เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 18 ก.ค.
ที่กองการบินกรมการขนส่งทหารบก(ขส.ทบ.) พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม
พร้อมด้วยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก
ผอ.สำนักนโยบายและแผนกระทรวงกลาโหม และผู้แทนจากกระทรวงต่างประเทศ
พร้อมด้วยคณะสื่อมวลชน เดินทางไปยังหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 23
(ฉก.กรมทพ.23) อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ
เพื่อกระทำพิธีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.)เข้าไปทดแทน
กำลังทหารในพื้นที่เขาพระวิหาร
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวก่อนออกเดินทางว่า ภารกิจที่เดินทางไปวันนี้ เพื่อไปปรับกำลัง และนำเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนเข้าไปทำงานร่วมกับทหารในพื้นที่บริเวณ ที่วางกำลังทหารอยู่ ซึ่งเป็นการดำเนินการแยกกับทางประเทศกัมพูชา คือ ต่างคนต่างทำ ซึ่งทางกัมพูชาก็ทำพิธีปรับกำลังทหารในวันนี้เช่นกัน และในวันนี้ถือโอกาสเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร รวมทั้งเจ้าหน้าที่อื่นๆในพื้นที่
“ผมอยากย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า การที่มีความห่วงใยในเรื่องของอธิปไตย มันเป็นหน้าที่ของทหารและกระทรวงกลาโหมโดยตรงอยู่แล้ว เราคิดมากกว่าท่านเยอะ ไม่ต้องเป็นห่วงในการเสียดินแดนอธิปไตย ไม่ได้เกี่ยวกันเลย ขอร้องอย่าได้กลัวเรื่องนั้น เราทำเต็มที่และคิดแล้วว่า ไม่มีเรื่องเสียดินแดนถึงได้ทำ ซึ่งทางทหาร ตระหนักและทราบดี ไม่ต้องห่วงเรื่องการเสียดินแดน ขอใช้คำว่าไม่เสียเปรียบใคร”
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวอีกว่า มีการพูดกันบ่อยครั้งว่า เรื่องของเราน่าจะใช้หนทางของคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา(จีบีซี) เป็นคนดำเนินการ ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางเราได้ใช้อยู่ หมายความว่า ทางเราได้ตั้งคณะทำงานร่วมไทย-กัมพูชา หรือเจดับบิวจีเป็นเจ้าหน้าที่ทำงาน ขึ้นมา 1 ชุด ภายใต้การทำงานของจีบีซีที่ได้มีการพูดคุยกันมาแล้ว 2 ครั้งในเรื่องของการปรับกำลัง หรือเรียกว่าลูกทำแทนพ่อ ซึ่งตนคิดว่าบรรยากาศ บริเวณเขาพระวิหารดีขึ้นเรื่อยๆ ที่ท่านห่วงเรื่องอะไรทั้งหลายตนก็ขอขอบคุณ เราก็นำคำห่วงใยของท่านมาทำ
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า เราอาจจะเสียดินแดนในการปรับกำลังทหารครั้งนี้ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า คำว่าอาจจะเสียดินแดน นั้นหมายถึงการพูดขึ้นมาลอยๆ มาถามตนอย่างนี้ ตนไม่ตอบ แต่ยืนยันว่า ไม่มีแน่นอนในการเสียดินแดน อย่าไปพูดให้เสียความรู้สึกกันเปล่าๆ เมื่อถามต่อว่า แสดงว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ทราบข้อมูลแล้วออกมาพูดทำให้ประชาชนเกิดความสับสน พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า อย่าไปเสริมต่อถ้าฟังตนสัมภาษณ์ อย่าไปคิดอย่างอื่น ที่ทำ คือ การทำให้เห็นกันจริงๆ โปร่งใส
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่จะมีประชาชนในพื้นที่ออกมาชุมนุมเพื่อคัดค้าน การปรับกำลังทหาร พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ตนได้ข่าวมาเหมือนกัน ถ้าหากเป็นอย่างนี้ก็ต้องมาพูดคุยทำความเข้าใจกัน ว่าไม่มีการเสียดินแดน แต่อย่างใด
ต่อมาเวลา 09.30 น.คณะของรมว.กลาโหม และผบ.ทบ.ได้เดินทางมาถึงหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 โดยมีพล.ท.จีระศักดิ์ ชมประสพ แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ชลิต เมฆมุกดา ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 (พล.ร.6 ) และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ให้การต้อนรับ จากนั้นคณะของรมว.กลาโหมและผบ.ทบ.เข้ารับฟังการบรรยายสรุปจากแม่ทัพภาคที่ 2 กว่า 1 ชั่วโมง
