วันนี้ ( 6 มิ.ย.) ที่รัฐสภา น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม.
ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการธรรมาภิบาลด้านพลังงาน วุฒิสภา
แถลงข่าวคัดค้านการที่กระทรวงพลังงานจะนำแผน PDP 2010 ปรับปรุงครั้งที่ 3
เข้าสู่ที่ประชุมนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)ในวันที่ 8 มิ.ย.นี้
โดยระบุว่าเป็นการฉวยโอกาสสถานการณ์วุ่นวายทางการเมืองนำแผนที่ขัดกับมติ
ครม. ที่ให้ประหยัดพลังงาน และจะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าต่อหน่วยสูงถึง 4.56
บาทในปี 2573 ทั้งที่ควรจะประหยัดการลงทุนพลังงานเป็นมูลค่ากว่า 4
แสนล้านบาทใน 20 ปีข้างหน้า
น.ส.รสนา กล่าวต่อว่า คณะอนุกรรมาธิการเรียกร้องให้ชะลอแผนดังกล่าวด้วยเหตุผล ว่า เป็นการขัดกับมติ ครม. เพื่อการประหยัดพลังงานของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2554 และยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมติแต่อย่างใด โดยแผนดังกล่าวได้นำเป้าหมายเดิมที่กำหนดให้ประหยัดพลังงานให้ได้ 96,653 ล้านหน่วยในปี 2573 มาใช้เพียง 20 % หรือประหยัดเพียง 20,497 ล้านหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าแพงขึ้นจากราคาหน่วยละ 2.89 บาทในปัจจุบันเป็นหน่วยละ 4.56 บาทในปี 2573 เพราะหากประหยัดตามแผนมติ ครม. 100 % จะเหลือค่าไฟในปี 2573 เพียงหน่วยละ 3.00 บาทเท่านั้น หรือถูกลง 1.56 บาทต่อหน่วย และยังประหยัดเงินลงทุนด้านพลังงานราวสี่แสนล้านบาทในอีก 20 ปีข้างหน้า
“นอกจากนี้ยังมีการเร่งรัดโดยไม่ดำเนินการทำประชาพิจารณ์อย่างถูกต้อง ทั้งยังมีการแก้ไขแบบรื้อทั้งฉบับเหมือนทำใหม่ เป็นการเพิ่มภาระประเทศชาติและประชาชน โดยเสนอในวันที่บ้านเมืองวุ่นวายกับการประท้วงเรื่องการลงมติรัฐธรรมนูญ เพื่อสร้างโอกาสให้กับตนเองและพวกโดยไม่ให้เป็นที่สังเกต” น.ส.รสนา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีอะไรเป็นแรงจูงใจในการเสนอแผนดังกล่าว น.ส.รสนา กล่าวว่า เป็นการเอื้อประโยชน์ธุรกิจก๊าซ ถ่านหิน จนถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และขอไปตรวจสอบดูได้ว่า กลุ่มธุรกิจพลังงานเหล่านี้มีใครอยู่เบื้องหลัง.
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th
น.ส.รสนา กล่าวต่อว่า คณะอนุกรรมาธิการเรียกร้องให้ชะลอแผนดังกล่าวด้วยเหตุผล ว่า เป็นการขัดกับมติ ครม. เพื่อการประหยัดพลังงานของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2554 และยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมติแต่อย่างใด โดยแผนดังกล่าวได้นำเป้าหมายเดิมที่กำหนดให้ประหยัดพลังงานให้ได้ 96,653 ล้านหน่วยในปี 2573 มาใช้เพียง 20 % หรือประหยัดเพียง 20,497 ล้านหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าแพงขึ้นจากราคาหน่วยละ 2.89 บาทในปัจจุบันเป็นหน่วยละ 4.56 บาทในปี 2573 เพราะหากประหยัดตามแผนมติ ครม. 100 % จะเหลือค่าไฟในปี 2573 เพียงหน่วยละ 3.00 บาทเท่านั้น หรือถูกลง 1.56 บาทต่อหน่วย และยังประหยัดเงินลงทุนด้านพลังงานราวสี่แสนล้านบาทในอีก 20 ปีข้างหน้า
“นอกจากนี้ยังมีการเร่งรัดโดยไม่ดำเนินการทำประชาพิจารณ์อย่างถูกต้อง ทั้งยังมีการแก้ไขแบบรื้อทั้งฉบับเหมือนทำใหม่ เป็นการเพิ่มภาระประเทศชาติและประชาชน โดยเสนอในวันที่บ้านเมืองวุ่นวายกับการประท้วงเรื่องการลงมติรัฐธรรมนูญ เพื่อสร้างโอกาสให้กับตนเองและพวกโดยไม่ให้เป็นที่สังเกต” น.ส.รสนา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีอะไรเป็นแรงจูงใจในการเสนอแผนดังกล่าว น.ส.รสนา กล่าวว่า เป็นการเอื้อประโยชน์ธุรกิจก๊าซ ถ่านหิน จนถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และขอไปตรวจสอบดูได้ว่า กลุ่มธุรกิจพลังงานเหล่านี้มีใครอยู่เบื้องหลัง.
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น