วันนี้ (2 ส.ค.)พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา
รองนายกรัฐมนตรี
ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.)
จะเสนอให้ประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดน
ภาคใต้ว่า ตนเห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นเจ้าหน้าที่ยังดูแลพื้นที่ได้
เพราะถ้าประกาศเคอร์ฟิวแล้วจะทำให้กลุ่มผู้ก่อเหตุไม่สงบมีความได้เปรียบทาง
จิตวิทยา
ว่าสถานการณ์มีความรุนแรงและต้องการให้ทำให้ต่างประเทศหันมาให้ความสนใจ
แตถ้าจำเป็นต้องประกาศใช้จริงก็จะประกาศไม่เต็มพื้นที่
อาจใช้เฉพาะบางเส้นทางที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย
เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความวิตกกังวล
และไม่ให้เกิดความเสียหายด้านเศรษฐกิจ นอกจากนี้
เรากำลังดำเนินการร่างแผนระดับชาติและระดับพื้นที่ ภาคที่ 4
เพื่อแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเสนอต่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี ในการประชุมเชิงปฏิบัติการ วันที่ 8 ส.ค.นี้
เพื่อให้การประสานงานมีความรวดเร็วและกระชับมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา
นายกรัฐมนตรีได้ให้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
เพื่อให้หลายหน่วยงานบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพ ทั้งทหาร ตำรวจ
และหน่วยปกครอง
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ยังกล่าวถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงวัน หยุดที่เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาว่า ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ไปดูแลพระสงฆ์และชาวพุทธที่จะไปทำบุญหรือประกอบ พิธีทางศาสนาพุทธ อย่างเข้มงวดมากขึ้น อีกทั้งให้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปประจำการเฝ้าระวังในพื้นที่ที่มีการทำ บุญ และขอให้การประกอบพิธีทางศาสนาเลิกเร็วกว่าปกติเพื่อไม่ให้เป็นเป้าเสี่ยง เพระขณะนี้กลุ่มผู้ก่อเหตุตั้งใจจะสร้างสถานการณ์กับคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าไทยพุทธและไทยมุสลิม ดังนั้นการดูแลต้องทำอย่างเต็มที่ ทั้งนี้กลุ่มผู้ก่อเหตุมีหลายกลุ่มที่ต้องการมาแสดงพลังเพื่อแข่งกันสร้าง อำนาจ โดยใช้เจ้าหน้าที่รัฐเป็นเหยื่อ อีกทั้งผู้ก่อเหตุยังมีทั้งที่เป็นกลุ่มแบ่งแยกดินแดน กลุ่มผู้ค้ายาเสพติด และผู้ที่ค้าของเถื่อนหรือหนีภาษี ซึ่งเสียประโยชน์จากการที่เจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจค้นในช่วงที่ผ่านมาและยึด ของกลางได้จำนวนมาก
ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยจากกระแสข่าวที่ว่าจะเกิดเหตุคาร์บอมบ์ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัด รวมถึงกำลังตำรวจและทหาร กว่า 1 พันนาย ออกตรวจเข้มและวางกำลังดูแลอย่างเต็มที่ ควบคู่กับการขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ทั้งนี้เราไม่ได้ดูแลเฉพาะที่อ.หาดใหญ่ แต่ยังครอบคลุมถึง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนการติดตามรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมซึ่งคาดว่าจะถูกนำไปใช้ก่อเหตุนั้น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถยึดรถยนต์ที่ถูกโจรกรรม กลับคืนได้ 1 คันแล้ว นอกจากนี้หน่วยนาวิกโยธินได้ตรวจยึดอุปกรณ์ที่จะใช้ในการก่อเหตุคาร์บอมบ์ ได้เป็นจำนวนมาก ขณะที่การดูแลโรงเรียนที่ตกเป็นเป้าของการก่อเหตุนั้น ตนได้ให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.)เข้าไปดูแลโรงเรียน ทั่วไปและโรงเรียนสอนศาสนาอย่างใกล้ชิด ไม่ใช่เฉพาะให้ทหารไปดูแลครูเท่านั้น เพราะต้องให้ความมั่นใจต่อครูและนักเรียนว่ามีความปลอดภัย
พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการทำงานร่วมกับร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นั้นไม่มีปัญหา เพราะทำงานร่วมกันได้ดีมาตลอด อีกทั้ง การลงพื้นที่ของผู้บัญชาการเหล่าทัพพร้อมกันก็จะทำให้ผู้ปฏิบัติงานมีทิศทาง การทำงานเดียวกันมากขึ้น ทั้งนี้ตนขอให้หน่วยงาน 17 แห่งจาก 9 กระทรวงที่มีหน้าที่รับผิดชอบแก้ปัญหานี้ ลงพื้นที่ปฏิบัติงานร่วมกันมากกว่าการของบประมาณด้วย เพราะคนในพื้นที่มีความเดือดร้อนและรอความช่วยเหลือหลายด้าน เช่น การศึกษา และการเกษตร
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ยังกล่าวถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงวัน หยุดที่เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาว่า ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ไปดูแลพระสงฆ์และชาวพุทธที่จะไปทำบุญหรือประกอบ พิธีทางศาสนาพุทธ อย่างเข้มงวดมากขึ้น อีกทั้งให้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปประจำการเฝ้าระวังในพื้นที่ที่มีการทำ บุญ และขอให้การประกอบพิธีทางศาสนาเลิกเร็วกว่าปกติเพื่อไม่ให้เป็นเป้าเสี่ยง เพระขณะนี้กลุ่มผู้ก่อเหตุตั้งใจจะสร้างสถานการณ์กับคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าไทยพุทธและไทยมุสลิม ดังนั้นการดูแลต้องทำอย่างเต็มที่ ทั้งนี้กลุ่มผู้ก่อเหตุมีหลายกลุ่มที่ต้องการมาแสดงพลังเพื่อแข่งกันสร้าง อำนาจ โดยใช้เจ้าหน้าที่รัฐเป็นเหยื่อ อีกทั้งผู้ก่อเหตุยังมีทั้งที่เป็นกลุ่มแบ่งแยกดินแดน กลุ่มผู้ค้ายาเสพติด และผู้ที่ค้าของเถื่อนหรือหนีภาษี ซึ่งเสียประโยชน์จากการที่เจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจค้นในช่วงที่ผ่านมาและยึด ของกลางได้จำนวนมาก
ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยจากกระแสข่าวที่ว่าจะเกิดเหตุคาร์บอมบ์ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัด รวมถึงกำลังตำรวจและทหาร กว่า 1 พันนาย ออกตรวจเข้มและวางกำลังดูแลอย่างเต็มที่ ควบคู่กับการขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ทั้งนี้เราไม่ได้ดูแลเฉพาะที่อ.หาดใหญ่ แต่ยังครอบคลุมถึง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนการติดตามรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมซึ่งคาดว่าจะถูกนำไปใช้ก่อเหตุนั้น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถยึดรถยนต์ที่ถูกโจรกรรม กลับคืนได้ 1 คันแล้ว นอกจากนี้หน่วยนาวิกโยธินได้ตรวจยึดอุปกรณ์ที่จะใช้ในการก่อเหตุคาร์บอมบ์ ได้เป็นจำนวนมาก ขณะที่การดูแลโรงเรียนที่ตกเป็นเป้าของการก่อเหตุนั้น ตนได้ให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.)เข้าไปดูแลโรงเรียน ทั่วไปและโรงเรียนสอนศาสนาอย่างใกล้ชิด ไม่ใช่เฉพาะให้ทหารไปดูแลครูเท่านั้น เพราะต้องให้ความมั่นใจต่อครูและนักเรียนว่ามีความปลอดภัย
พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการทำงานร่วมกับร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นั้นไม่มีปัญหา เพราะทำงานร่วมกันได้ดีมาตลอด อีกทั้ง การลงพื้นที่ของผู้บัญชาการเหล่าทัพพร้อมกันก็จะทำให้ผู้ปฏิบัติงานมีทิศทาง การทำงานเดียวกันมากขึ้น ทั้งนี้ตนขอให้หน่วยงาน 17 แห่งจาก 9 กระทรวงที่มีหน้าที่รับผิดชอบแก้ปัญหานี้ ลงพื้นที่ปฏิบัติงานร่วมกันมากกว่าการของบประมาณด้วย เพราะคนในพื้นที่มีความเดือดร้อนและรอความช่วยเหลือหลายด้าน เช่น การศึกษา และการเกษตร
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น