จากนั้นเวลา 11.00 น. พล.อ.อ.สุกำพล ได้เป็นประธานในพิธีการวางกำลังตชด.จำนวน 2 กองร้อยแทนกำลังทหาร โดยพล.อ.อ.สุกำพล กล่าวให้โอวาทตชด.ตอนหนึ่งว่า หลังจากที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้มีคำสั่งมาตรการชั่วคราวเมื่อวันที่ 18 ก.ค.54 ให้ไทยและกัมพูชามีการปรับกำลังทหาร ซึ่งอยู่ในเขตทหารชั่วคราวในบริเวณพื้นที่ปราสาทพระวิหาร ฝ่ายไทยได้มีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการให้สอดคล้องกับ คำสั่งดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง
โดยเมื่อวันที่ 13ก.ค.ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฯ ฮุน เซนนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้พบปะหารือที่เมืองเสียมราฐและได้ร่วมแถลงข่าวในเรื่องการปรับกำลังทหารใน พื้นที่ ปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะเริ่มดำเนินการในวันนี้ ทั้งนี้การปรับกำลังเป็นการปรับกำลังโดยความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย และฝ่ายไทยก็จะปรับกำลังในช่วงเวลาพร้อมกันกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก ซึ่งตนทราบว่าพล.ท.จีระศักดิ์ และผู้บังคับบัญชาทหารทุกระดับได้มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับฝ่ายตำรวจมา อย่างต่อเนื่องในการเตรียมการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปประจำการในพื้นที่
“วันนี้พวกท่านถือเป็นตัวแทนปวงชนชาวไทยในการพิทักษ์รักษาอธิปไตยและบูรณภาพ แห่งดินแดนของชาติ ขอท่านเชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นอย่างเคร่งครัด และไม่กระทำการใดๆที่ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศ การเข้าไปอยู่ในพื้นที่ ขอให้พวกท่านทุกคนประสานการปฏิบัติกับฝ่ายทหาร รวมทั้งพัฒนาสัมพันธ์กับประชาชนอย่างใกล้ชิด ท่านจะต้องมีความอดทนอดกลั้นต่อเรื่องสวัสดิการและสถานการณ์ความกดดันความ ยากลำบาก รวมทั้งหากมีการยั่วยุจากฝ่ายตรงข้าม ขอให้นึกถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก ผมและผู้บังคับบัญชาจะให้การดูแลเอาใจใส่พวกท่านอย่างเต็มกำลังความสามารถ รวมทั้งด้านสวัสดิการและความเป็นรอยู่ต่างๆ โดยจะหมั่นมาเยี่ยมให้กำลังใจ ขอให้ทุกคนมีขวัญและกำลังใจที่ดี” รมว.กลาโหม กล่าว
หลังจากนั้นพล.อ.อ.สุกำพล ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เรามาทำพิธีให้ตชด.สับเปลี่ยนกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารบริเวณปราสาทเขา พระวิหาร จะเห็นได้ว่าเรามีการปรับกำลังจริงๆ ซึ่งกำลังตชด.ที่ลงไปมีขวัญกำลังใจที่ดี ส่วนรายละเอียดจำนวนทหารที่ปรับออก ไม่ขอเปิดเผย เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะพูด ส่วนการปรับกำลังทหารทางไทยและกัมพูชาไม่ได้มีการประสานกัน กัมพูชาเพียงบอกว่า เขาจะสับเปลี่ยนกำลังของเขา โดยต่างคนต่างปรับกำลัง เป็นคนละที่กัน ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ทางกัมพูชาจะให้ทหารแต่งชุดพลเรือนและตำรวจลงไปในพื้นที่ชายแดนนั้น จากที่เป็นข่าวก็คงต้องไปดูว่า จริงหรือไม่ ซึ่งการดำเนินการทุกอย่าง ถ้าเป็นลูกผู้ชาย ตกลงกันแบบไหนต้องทำแบบนั้น สำหรับการปรับกำลังขั้นต้นทางฝ่ายไทยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารทำงานร่วมกัน นี่คือก้าวที่หนึ่งเริ่มขึ้นแล้วสำหรับการปรับกำลังและต่อไปคงจะมีการปรับ ขึ้นตามลำดับ แล้วคงจะแจ้งให้สื่อได้ทราบต่อไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นการถอนทหารออกจากพื้นที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวตอบแทนรมว.กลาโหมว่า "ทำไม อยากให้ถอนให้เห็นหรืออย่างไร และทำไมต้องถอนให้เห็นล่ะ"
