ คือ“แก๊งหนองรี” ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังไล่ติดตามจับกุมตัว คาดว่าคงจะได้ตัวในเร็วๆนี้
ขณะที่ นายชัยยะ สันติธาราภพ อายุ 27 ปี น้องชายนางสาวรัตนาพรณ์ ผู้เสียชีวิต ได้กล่าวว่ารู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทราบมาว่าพี่สาวได้มาทำธุระที่เขต อ.โพธาราม กับเพื่อนๆ และได้มานั่งรับประทานอาหารที่ร้านเชดกุ้งย่าง แต่กับต้องมาถูกกลุ่มวัยรุ่นที่ทะเลาะวิวาทกันมา จนถึงขั้นใช้อาวุธปืนไล่ยิงมาตามท้องถนน และเป็นเหตุให้พี่สาวตนต้องมาถูกลูกหลง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ทั้งๆที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย ตนมองว่าสังคมในทุกวันนี้ เสื่อมทรามลงไปทุกที อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ช่วยกันมีมาตรการในการป้องกัน ปราบปรามให้มากขึ้นกว่านี้ สำหรับพี่สาวของตนนั้นได้ประกอบธุรกิจนำเข้าเกาลัค แล้วนำมาบรรจุหีบห่อ ส่งขายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ในชื่อว่า เกาลัค ตี๋เฮง มีโรงงานตั้งอยู่ที่ ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี
เมื่อไปถึงพบกองเลือด ที่โต๊ะอาหาร บนพื้นมีหัวกระสุนปืนขนาด .22 จํานวน 2 หัวตกอยู่ นอกจากนั้นที่บริเวณป้ายร้านอาหารและพื้นปูนริมฟุตบาทมีรอยถูกกระสุนปืนหลาย จุด และ ที่บริเวณท้ายรถยนต์เบนส์ สีขาว ถูกกระสุนปืนเป็นรูพรุน ส่วนผู้ถูกกระสุนปืนบาดเจ็บ มีทั้งหมด 4 คน ทราบชื่อต่อมา น.ส.รัตนาภรณ์ สันติภราภพ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 255 หมู่ 4 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี เจ้าของกิจการขายเกาลัดใน จ.ราชบุรี , นายพงษ์เทพ มุทาหัตภากร อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/16 ตลิ่งชัน กรุงเทพฯ , นายกฤษฎี ธารธนา อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 217 / 1 ถนนรถไฟ เขตเทศบาลโพธาราม และ นายธนวุฒิ มุนินทร์สาคร อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 ถนนสามัคคี เขตเทศบาลโพธาราม ทั้งหมดถูกนําตัวส่ง รพ.โพธาราม ไปก่อนหน้านี้ แต่ภายหลัง นางสาวรัตนาภรณ์ ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เนื่องจากถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .22 เข้าที่ด้านหลัง กระสุนทะลุหน้าอกตัดขั้วหัวใจ เสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายและผู้บาดเจ็บมีเพื่อนรวมทั้งหมด 9 คน เป็นคนมีฐานะดี ขับรถเบ็นซ์สีขาว และรถลัมโบกินี่ สีเหลืองออกส้ม ทะเบียน สส.66 กรุงเทพมหานคร ไปร่วมงานศพใน อ.โพธาราม หลังจากนั้น ทั้งหมดได้มานั่งส่งอาหารกินที่ร้านเชดกุ้งย่างที่เกิดเหตุ ในระหว่างนั้น ได้มีกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์มาเป็นแก๊งกว่า 10 คัน ขับไล่กวดตีรถจักรยานยนต์คู่อริมาตามถนน จนมาถึงหน้าร้าน กลุ่มวัยรุ่นที่ถูกไล่กวดขี่จยย. หลบหนีเข้ามาจอดภายในร้านอาหาร แล้วพากันจะวิ่งหลบหนีไปทางด้านหลังร้าน กลุ่มแก๊งรถจักรยานยนต์ที่ขับไล่กวดมาจึงจอดรถจยย. ก่อนจะชักอาวุธปืนยิงกราดเข้าไปหวังจะสังหารคู่อริ แต่กระสุนปืนพลาดไปถูก นางสาวรัตนาภรณ์ฯ ที่กำลังนั่งกินอาหารอยู่จนเสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บอีก 3 ราย หลังก่อเหตุกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดได้พากันแยกย้ายหลบหนี
ทางด้าน พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบ.ตร.ภ.7 , พล.ต.ต.สมบูรณ์ ฮวบบางยาง รองผบ.ตร.ภ.7 ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพธาราม เร่งติดตามจับกุมแก๊งวัยรุ่นที่ก่อเหตุ มาดำเนินคดีโดยเร็ว ซึ่งขณะนี้ทราบแล้วว่ากลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุแก๊งนี้ คือ“แก๊งหนองรี” ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังไล่ติดตามจับกุมตัว คาดว่าคงจะได้ตัวในเร็วๆนี้
ขณะที่ นายชัยยะ สันติธาราภพ อายุ 27 ปี น้องชายนางสาวรัตนาพรณ์ ผู้เสียชีวิต ได้กล่าวว่ารู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทราบมาว่าพี่สาวได้มาทำธุระที่เขต อ.โพธาราม กับเพื่อนๆ และได้มานั่งรับประทานอาหารที่ร้านเชดกุ้งย่าง แต่กับต้องมาถูกกลุ่มวัยรุ่นที่ทะเลาะวิวาทกันมา จนถึงขั้นใช้อาวุธปืนไล่ยิงมาตามท้องถนน และเป็นเหตุให้พี่สาวตนต้องมาถูกลูกหลง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ทั้งๆที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย ตนมองว่าสังคมในทุกวันนี้ เสื่อมทรามลงไปทุกที อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ช่วยกันมีมาตรการในการป้องกัน ปราบปรามให้มากขึ้นกว่านี้ สำหรับพี่สาวของตนนั้นได้ประกอบธุรกิจนำเข้าเกาลัค แล้วนำมาบรรจุหีบห่อ ส่งขายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ในชื่อว่า เกาลัค ตี๋เฮง มีโรงงานตั้งอยู่ที่ ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น