วันนี้ ( 3 พ.ย.) ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนเทพกระษัตรี ต.รัษฎา
อ.เมืองภูเก็ต พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา สบ.10 พล.ต.ต.วิศณุ ม่วงแพรสี
พล.ต.ต.กิตติสัณห์ เดชสุนทรวัฒน์ รอง.ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์
ผบก.ภ.ภูเก็ต พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต
แถลงข่าวการจับกุมนายอนุศิษฎ์ แก้วมุกดา อายุ 32
ปีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์บุกเดี่ยวจี้ชิงเงินสดจากเจ้าหน้าที่
บริการลูกค้าภายใน ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนเทพกระษัตรี ต.รัษฎา
อ.เมืองภูเก็ต กวาดเงินสดใส่ถุงผ้าลดโลกร้อนไป 2.7 ล้านบาทก่อนใช้รถ
จยย.ฮอนด้าเวฟสีฟ้า-ขาวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนี เหตุเกิดเมื่อเวลา
15.00 น.วันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้พร้อมของกลางเป็นเงินสดจำนวน 2.5
ล้านบาทและปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์
12 จำนวน 1 นัด
พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา สบ.10 กล่าวว่า หลังก่อเหตุ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ ผบช.ภ.8 และ ผบก.ภ.ภูเก็ต เร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยด่วน เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์และเป็นที่สนใจของประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องต่างเร่งคลี่คลายคดีอย่างเร่งด่วน เพียง 24 ชม.ได้เบาะแสของคนร้ายจากประชาชนในพื้นที่ จนทราบว่าคนร้ายใช้รถ จยย.ฮอนด้าเวฟสีฟ้า-ขาวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไปยังพื้นที่ ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต จึงได้รวบรวมหลักฐานเสนอต่อศาล จ.ภูเก็ตออกหมายจับ
ต่อมาเมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ตและชุดสืบสวน ภ.จ.ภูเก็ตเข้าตรวจสอบบ้านเช่าเลขที่ 63/67 เกาะแก้ว ซ.3 ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต หลังได้เบาะแสคาดว่าเป็นบ้านพักของนายอนุศิษฎ์ คนร้าย โดยพบเงินสดบรรจุอยู่ในถุงผ้าลดโลกร้อนจำนวน 2.5 ล้านบาทพร้อมปืนไทยประดิษฐ์ที่ใช้ก่อเหตุซุกซ่อนอยู่ภายในบ้าน จากนั้นได้นำตัว น.ส.อัญทนีย์ หรือ ออย ทองสาร อายุ 32 ปีแฟนสาวนายอนุศิษฎ์ และรถ จยย.ฮอนด้าเวฟสีฟ้า-ขาว ทะเบียน ขยษ 785 สุราษฏร์ธานี ไปสอบสวนขยายผล เบื้องต้นไม่พบตัวนายอนุศิษฎ์ภายในบ้านพัก ซึ่งคาดว่าหลบหนีไปก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าตรวจค้น
จากนั้นชุดคลี่คลายคดีได้ตรวจสอบการใช้โทรศัพท์มือถือของคนร้ายจนทราบว่า มีการติดต่อกับแฟนเก่า ซึ่งทำงานเป็นพนักงานอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในหาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยมีห้องพักอยู่ที่อาคารน้องมิลล์อพาร์ทเม้นท์ หลังสนามกีฬาสุระกุล ซอยซุ่ยหลานอุทิศ ถนนวิชิตสงคราม อ.เมืองภูเก็ต จึงเข้าตรวจสอบพบนายอนุศิษฏ์ นอนพักอยู่ภายในห้องพักดังกล่าว จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองภูเก็ต เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือใช้อาวุธปืนบุกจี้ชิงเงินภายใน ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนเทพกระษัตรี จริง จึงแจ้งข้อหาชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อ ให้พ้นการจับกุมและมีอาวุธปืน-เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับ อนุญาต
