รวบเกย์คิงพร้อมแก๊งยาไอซ์

ตำรวจดส.รวบเกย์คิง ค้ายาไอซ์ ก่อนขยายาผลล่อซื้อ จับกุมเพื่อนร่วมเครือข่ายอีก 1 ราย

เมื่อเวลา 02.00 น. วันนี้ ( 21 มี.ค.)  ร.ต.อ.กิตติเมศร์ โชติปิติเจริญรัฐ รอง สว.งานสืบสวนตรวจตราและควบคุม กก.ดส.บช.น. พร้อมด้วย จ.ส.ต.ณรงค์ฤทธิ์ บุญมี ผบ.หมู่งานสืบสวนตรวจตราฯ และชุดสืบสวนตรวจตรา กก.ดส.บช.น. จับกุมนายนิรันต์หรือเจมส์ ปาริฉัตรปริพัตร อายุ 33 ปี ลักษณะเป็นเกย์คิงส์ และนายณัฐพลหรือนัท เหล่ามหาเมฆ อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ พร้อมของกลางยาไอซ์บรรจุถุงพลาสติกใส 4 ถุงเล็กและอีก 1 ถุงใหญ่ น้ำหนักรวม 12 กรัม ยาเคชนิดน้ำ 1 ขวดและชนิดผง 2 ถุงเล็ก อุปกรณ์การเสพยาจำนวนมาก เครื่องชั่งอิเล็กทรอนิค 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และสมุดบัญชีเงินฝากและบัญชีกองทุนธนาคารต่างๆ อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีเงินทุนหมุนเวียนหลายแสนบาท โดยจับกุมได้ภายในห้องพักเลขที่ 211 ชั้นที่2 ของอาคารชุด บ้านรัชโยธิน เลขที่ 345 ซอยรัชดาภิเษก36 หรือซอยเสือใหญ่อุทิศ ถนนรัชดาภิเษก แขวงลาดยาว เขตจตุจักร

ร.ต.อ.กิตติเมศร์  กล่าวว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 1 ราย และสอบสวนขยายผลจนทราบว่า ซื้อยาไอซ์มาจากนายนิรันต์ จึงวางแผนล่อซื้อจับกุม ก่อนจะสอบสวนขยายผล จนทราบว่ารับยาจากนายณัฐพล ในราคากรัมละ 2,000 บาท เพื่อมาขายต่อให้ลูกค้าย่านรัชดาเอากำไรในราคากรัมละ 2,500 บาท และเพิ่งถูกตำรวจ สน.พหลโยธินจับกุมในข้อหาจำหน่ายยาไอซ์เมื่อปลายปี 54 อยู่ระหว่างการประกันตัวสู้คดี เจ้าหน้าที่จึงวางแผนให้นายนิรันต์ติดต่อนัดหมายให้นายณัฐพลนำยาไอซ์มาให้ที่ห้องพักก่อนแสดงตัวเข้าจับกุมเอาไว้ได้

สอบสวนเบื้องต้น นายณัฐพล รับสารภาพว่า รับยามาจากนายใหม่ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง อายุประมาณ 20-23 ปี ซึ่งเป็นนักค้ายารายใหญ่ย่านฝั่งธน ที่ปากซอยตากสิน 4 อีกทอดหนึ่ง โดยตนจะทำหน้าที่เป็นแค่คนส่งของให้กับนายใหม่เท่านั้น ได้ค่าจ้างครั้งละ 1,500 บาท ทำมาแล้วหลายครั้ง และเมื่อเดือน มี.ค.ปี 54 ก็เพิ่งถูกตำรวจสน.พหลโยธิน จับกุมในข้อหาเสพยาเสพติด และถูกส่งเข้าบ้านเมตตา พอออกมาก็มารับจ้างส่งยาต่อจนมาถูกจับกุมอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหากับนายนิรันต์ มียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (ยาเค) ไว้ในความครอบครองเพื่อเสพโดยผิดกฎหมาย ส่วนนายณัฐพล แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เจ้าของพื้นที่ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

This entry was posted in News