วันนี้ (4 พ.ย.) หลวงพ่อเยื้อน ขันติพโล เจ้าอาวาสวัดเขาศาลา
อตุลฐานะจาโร ได้รับแจ้งมีชาวกัมพูชากว่า30 คน เข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูง
ทางทิศใต้ของพุทธอุทยาน วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร
ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ ต.จรัส อ.บัวเชด
จ.สุรินทร์ เดินทางเข้าตรวจสอบพร้อม ร.ต.อ.มนัส ทองปน รอง ผบ.ร้อย ตชด.214
นายทิมัมพร สิงหะ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และกำลังทหารพราน
และทันที่ที่ชาวกัมพูชาเห็นกำลังเจ้าหน้าที่ต่างพากันวิ่งหนีเข้าป่า
แต่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ 3 คน ซึ่งทั้งสามคนเป็นชาวบ้านอลองเวง
จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา
และจากการเข้าเคลียร์พื้นที่พบไม้พะยูงถูกแปรรูปเป็นท่อนเหลี่ยมยาว1 เมตร
จำนวน 30 ท่อน และยังพบต้นพะยูงขนาดใหญ่ถูกโค่นเตรียมแปรรูปอีก 6 ต้น
ซึ่งหลวงตาเยื้อน
ได้ต่อสู้กับขบวนการตัดไม้พะยูงมาอย่างยาวนานและทุ่มเทในการอนุรักษ์ป่า
พยายามเก็บความรู้สึกเสียใจ ที่เห็นไม้พะยูงถูกโค่นจำนวนมาก
จากการสอบสวนชาวกัมพูชาทั้ง 3 คน ทราบว่า มีนายทุนว่าจ้างคนหนุ่มและวัยรุ่นในพื้นที่จังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา 30 คน ให้มาตัดไม้พะยูงในป่า ซึ่งหลอกว่าอยู่ในเขตแดนของกัมพูชา โดยจะรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 90 บาท ซึ่งไม้แต่ละท่อนหนักประมาณ 50 กิโลกรัม ราคาประมาณ 4,500 บาท และเมื่อมีการส่งไปประเทศจีนจะมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 500 บาท แต่เมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบว่า จุดที่เข้ามาลักลอบตัดไม้อยู่ลึกเข้ามาในเขตไทย 4 กิโลเมตร ผู้ต้องหาทั้งหมดถึงกับหน้าถอดสี พร้อมเปิดเผยว่า ขณะนี้วัยรุ่นกัมพูชา ซึ่งกำลังประสบปัญหาภัยแล้งและส่วนใหญ่ยากจน กำลังนิยมออกหาไม้พะยูงเพื่อส่งขายให้นายทุนชาวกัมพูชาซึ่งได้ราคาดี แทนการส่งยาบ้า ซึ่งมีอัตราโทษหนักกว่า
หลวงพ่อเยื้อน กล่าวว่า จากการที่วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สภาพป่าสมบูรณ์ และมีไม้พะยูงมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ทำให้เป็นเป้าหมายของนายทุนในประเทศเพื่อนบ้าน ที่ต้องการไม้พะยูงส่งไปขายในต่างประเทศ ซึ่งเฉพาะเดือนตุลาคม มีการเข้าจับกุมชาวกัมพูชาที่เข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูงถึง11 ครั้ง จับกุมชาวกัมพูชาได้ 11 คน พร้อมของกลางไม้พะยูงกว่า 70 ท่อน ซึ่งรวมครั้งนี้อีก 30 ท่อน จึงรวมเป็น 100 ท่อน มูลค่านับสิบล้านบาท
อย่างไรก็ตามขณะนี้หลวงพ่อเยื้อนและเจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่มีหน้าที่ปกป้อง ป่าพะยูง ต่างรู้สึกหนักใจ เนื่องจากการลักลอบเข้ามาตัดไม้ในเขตไทยมีความถี่มากขึ้น อีกทั้งผู้ต้องหาเริ่มมีอายุน้อยลง โดยส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นอายุ 14-18 ปี ซึ่งมีกำลังในการตัดและชักลากไม้ออกจากป่าเข้าไปในฝั่งกัมพูชา
จากการสอบสวนชาวกัมพูชาทั้ง 3 คน ทราบว่า มีนายทุนว่าจ้างคนหนุ่มและวัยรุ่นในพื้นที่จังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา 30 คน ให้มาตัดไม้พะยูงในป่า ซึ่งหลอกว่าอยู่ในเขตแดนของกัมพูชา โดยจะรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 90 บาท ซึ่งไม้แต่ละท่อนหนักประมาณ 50 กิโลกรัม ราคาประมาณ 4,500 บาท และเมื่อมีการส่งไปประเทศจีนจะมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 500 บาท แต่เมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบว่า จุดที่เข้ามาลักลอบตัดไม้อยู่ลึกเข้ามาในเขตไทย 4 กิโลเมตร ผู้ต้องหาทั้งหมดถึงกับหน้าถอดสี พร้อมเปิดเผยว่า ขณะนี้วัยรุ่นกัมพูชา ซึ่งกำลังประสบปัญหาภัยแล้งและส่วนใหญ่ยากจน กำลังนิยมออกหาไม้พะยูงเพื่อส่งขายให้นายทุนชาวกัมพูชาซึ่งได้ราคาดี แทนการส่งยาบ้า ซึ่งมีอัตราโทษหนักกว่า
หลวงพ่อเยื้อน กล่าวว่า จากการที่วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สภาพป่าสมบูรณ์ และมีไม้พะยูงมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ทำให้เป็นเป้าหมายของนายทุนในประเทศเพื่อนบ้าน ที่ต้องการไม้พะยูงส่งไปขายในต่างประเทศ ซึ่งเฉพาะเดือนตุลาคม มีการเข้าจับกุมชาวกัมพูชาที่เข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูงถึง11 ครั้ง จับกุมชาวกัมพูชาได้ 11 คน พร้อมของกลางไม้พะยูงกว่า 70 ท่อน ซึ่งรวมครั้งนี้อีก 30 ท่อน จึงรวมเป็น 100 ท่อน มูลค่านับสิบล้านบาท
อย่างไรก็ตามขณะนี้หลวงพ่อเยื้อนและเจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่มีหน้าที่ปกป้อง ป่าพะยูง ต่างรู้สึกหนักใจ เนื่องจากการลักลอบเข้ามาตัดไม้ในเขตไทยมีความถี่มากขึ้น อีกทั้งผู้ต้องหาเริ่มมีอายุน้อยลง โดยส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นอายุ 14-18 ปี ซึ่งมีกำลังในการตัดและชักลากไม้ออกจากป่าเข้าไปในฝั่งกัมพูชา
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น