ที่ปรึกษา สบ.10 กล่าวเพิ่มเติมว่า เงินสดอีก 2 แสนบาทที่สูญหายไป นายอนุศิษฏ์ผู้ต้องหาได้นำไปใช้หนี้ นำไปไถ่สร้อยคอทองคำที่นำไปจำนำไว้ให้แฟนเก่า ขณะเดียวกันนายอนุศิษฏ์ ยังรับสารภาพด้วยว่าเมื่อวันที่ 29 ม.ค.55 เคยก่อเหตุใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันบุกจี้ชิงเงินสดจาก ธนาคารกสิกรไทย สาขาห้างเทสโกโลตัสเอ๊กซ์เพลส สาขาถนนเจ้าฟ้ามาแล้ว โดยครั้งนี้ได้เงินสดไป 694,000 บาท ซึ่งนำเงินไปจ่ายหนี้พนันบอลและซื้อรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน จนกระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าว โดยนายอนุศิษฎ์ยังมีหมายจับคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืนเมื่อวันที่ 17 มี.ค.50 ของ สน.ดินแดง ส่วนสาเหตุที่นายอนุศิษฏ์ ลงมือก่อเหตุเฉพาะ ธนาคารกสิกรไทย เนื่องจากไม่มี รปภ.ดูแล จากนั้นนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามจุดต่างๆ ก่อนที่จะนำตัวไปส่งฟ้องฝากขังที่ศาลต่อไป
พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา สบ.10 กล่าวว่า หลังก่อเหตุ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ ผบช.ภ.8 และ ผบก.ภ.ภูเก็ต เร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยด่วน เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์และเป็นที่สนใจของประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องต่างเร่งคลี่คลายคดีอย่างเร่งด่วน เพียง 24 ชม.ได้เบาะแสของคนร้ายจากประชาชนในพื้นที่ จนทราบว่าคนร้ายใช้รถ จยย.ฮอนด้าเวฟสีฟ้า-ขาวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไปยังพื้นที่ ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต จึงได้รวบรวมหลักฐานเสนอต่อศาล จ.ภูเก็ตออกหมายจับ
ต่อมาเมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ตและชุดสืบสวน ภ.จ.ภูเก็ตเข้าตรวจสอบบ้านเช่าเลขที่ 63/67 เกาะแก้ว ซ.3 ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต หลังได้เบาะแสคาดว่าเป็นบ้านพักของนายอนุศิษฎ์ คนร้าย โดยพบเงินสดบรรจุอยู่ในถุงผ้าลดโลกร้อนจำนวน 2.5 ล้านบาทพร้อมปืนไทยประดิษฐ์ที่ใช้ก่อเหตุซุกซ่อนอยู่ภายในบ้าน จากนั้นได้นำตัว น.ส.อัญทนีย์ หรือ ออย ทองสาร อายุ 32 ปีแฟนสาวนายอนุศิษฎ์ และรถ จยย.ฮอนด้าเวฟสีฟ้า-ขาว ทะเบียน ขยษ 785 สุราษฏร์ธานี ไปสอบสวนขยายผล เบื้องต้นไม่พบตัวนายอนุศิษฎ์ภายในบ้านพัก ซึ่งคาดว่าหลบหนีไปก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าตรวจค้น
จากนั้นชุดคลี่คลายคดีได้ตรวจสอบการใช้โทรศัพท์มือถือของคนร้ายจนทราบว่า มีการติดต่อกับแฟนเก่า ซึ่งทำงานเป็นพนักงานอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในหาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยมีห้องพักอยู่ที่อาคารน้องมิลล์อพาร์ทเม้นท์ หลังสนามกีฬาสุระกุล ซอยซุ่ยหลานอุทิศ ถนนวิชิตสงคราม อ.เมืองภูเก็ต จึงเข้าตรวจสอบพบนายอนุศิษฏ์ นอนพักอยู่ภายในห้องพักดังกล่าว จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองภูเก็ต เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือใช้อาวุธปืนบุกจี้ชิงเงินภายใน ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนเทพกระษัตรี จริง จึงแจ้งข้อหาชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อ ให้พ้นการจับกุมและมีอาวุธปืน-เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับ อนุญาต
ที่ปรึกษา สบ.10 กล่าวเพิ่มเติมว่า เงินสดอีก 2 แสนบาทที่สูญหายไป นายอนุศิษฏ์ผู้ต้องหาได้นำไปใช้หนี้ นำไปไถ่สร้อยคอทองคำที่นำไปจำนำไว้ให้แฟนเก่า ขณะเดียวกันนายอนุศิษฏ์ ยังรับสารภาพด้วยว่าเมื่อวันที่ 29 ม.ค.55 เคยก่อเหตุใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันบุกจี้ชิงเงินสดจาก ธนาคารกสิกรไทย สาขาห้างเทสโกโลตัสเอ๊กซ์เพลส สาขาถนนเจ้าฟ้ามาแล้ว โดยครั้งนี้ได้เงินสดไป 694,000 บาท ซึ่งนำเงินไปจ่ายหนี้พนันบอลและซื้อรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน จนกระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าว โดยนายอนุศิษฎ์ยังมีหมายจับคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืนเมื่อวันที่ 17 มี.ค.50 ของ สน.ดินแดง ส่วนสาเหตุที่นายอนุศิษฏ์ ลงมือก่อเหตุเฉพาะ ธนาคารกสิกรไทย เนื่องจากไม่มี รปภ.ดูแล จากนั้นนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามจุดต่างๆ ก่อนที่จะนำตัวไปส่งฟ้องฝากขังที่ศาลต่อไป
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น