วันนี้(7 มิ.ย. )ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ
นายวินัย ดำรงค์มงคลกุล โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด
แถลงภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
กรณียื่นศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ที่ใช้เวลานาน 5 ชั่วโมง ว่า
ตามที่บุคคลและคณะบุคคล รวม 6 ราย คือ นายวันธงชัย ชำนาญกิจ ,นายบวร ยสินทร
กับพวกกลุ่มราษฎรอาสาปกป้อง ๓ สถาบัน ,นายวรินทร์ เทียมจรัส , พล.ต.จำลอง
ศรีเมือง กับพวก ,นายวิรัตน์ กัลยาศิริ กับพวก , และพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม
กับพวกสมาชิกวุฒิสภา
ได้มีหนังสือส่งเอกสารหลักฐานให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงและยื่นคำ
ร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการตามมาตรา 68
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 กรณีคณะรัฐมนตรี
พรรคร่วมรัฐบาล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ประธานรัฐสภา
ได้ร่วมกันเสนอ รับพิจารณา
และลงมติให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม
(ฉบับที่....) พุทธศักราช....
ซึ่งกำหนดให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาเพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
โดยการเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 หมวด 16
การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ซึ่งมีผลเป็นการยกเลิกหรือล้มล้างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช
2550
อันเป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบ
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
และเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตาม
วิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 68 นั้น คณะกรรมการ ฯ
เห็นว่ารัฐธรรมนูญกำหนดให้อัยการสูงสุดเป็นผู้มีอำนาจตรวจสอบข้อเท็จจริงและ
ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว
รวมทั้งให้อำนาจอัยการสูงสุดในการที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริงและวินิจฉัยถึงการ
กระทำดังกล่าวว่าเป็นการกระทำที่ต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68
หรือไม่ด้วย
เพื่อมิให้อัยการสูงสุดใช้อำนาจกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของบุคคลหรือพรรคการ
เมืองที่รัฐธรรมนูญให้ความคุ้มครอง
นายวินัย กล่าวอีกว่า ขณะที่เมื่อพิจารณาการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของรัฐสภา แล้วเห็นว่าเป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยอาศัยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญในหมวด 15 เกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ และบทเฉพาะกาล ไม่ใช่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญที่บัญญัติไว้ในหมวด 3 สิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย จึงไม่ใช่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพตามมาตรา 68 และจากการตรวจสอบเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่....) พุทธศักราช.... ทั้งสามฉบับ ปรากฏว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291/11 ทั้งสามฉบับ มีข้อความเหมือนกัน โดยวรรคห้าบัญญัติว่าการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญที่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงการ ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือเปลี่ยนแปลงรูป ของรัฐจะกระทำมิได้ จึงเห็นได้ว่าการเสนอขอแก้ไขรัฐธรรมนูญของผู้ถูกร้อง ไม่ได้มีเจตนาหรือต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอัน มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นอกจากนี้ ร่างรัฐธรรมนูญทั้งสามฉบับไม่ได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิก มาตรา 291
“การที่คณะรัฐมนตรีและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคการเมืองหลายพรรค เสนอขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ตามมาตรา 291 จึงไม่มีเนื้อหาเป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตาม วิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ กรณีตามคำร้องของผู้ร้องทั้งหก ข้อเท็จจริงยังไม่พอฟังว่ามีพฤติการณ์หรือการกระทำอันเป็นเหตุให้อัยการสูง สุดต้องยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกกระทำการตามความใน มาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550”
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่อัยการสูงสุดมีความเห็นไม่ส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ รัฐสภาจะต้องยึดความเห็นขององค์กรไหน นายวินัย กล่าวว่า การดำเนินการต่อไปขององค์กรอื่นอัยการสูงสุดไม่ได้พิจารณา ส่วนที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำวินิจฉัยของบุคคลและคณะบุคคลไว้ก่อนหน้านี้ จะทำให้ประชาชนสับสนหรือไม่นั้น อัยการขอไม่ก้าวล่วงอำนาจขององค์กรอื่น เราดำเนินการเฉพาะอำนาจหน้าที่ของอัยการสูงสุดเท่านั้น
เมื่อถามว่า หากรัฐสภาจะดำเนินการเรียกประชุมเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญในวาระ 3 โดยอ้างความเห็นของอัยการสูงสุด จะสามารถทำได้หรือไม่ นายวินัย กล่าวว่า การพิจารณาของอัยการสูงสุดเป็นเพียงความเห็นหนึ่งเท่านั้น การดำเนินการของรัฐสภาก็เป็นเรื่องกรอบอำนาจของรัฐสภา เราไม่ก้าวก่ายอำนาจขององค์กรอื่น
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th
นายวินัย กล่าวอีกว่า ขณะที่เมื่อพิจารณาการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของรัฐสภา แล้วเห็นว่าเป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยอาศัยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญในหมวด 15 เกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ และบทเฉพาะกาล ไม่ใช่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญที่บัญญัติไว้ในหมวด 3 สิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย จึงไม่ใช่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพตามมาตรา 68 และจากการตรวจสอบเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่....) พุทธศักราช.... ทั้งสามฉบับ ปรากฏว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291/11 ทั้งสามฉบับ มีข้อความเหมือนกัน โดยวรรคห้าบัญญัติว่าการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญที่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงการ ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือเปลี่ยนแปลงรูป ของรัฐจะกระทำมิได้ จึงเห็นได้ว่าการเสนอขอแก้ไขรัฐธรรมนูญของผู้ถูกร้อง ไม่ได้มีเจตนาหรือต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอัน มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นอกจากนี้ ร่างรัฐธรรมนูญทั้งสามฉบับไม่ได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิก มาตรา 291
“การที่คณะรัฐมนตรีและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคการเมืองหลายพรรค เสนอขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ตามมาตรา 291 จึงไม่มีเนื้อหาเป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตาม วิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ กรณีตามคำร้องของผู้ร้องทั้งหก ข้อเท็จจริงยังไม่พอฟังว่ามีพฤติการณ์หรือการกระทำอันเป็นเหตุให้อัยการสูง สุดต้องยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกกระทำการตามความใน มาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550”
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่อัยการสูงสุดมีความเห็นไม่ส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ รัฐสภาจะต้องยึดความเห็นขององค์กรไหน นายวินัย กล่าวว่า การดำเนินการต่อไปขององค์กรอื่นอัยการสูงสุดไม่ได้พิจารณา ส่วนที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำวินิจฉัยของบุคคลและคณะบุคคลไว้ก่อนหน้านี้ จะทำให้ประชาชนสับสนหรือไม่นั้น อัยการขอไม่ก้าวล่วงอำนาจขององค์กรอื่น เราดำเนินการเฉพาะอำนาจหน้าที่ของอัยการสูงสุดเท่านั้น
เมื่อถามว่า หากรัฐสภาจะดำเนินการเรียกประชุมเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญในวาระ 3 โดยอ้างความเห็นของอัยการสูงสุด จะสามารถทำได้หรือไม่ นายวินัย กล่าวว่า การพิจารณาของอัยการสูงสุดเป็นเพียงความเห็นหนึ่งเท่านั้น การดำเนินการของรัฐสภาก็เป็นเรื่องกรอบอำนาจของรัฐสภา เราไม่ก้าวก่ายอำนาจขององค์กรอื่น
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น