ที่ห้องพิจารณา 709 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก วันนี้ (16 มี.ค.) ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้อง นายวิชิต โชคโสด อายุ 39 ปี ชาว จ.ระนอง และนายสมควร หรือชาม หมื่นอินทร์ อายุ 42 ปี ชาว จ.กระบี่ เป็นจำเลยที่ 1- 2 ตามลำดับในความผิดฐานร่วมกันมียาไอซ์ ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย,สมคบกันกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 53 ระบุความผิดสรุปว่าเมื่อช่วงต้นเดือน ก.ค. – 17 ก.ค. 53 จำเลยทั้งสองได้บังอาจกระทำผิดโดยจำเลยที่ 2 ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกลางคลองเปรม และเป็นพี่ชายต่างมารดาของจำเลยที่ 1 ได้ลักลอบโทรศัพท์จากเรือนจำให้จำเลยที่ 1 นำยาไอซ์ไปส่งให้ลูกค้า แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเฝ้าติดตามพฤติการณ์ตรวจค้นรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ ทะเบียน บง 7627 ระนอง ของจำเลยที่ 1 ขณะแล่นมาบริเวณ ถนนสุขสวัสดิ์ ตรงข้ามห้างบิ๊กซี สาขาพระประแดง จ.สมุทรปราการ พบยาไอซ์ 2 ถุง หนัก 1 กก.ซุกซ่อนในกล่องกระดาษทิชชู่ และจากการสอบสวนขยายผลทราบว่า จำเลยที่ 1 ยังมียาไอซ์ไว้ในห้องเช่าไม่มีชื่อ ซอยประชาอุทิศ 69 แขวง- เขตทุ่งครุ เมื่อตรวจค้นพบยาไอซ์อีก 4 ถุง หนัก 2 กก. จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 บช.ปส. ดำเนินคดี
จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพว่า ยาไอซ์ของกลางทั้งหมดเป็นของจำเลยที่ 2 ว่าจ้างให้ส่งยาไอซ์กับลูกค้าครั้งละ 50,000 บาท โดยจะโทรศัพท์สั่งจากเรือนให้ไปส่งลูกค้าที่ใดบ้าง หรือไปรับยาไอซ์จากจุดใดบ้าง ขณะที่จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใด ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานต่างๆของทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักมั่นคง น่าเชื่อถือ เชื่อว่าจำเลยทั้งสองกระทำผิดจริง จึงพิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง แต่จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่ 2 ให้ประหารชีวิตสถานเดียว พร้อมทั้งริบของกลาง.
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น