วันนี้ ( 12 ก.ค. ) . นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ได้ร่วมขบวนคาราวานสำรวจแนวทางป้องกันอุทกภัย 2555 เพื่อออกแบบประเทศไทย
ร่วมกับศูนย์อาสาฯคนไทย โดยเริ่มกิจกรรมแรกที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต
ซึ่งในปี 2554 ได้ใช้เป็นศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยน้ำท่วม
และให้ตัวแทนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้เล่าประสบการณ์ในช่วงวิกฤตน้ำท่วมด้วย
ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การที่เริ่มคาราวานที่ศูนย์ธรรมศาสตร์
รังสิต
ซึ่งเคยเป็นศูนย์พักพิงเพื่อให้เห็นถึงแนวทางที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเกี่ยว
กับการดำเนินการจากปีที่แล้วไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ทั้งเรื่องการวางระบบและการอพยพ
ซึ่งจุดต่อไปตนจะเดินทางไปประตูน้ำบางโฉมศรี จ.สิงห์บุรี
จากนั้นจะเดินทางไปดูโครงการพื้นที่รับน้ำบางบาน จ.อยุธยา
และจะไปดูความคืบหน้าในการสร้างเขื่อนกั้นนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน
รวมถึงดูผลกระทบที่จะเกิดขึ้นทั้งจากในนิคมและนอกนิคมจะเป็นอย่างไร
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นรูปธรรมของการบริหารจัดการแก้ปัญหา แต่รัฐบาลมุ่งให้ความสำคัญกับโครงการขนาดใหญ่ การประมูลงานสามแสนล้านบาทกับภาคเอกชน ตนกังวลว่าในที่สุดงานจะไม่สำเร็จ เพราะถ้าโครงการต่าง ๆ ยังไม่ผ่านขั้นตอนตามกฎหมายเอกชนเข้ามาทำก็จะเกิดปัญหาวุ่นวายฟ้องร้องตามมา จนอาจต้องขึ้นศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งควรต้องมีการเปิดเผยรายละเอียดให้มีการตรวจสอบ และการที่รัฐบาลใช้วิธีการว่าถ้าเป็นเงินกู้ไม่ต้องใช้ระเบียบสำนักนายกฯใน การจัดซื้อจัดจ้าง ยิ่งทำให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดการรั่วไหลทุจริตหรือไม่ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์กำลังติดตามเรื่องเหล่านี้อยู่ และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ป.ป.ช.และ สตง. ช่วยกันตรวจสอบด้วย และหากไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดก็อาจจำเป็นต้องใช้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารเพื่อขอให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลด้วย อยากให้รัฐบาลทบทวนเพราะโอกาสที่จะรั่วไหล ทุจริตมีสูงมาก จะอ้างเรื่องความล่าช้าไม่ได้ เพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่มาก หากเริ่มต้นไม่โปร่งใสก็จะไม่จบลงที่ความสำเร็จ
เมื่อถามถึงข่าว ญาติของรัฐมนตรีบางคนได้งานประมูลในโครงการบริหารจัดการน้ำครั้งที่ผ่านมา จะมีการตรวจสอบในการประมูลงานรอบใหม่อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในที่สุดต้องมีการตรวจสอบทั้งหมด และยังมีปัญหาบริษัทต่างประเทศด้วย เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยไปเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ด้วย.
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นรูปธรรมของการบริหารจัดการแก้ปัญหา แต่รัฐบาลมุ่งให้ความสำคัญกับโครงการขนาดใหญ่ การประมูลงานสามแสนล้านบาทกับภาคเอกชน ตนกังวลว่าในที่สุดงานจะไม่สำเร็จ เพราะถ้าโครงการต่าง ๆ ยังไม่ผ่านขั้นตอนตามกฎหมายเอกชนเข้ามาทำก็จะเกิดปัญหาวุ่นวายฟ้องร้องตามมา จนอาจต้องขึ้นศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งควรต้องมีการเปิดเผยรายละเอียดให้มีการตรวจสอบ และการที่รัฐบาลใช้วิธีการว่าถ้าเป็นเงินกู้ไม่ต้องใช้ระเบียบสำนักนายกฯใน การจัดซื้อจัดจ้าง ยิ่งทำให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดการรั่วไหลทุจริตหรือไม่ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์กำลังติดตามเรื่องเหล่านี้อยู่ และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ป.ป.ช.และ สตง. ช่วยกันตรวจสอบด้วย และหากไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดก็อาจจำเป็นต้องใช้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารเพื่อขอให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลด้วย อยากให้รัฐบาลทบทวนเพราะโอกาสที่จะรั่วไหล ทุจริตมีสูงมาก จะอ้างเรื่องความล่าช้าไม่ได้ เพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่มาก หากเริ่มต้นไม่โปร่งใสก็จะไม่จบลงที่ความสำเร็จ
เมื่อถามถึงข่าว ญาติของรัฐมนตรีบางคนได้งานประมูลในโครงการบริหารจัดการน้ำครั้งที่ผ่านมา จะมีการตรวจสอบในการประมูลงานรอบใหม่อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในที่สุดต้องมีการตรวจสอบทั้งหมด และยังมีปัญหาบริษัทต่างประเทศด้วย เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยไปเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ด้วย.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น