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวก่อนออกเดินทางว่า ภารกิจที่เดินทางไปวันนี้ เพื่อไปปรับกำลัง และนำเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนเข้าไปทำงานร่วมกับทหารในพื้นที่บริเวณ ที่วางกำลังทหารอยู่ ซึ่งเป็นการดำเนินการแยกกับทางประเทศกัมพูชา คือ ต่างคนต่างทำ ซึ่งทางกัมพูชาก็ทำพิธีปรับกำลังทหารในวันนี้เช่นกัน และในวันนี้ถือโอกาสเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร รวมทั้งเจ้าหน้าที่อื่นๆในพื้นที่
“ผมอยากย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า การที่มีความห่วงใยในเรื่องของอธิปไตย มันเป็นหน้าที่ของทหารและกระทรวงกลาโหมโดยตรงอยู่แล้ว เราคิดมากกว่าท่านเยอะ ไม่ต้องเป็นห่วงในการเสียดินแดนอธิปไตย ไม่ได้เกี่ยวกันเลย ขอร้องอย่าได้กลัวเรื่องนั้น เราทำเต็มที่และคิดแล้วว่า ไม่มีเรื่องเสียดินแดนถึงได้ทำ ซึ่งทางทหาร ตระหนักและทราบดี ไม่ต้องห่วงเรื่องการเสียดินแดน ขอใช้คำว่าไม่เสียเปรียบใคร”
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวอีกว่า มีการพูดกันบ่อยครั้งว่า เรื่องของเราน่าจะใช้หนทางของคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา(จีบีซี) เป็นคนดำเนินการ ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางเราได้ใช้อยู่ หมายความว่า ทางเราได้ตั้งคณะทำงานร่วมไทย-กัมพูชา หรือเจดับบิวจีเป็นเจ้าหน้าที่ทำงาน ขึ้นมา 1 ชุด ภายใต้การทำงานของจีบีซีที่ได้มีการพูดคุยกันมาแล้ว 2 ครั้งในเรื่องของการปรับกำลัง หรือเรียกว่าลูกทำแทนพ่อ ซึ่งตนคิดว่าบรรยากาศ บริเวณเขาพระวิหารดีขึ้นเรื่อยๆ ที่ท่านห่วงเรื่องอะไรทั้งหลายตนก็ขอขอบคุณ เราก็นำคำห่วงใยของท่านมาทำ
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า เราอาจจะเสียดินแดนในการปรับกำลังทหารครั้งนี้ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า คำว่าอาจจะเสียดินแดน นั้นหมายถึงการพูดขึ้นมาลอยๆ มาถามตนอย่างนี้ ตนไม่ตอบ แต่ยืนยันว่า ไม่มีแน่นอนในการเสียดินแดน อย่าไปพูดให้เสียความรู้สึกกันเปล่าๆ เมื่อถามต่อว่า แสดงว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ทราบข้อมูลแล้วออกมาพูดทำให้ประชาชนเกิดความสับสน พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า อย่าไปเสริมต่อถ้าฟังตนสัมภาษณ์ อย่าไปคิดอย่างอื่น ที่ทำ คือ การทำให้เห็นกันจริงๆ โปร่งใส
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่จะมีประชาชนในพื้นที่ออกมาชุมนุมเพื่อคัดค้าน การปรับกำลังทหาร พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ตนได้ข่าวมาเหมือนกัน ถ้าหากเป็นอย่างนี้ก็ต้องมาพูดคุยทำความเข้าใจกัน ว่าไม่มีการเสียดินแดน แต่อย่างใด
ต่อมาเวลา 09.30 น.คณะของรมว.กลาโหม และผบ.ทบ.ได้เดินทางมาถึงหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 โดยมีพล.ท.จีระศักดิ์ ชมประสพ แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ชลิต เมฆมุกดา ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 (พล.ร.6 ) และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ให้การต้อนรับ จากนั้นคณะของรมว.กลาโหมและผบ.ทบ.เข้ารับฟังการบรรยายสรุปจากแม่ทัพภาคที่ 2 กว่า 1 ชั่วโมง
