วันนี้ (13 ธ.ค.) ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา
รองผอ.สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า
ในระหว่างวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้ คนไทยจะได้ชมปรากฏการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์
ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี
โดยปีนี้ช่วงที่จะเกิดฝนดาวตกมากที่สุดคือคืนวันที่ 13
ธ.ค.-ช่วงเช้ามืดวันที่ 14 ธ.ค.ซึ่งเป็นวันแรม 15 ค่ำ
ไม่มีแสงจากดวงจันทร์มารบกวน
จึงสามารถมองเห็นฝนดาวตกด้วยตาเปล่าได้อย่างชัดเจน
ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณใกล้กับกลุ่มดาวคนคู่
ซึ่งเป็นศูนย์กลางการกระจายของฝนดาวตกเจมินิดส์
มีลักษณะเป็นริ้วสีขาวพาดผ่านท้องฟ้า ตั้งแต่เวลา 22:00 น. ของคืนวันที่ 13
ธันวาคม ถึงเช้ามืดประมาณ 05:00 น. ของวันที่ 14 ธันวาคม
ตามเวลาในประเทศไทย
ดร.ศรัณย์ กล่าวอีกว่า ฝนดาวตกเจมินิดส์จะสามารถสังเกตได้ง่ายว่าฝนดาวตกลีโอนิดส์ เนื่องจากมีความเร็วไม่มากนัก ประมาณ 35 กิโลเมตรต่อวินาที นอกจากนี้นักดาราศาสตร์ทั่วโลกได้คาดการณ์ว่าในปีนี้จะสามารถสังเกตเห็นฝน ดาวตกเจมินิดส์ได้มากกว่า 120 ดวงต่อชั่วโมง ซึ่งตามเวลาในประเทศไทยที่คาดว่าจะเห็นดาวตกมากที่สุดเป็นเวลาหลังเที่ยงคืน ของคืนวันที่ 13 ธันวาคม หากรอชมฝนดาวตกในสถานที่ที่มีท้องฟ้ามืดสนิท ไม่มีแสงรบกวน หรือพื้นที่บนดอยสูงที่มีทัศนวิสัยของท้องฟ้าที่มืดสนิท อาจสังเกตดาวตกได้มากถึง 200 ดวงต่อชั่วโมงเลยทีเดียว
สำหรับการเตรียมความพร้อมสำหรับการดูฝนดาวตกนั้น นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์อาวุโส สดร. กล่าวว่า เมื่อเริ่มดูปรากฎการณ์ควรงดใช้ไฟฉายเพื่อให้ดวงตาปรับสภาพประมาณ 2-3 นาที ให้ม่านตาขยายเพื่อสามารถรับแสงในที่มืดได้ดีขึ้นและมองเห็นดวงดาวที่มีแสง น้อยได้ จากนั้นเริ่มทำความรู้จักกับทิศและดาวเหนือ ทั้งนี้ควรเริ่มต้นจากการดูกลุ่มดาวที่มีลักษณะเด่นหรือมีความสว่างมาก เช่น กลุ่มดาวนายพราน กลุ่มดาวสุนัขใหญ่ กลุ่มดาวสุนัขเล็ก และสามเหลี่ยมฤดูหนาว ส่วนผู้ที่ต้องการถ่ายภาพฝนดาวตก ควรใช้กล้องที่สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ และใช้ความไวแสงสูงๆ ตั้งแต่ ISO 1600 ขึ้นไป เพื่อให้กล้องมีความไวแสงในการบันทึกภาพฝนดาวตก รวมทั้งการตั้งกล้องบนขาตั้งกล้องที่มั่นคง ตั้งขาตั้งกล้องให้ต่ำพร้อมกับเงยหน้ากล้องขึ้นเพื่อเก็บภาพท้องฟ้าให้ได้ กว้างที่สุด โดยหันหน้ากล้องไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทิศที่เป็นศูนย์กลางการเกิดของฝนดาวตก (Radiant) บริเวณกลุ่มดาวคนคู่ซึ่งจะเริ่มโผล่ขึ้นจากขอบฟ้าตั้งแต่เวลาประมาณสองทุ่ม ของวันที่ 13 ธันวาคม เป็นต้นไปทั้งนี้สมาคมดาราศาสตร์ไทยขอเชิญชวนท่านสมาชิกสมาคมฯ และผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม ในวันพฤหัสบดี ที่ 13 ธันวาคม - รุ่งเช้าวันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด - โป่งก้อนเส้า จังหวัดสระบุรี.
