วันนี้ (12 ต.ค.) ที่กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.)
จ.ปราจีนบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)
กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์จัดแรลลี่ตามรอยชายชุดดำว่า
ข้อมูลชายชุดดำเรามีอยู่
เป็นเรื่องของกฎหมายทางกระบวนการยุติธรรมต้องสอบสวนกันไป
แต่ชายชุดดำจะมีหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่รู้ว่ามีผู้บาดเจ็บสองฝ่าย ทั้งประชาชน
ทหาร ตำรวจ โดยอีกฝ่ายบอกว่าทหารยิง
ส่วนฝ่ายทหารก็บอกว่าถูกคนแต่งกายที่ไม่รู้ว่าจะสีแดง สีดำ หรือเหลือง
ยิงและขว้างระเบิดใส่ ซึ่งก็ต้องพิสูจน์หาให้เจอ
“คำว่าชายชุดดำไม่ใช่ว่าต้องใส่ชุดดำ พอไม่ใส่ชุดดำแล้วบอกว่าไม่ใช่ มัน ก็คงไม่ใช่ จะชุดอะไรก็ได้ แต่วันที่เกิดเรื่อง10 เม.ย.53 นั้นพูดกันว่าชุดดำเพราะแต่งชุดดำ หลังจากนั้นมันก็ไม่ได้แต่งดำ แต่จะถามว่าแล้วมีรูปที่มันยิงหรือไม่ ใครจะไปถ่ายรูปมันได้ ก็ต้องรอรูปจาก สื่อมวลชน ทหารออกไปในตอนนั้นไม่คิดว่าจะมีคนใจร้ายแบบนี้ออกมาเท่านั้นเอง และเมื่อเขาใจร้ายใส่เรา เราก็ยังไม่ได้ตอบโต้ ผมถามว่าลูกน้องที่นอนเจ็บ อยู่ที่โรงพยาบาลว่าเห็นคนยิงเขาหรือไม่ คนที่ท้องทะลุที่เป็นผู้บังคับกองพัน นายสิบ และยังมีพิการอีกหลายคน ซึ่งเขาบอกว่าเขาก็เห็น แต่พวกนั้นอยู่ข้างหลังประชาชน ซึ่งผมก็ไม่ได้โทษว่าเป็นพวกใคร ผมก็ถามว่าทำไมไม่ยิงสู้ ยิงไม่ได้เหรอ เขาก็บอกว่ายิงไม่ได้ เพราะถ้ายิงก็จะโดนประชาชนที่ขวางหน้าอยู่ ผมก็ถามว่าผู้ที่อยู่ข้างหน้าเป็นใคร เขาก็บอกว่าเป็นประชาชนที่มาประท้วง มาเดินขบวนทั้งหมด เขาก็เป็นคนไทยเหมือนกัน ซึ่งทำร้ายเขาไม่ได้ ผมฟังแล้วผมก็สะอึก นั่นคือลูกน้องผม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ถ้าต่างฝ่ายต่างไม่โทษกันและว่าไปตามกระบวนการยุติธรรมที่ถูกต้อง จึงไม่มี ประโยชน์ที่จะพูดว่าชุดดำหรือชุดไม่ดำ ถ้าพูดกันตามหน้าหนังสือพิมพ์ไม่น่า จะจบ อยากให้ลดกันไปสักข้างหนึ่ง ซึ่งตนก็ลดลงไปข้างหนึ่งแล้ว ต้องเห็นใจตนเพราะลูกน้องบาดเจ็บล้มตาย ลูก เมียเดือดร้อนเขาร้องมาให้กองทัพบกปกป้อง เกียรติยศ และศักดิ์ศรีของเขา ที่ไปหาว่าเขาไปยิงประชาชน ตนก็ไปสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจ สอบ และใช้กระบวนการยุติธรรมในการชี้แจง หากผิดก็ต้องรับผิด ถ้าไม่ผิดจะให้เขารับผิดมันก็ไม่ใช่ ตอนนี้เราไม่รู้ ก็ต้องไปหาให้เจอว่าพวกไหน ตนไม่ได้โทษว่าเป็นพวกใคร แต่อีกข้างบอกว่าเป็นทหารทั้งนั้น อย่างนี้ถือว่าไม่เป็นธรรม
“คำว่าชายชุดดำไม่ใช่ว่าต้องใส่ชุดดำ พอไม่ใส่ชุดดำแล้วบอกว่าไม่ใช่ มัน ก็คงไม่ใช่ จะชุดอะไรก็ได้ แต่วันที่เกิดเรื่อง10 เม.ย.53 นั้นพูดกันว่าชุดดำเพราะแต่งชุดดำ หลังจากนั้นมันก็ไม่ได้แต่งดำ แต่จะถามว่าแล้วมีรูปที่มันยิงหรือไม่ ใครจะไปถ่ายรูปมันได้ ก็ต้องรอรูปจาก สื่อมวลชน ทหารออกไปในตอนนั้นไม่คิดว่าจะมีคนใจร้ายแบบนี้ออกมาเท่านั้นเอง และเมื่อเขาใจร้ายใส่เรา เราก็ยังไม่ได้ตอบโต้ ผมถามว่าลูกน้องที่นอนเจ็บ อยู่ที่โรงพยาบาลว่าเห็นคนยิงเขาหรือไม่ คนที่ท้องทะลุที่เป็นผู้บังคับกองพัน นายสิบ และยังมีพิการอีกหลายคน ซึ่งเขาบอกว่าเขาก็เห็น แต่พวกนั้นอยู่ข้างหลังประชาชน ซึ่งผมก็ไม่ได้โทษว่าเป็นพวกใคร ผมก็ถามว่าทำไมไม่ยิงสู้ ยิงไม่ได้เหรอ เขาก็บอกว่ายิงไม่ได้ เพราะถ้ายิงก็จะโดนประชาชนที่ขวางหน้าอยู่ ผมก็ถามว่าผู้ที่อยู่ข้างหน้าเป็นใคร เขาก็บอกว่าเป็นประชาชนที่มาประท้วง มาเดินขบวนทั้งหมด เขาก็เป็นคนไทยเหมือนกัน ซึ่งทำร้ายเขาไม่ได้ ผมฟังแล้วผมก็สะอึก นั่นคือลูกน้องผม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ถ้าต่างฝ่ายต่างไม่โทษกันและว่าไปตามกระบวนการยุติธรรมที่ถูกต้อง จึงไม่มี ประโยชน์ที่จะพูดว่าชุดดำหรือชุดไม่ดำ ถ้าพูดกันตามหน้าหนังสือพิมพ์ไม่น่า จะจบ อยากให้ลดกันไปสักข้างหนึ่ง ซึ่งตนก็ลดลงไปข้างหนึ่งแล้ว ต้องเห็นใจตนเพราะลูกน้องบาดเจ็บล้มตาย ลูก เมียเดือดร้อนเขาร้องมาให้กองทัพบกปกป้อง เกียรติยศ และศักดิ์ศรีของเขา ที่ไปหาว่าเขาไปยิงประชาชน ตนก็ไปสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจ สอบ และใช้กระบวนการยุติธรรมในการชี้แจง หากผิดก็ต้องรับผิด ถ้าไม่ผิดจะให้เขารับผิดมันก็ไม่ใช่ ตอนนี้เราไม่รู้ ก็ต้องไปหาให้เจอว่าพวกไหน ตนไม่ได้โทษว่าเป็นพวกใคร แต่อีกข้างบอกว่าเป็นทหารทั้งนั้น อย่างนี้ถือว่าไม่เป็นธรรม
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น