จากนั้นเวลา 11.00 น. พล.อ.อ.สุกำพล ได้เป็นประธานในพิธีการวางกำลังตชด.จำนวน 2 กองร้อยแทนกำลังทหาร โดยพล.อ.อ.สุกำพล กล่าวให้โอวาทตชด.ตอนหนึ่งว่า หลังจากที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้มีคำสั่งมาตรการชั่วคราวเมื่อวันที่ 18 ก.ค.54 ให้ไทยและกัมพูชามีการปรับกำลังทหาร ซึ่งอยู่ในเขตทหารชั่วคราวในบริเวณพื้นที่ปราสาทพระวิหาร ฝ่ายไทยได้มีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการให้สอดคล้องกับ คำสั่งดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง
โดยเมื่อวันที่ 13ก.ค.ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฯ ฮุน เซนนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้พบปะหารือที่เมืองเสียมราฐและได้ร่วมแถลงข่าวในเรื่องการปรับกำลังทหารใน พื้นที่ ปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะเริ่มดำเนินการในวันนี้ ทั้งนี้การปรับกำลังเป็นการปรับกำลังโดยความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย และฝ่ายไทยก็จะปรับกำลังในช่วงเวลาพร้อมกันกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก ซึ่งตนทราบว่าพล.ท.จีระศักดิ์ และผู้บังคับบัญชาทหารทุกระดับได้มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับฝ่ายตำรวจมา อย่างต่อเนื่องในการเตรียมการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปประจำการในพื้นที่
“วันนี้พวกท่านถือเป็นตัวแทนปวงชนชาวไทยในการพิทักษ์รักษาอธิปไตยและบูรณภาพ แห่งดินแดนของชาติ ขอท่านเชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นอย่างเคร่งครัด และไม่กระทำการใดๆที่ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศ การเข้าไปอยู่ในพื้นที่ ขอให้พวกท่านทุกคนประสานการปฏิบัติกับฝ่ายทหาร รวมทั้งพัฒนาสัมพันธ์กับประชาชนอย่างใกล้ชิด ท่านจะต้องมีความอดทนอดกลั้นต่อเรื่องสวัสดิการและสถานการณ์ความกดดันความ ยากลำบาก รวมทั้งหากมีการยั่วยุจากฝ่ายตรงข้าม ขอให้นึกถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก ผมและผู้บังคับบัญชาจะให้การดูแลเอาใจใส่พวกท่านอย่างเต็มกำลังความสามารถ รวมทั้งด้านสวัสดิการและความเป็นรอยู่ต่างๆ โดยจะหมั่นมาเยี่ยมให้กำลังใจ ขอให้ทุกคนมีขวัญและกำลังใจที่ดี” รมว.กลาโหม กล่าว
หลังจากนั้นพล.อ.อ.สุกำพล ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เรามาทำพิธีให้ตชด.สับเปลี่ยนกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารบริเวณปราสาทเขา พระวิหาร จะเห็นได้ว่าเรามีการปรับกำลังจริงๆ ซึ่งกำลังตชด.ที่ลงไปมีขวัญกำลังใจที่ดี ส่วนรายละเอียดจำนวนทหารที่ปรับออก ไม่ขอเปิดเผย เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะพูด ส่วนการปรับกำลังทหารทางไทยและกัมพูชาไม่ได้มีการประสานกัน กัมพูชาเพียงบอกว่า เขาจะสับเปลี่ยนกำลังของเขา โดยต่างคนต่างปรับกำลัง เป็นคนละที่กัน ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ทางกัมพูชาจะให้ทหารแต่งชุดพลเรือนและตำรวจลงไปในพื้นที่ชายแดนนั้น จากที่เป็นข่าวก็คงต้องไปดูว่า จริงหรือไม่ ซึ่งการดำเนินการทุกอย่าง ถ้าเป็นลูกผู้ชาย ตกลงกันแบบไหนต้องทำแบบนั้น สำหรับการปรับกำลังขั้นต้นทางฝ่ายไทยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารทำงานร่วมกัน นี่คือก้าวที่หนึ่งเริ่มขึ้นแล้วสำหรับการปรับกำลังและต่อไปคงจะมีการปรับ ขึ้นตามลำดับ แล้วคงจะแจ้งให้สื่อได้ทราบต่อไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นการถอนทหารออกจากพื้นที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวตอบแทนรมว.กลาโหมว่า "ทำไม อยากให้ถอนให้เห็นหรืออย่างไร และทำไมต้องถอนให้เห็นล่ะ"
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น