ดร.ศรัณย์ กล่าวอีกว่า ฝนดาวตกเจมินิดส์จะสามารถสังเกตได้ง่ายว่าฝนดาวตกลีโอนิดส์ เนื่องจากมีความเร็วไม่มากนัก ประมาณ 35 กิโลเมตรต่อวินาที นอกจากนี้นักดาราศาสตร์ทั่วโลกได้คาดการณ์ว่าในปีนี้จะสามารถสังเกตเห็นฝน ดาวตกเจมินิดส์ได้มากกว่า 120 ดวงต่อชั่วโมง ซึ่งตามเวลาในประเทศไทยที่คาดว่าจะเห็นดาวตกมากที่สุดเป็นเวลาหลังเที่ยงคืน ของคืนวันที่ 13 ธันวาคม หากรอชมฝนดาวตกในสถานที่ที่มีท้องฟ้ามืดสนิท ไม่มีแสงรบกวน หรือพื้นที่บนดอยสูงที่มีทัศนวิสัยของท้องฟ้าที่มืดสนิท อาจสังเกตดาวตกได้มากถึง 200 ดวงต่อชั่วโมงเลยทีเดียว
สำหรับการเตรียมความพร้อมสำหรับการดูฝนดาวตกนั้น นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์อาวุโส สดร. กล่าวว่า เมื่อเริ่มดูปรากฎการณ์ควรงดใช้ไฟฉายเพื่อให้ดวงตาปรับสภาพประมาณ 2-3 นาที ให้ม่านตาขยายเพื่อสามารถรับแสงในที่มืดได้ดีขึ้นและมองเห็นดวงดาวที่มีแสง น้อยได้ จากนั้นเริ่มทำความรู้จักกับทิศและดาวเหนือ ทั้งนี้ควรเริ่มต้นจากการดูกลุ่มดาวที่มีลักษณะเด่นหรือมีความสว่างมาก เช่น กลุ่มดาวนายพราน กลุ่มดาวสุนัขใหญ่ กลุ่มดาวสุนัขเล็ก และสามเหลี่ยมฤดูหนาว ส่วนผู้ที่ต้องการถ่ายภาพฝนดาวตก ควรใช้กล้องที่สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ และใช้ความไวแสงสูงๆ ตั้งแต่ ISO 1600 ขึ้นไป เพื่อให้กล้องมีความไวแสงในการบันทึกภาพฝนดาวตก รวมทั้งการตั้งกล้องบนขาตั้งกล้องที่มั่นคง ตั้งขาตั้งกล้องให้ต่ำพร้อมกับเงยหน้ากล้องขึ้นเพื่อเก็บภาพท้องฟ้าให้ได้ กว้างที่สุด โดยหันหน้ากล้องไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทิศที่เป็นศูนย์กลางการเกิดของฝนดาวตก (Radiant) บริเวณกลุ่มดาวคนคู่ซึ่งจะเริ่มโผล่ขึ้นจากขอบฟ้าตั้งแต่เวลาประมาณสองทุ่ม ของวันที่ 13 ธันวาคม เป็นต้นไปทั้งนี้สมาคมดาราศาสตร์ไทยขอเชิญชวนท่านสมาชิกสมาคมฯ และผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม ในวันพฤหัสบดี ที่ 13 ธันวาคม - รุ่งเช้าวันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด - โป่งก้อนเส้า จังหวัดสระบุรี.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น