วันนี้ ( 15 ม.ค.) นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน
อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี
เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการแก้ปัญหาการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ ทับลาน ว่า
ล่าสุดศาลจังหวัดกบินทร์บุรี มีคำพิพากษายกฟ้องกรณีที่ทะเลหมอกรีสอร์ท
ฟ้องร้องนายดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
นายอนันต์ โตวิริยะเวช ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี)
และตน ในข้อหาบุกรุกและทำลายทรัพย์สิน ในยามวิกาล
จากการนำกำลังเข้ารื้อถอนบ้านทะเลหมอกรีสอร์ท ในช่วงรอยต่อคืนวันที่ 27-28
ก.ค. 2555 ที่ผ่านมา โดยศาลระบุว่าคำฟ้องดังกล่าวไม่มีมูล
และให้คำร้องตกไป ซึ่งบ้านทะเลหมอกรีสอร์ทก็คงต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ต่อไป
นายเทวินทร์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม การที่ศาลชั้นต้นยกคำฟ้อง ถือเป็นเรื่องน่ายินดี และเป็นสิ่งยืนยันว่ากรมอุทยานฯ ดำเนินการตามกฎหมายทุกประการ ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาได้ทำหนังสือเสนอไปยังกรมอุทยานฯ เพื่อขออนุมัติงบประมาณจำนวน ประมาณ 3 ล้านบาท นำมาใช้ในการรื้อถอน บ้านพักตากอากาศ รีสอร์ท ที่ศาลมีคำพิพากษาให้รื้อถอนแล้วจำนวน 50 และได้ดำเนินการรื้อถอนไปบางส่วนแล้วจำนวน 27 แห่ง เช่น ทะเลหมอกรีสอร์ท ซึ่งจะต้องดำเนินการต่อให้จบ เพื่อไม่ให้มีการเข้ามาใช้ประโยชน์ได้อีก ขณะเดียวกันก็ต้องฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งเพื่อให้ผู้ประกอบการชดใช้ ค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนคืนให้กรมด้วย
ด้านนายนุวรรต ลีลาพตะ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯ ทับลาน กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูง ก็เป็นปัญหาสำคัญในอุทยานฯ ทับลาน โดยเฉพาะในพื้นที่อ.เสิงสาง ครบุรี จ.นครราชสีมา โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมาได้รับรายงานว่าขณะเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ทับลาน นำโดยนายภัทรพล ซุ่นฮั้ว หัวหน้าเขตการจัดการอุทยานฯ ทับลาน ที่ 3 คลองน้ำมัน และนายประพัฒพงศ์ สุขุประการ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ ทำหน้าที่หัวหน้าสายตรวจปราบปรามชุดเฉพาะกิจไม้พะยูง อุทยานฯ ทับลาน เจ้าหน้าที่ สบอ. 7 กรมอุทยานฯ เจ้าหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นม. 6 ครบุรี กรมป่าไม้ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการลับลอบตัดไม้พะยูง บริเวณป่าอุทยานฯ ทับลาน ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี พบร่องรอยชักลากไม้พะยูงออกมาจากป่า เจ้าหน้าที่จึงได้แกะรอยออกมาจนถึงบริเวณชายป่าข้างวัดทับสะเดา ต.โคกกระชาย พบรถยนต์บรรทุก 4 ล้อ ยี่ห้อโตโยต้าสีบอนซ์ ทอง หมายเลขทะเบียน บษ 6965 อุดรธานี บรรทุกไม้พะยูงจำนวน 7 ท่อน /เหลี่ยม จึงได้เข้าตรวจสอบ
นายนุวรรต กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบรถยนต์และไม้พะยูงของกลาง และอยู่ระหว่างการเรียกกำลังเจ้าหน้าที่ชุดใหญ่มาสมทบนั้น ได้มีกลุ่มราษฎรกว่า 30 คน บางคนอำพรางใบหน้าด้วยการคลุมผ้าและสวมหมวก วิ่งกรูเข้ามายังรถ และพูดจาข่มขู่ว่าจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ ต้องการเอาไม้พะยูงและรถของกลางคืน แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยินยอม โดยกลุ่มราษฎรดังกล่าวได้ช่วยกันขนและถีบไม้ลงจากรถได้จำนวน 4 ท่อนต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่ ที่ไม่สามารถห้ามปรามได้เพราะมีกำลังน้อยกว่า จากนั้นได้ขับรถหลบหนีไปโดยมีไม้เหลือติดอยู่บนรถ 3 ท่อน เจ้าหน้าที่จึงยึดได้เฉพาะไม้ 4 ท่อนที่ถูกถีบลงมา คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2 – 3 แสนบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกการจับกุมส่ง สภ.ครบุรี เพื่อติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการต่อไป
นายเทวินทร์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม การที่ศาลชั้นต้นยกคำฟ้อง ถือเป็นเรื่องน่ายินดี และเป็นสิ่งยืนยันว่ากรมอุทยานฯ ดำเนินการตามกฎหมายทุกประการ ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาได้ทำหนังสือเสนอไปยังกรมอุทยานฯ เพื่อขออนุมัติงบประมาณจำนวน ประมาณ 3 ล้านบาท นำมาใช้ในการรื้อถอน บ้านพักตากอากาศ รีสอร์ท ที่ศาลมีคำพิพากษาให้รื้อถอนแล้วจำนวน 50 และได้ดำเนินการรื้อถอนไปบางส่วนแล้วจำนวน 27 แห่ง เช่น ทะเลหมอกรีสอร์ท ซึ่งจะต้องดำเนินการต่อให้จบ เพื่อไม่ให้มีการเข้ามาใช้ประโยชน์ได้อีก ขณะเดียวกันก็ต้องฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งเพื่อให้ผู้ประกอบการชดใช้ ค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนคืนให้กรมด้วย
ด้านนายนุวรรต ลีลาพตะ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯ ทับลาน กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูง ก็เป็นปัญหาสำคัญในอุทยานฯ ทับลาน โดยเฉพาะในพื้นที่อ.เสิงสาง ครบุรี จ.นครราชสีมา โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมาได้รับรายงานว่าขณะเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ทับลาน นำโดยนายภัทรพล ซุ่นฮั้ว หัวหน้าเขตการจัดการอุทยานฯ ทับลาน ที่ 3 คลองน้ำมัน และนายประพัฒพงศ์ สุขุประการ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ ทำหน้าที่หัวหน้าสายตรวจปราบปรามชุดเฉพาะกิจไม้พะยูง อุทยานฯ ทับลาน เจ้าหน้าที่ สบอ. 7 กรมอุทยานฯ เจ้าหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นม. 6 ครบุรี กรมป่าไม้ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการลับลอบตัดไม้พะยูง บริเวณป่าอุทยานฯ ทับลาน ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี พบร่องรอยชักลากไม้พะยูงออกมาจากป่า เจ้าหน้าที่จึงได้แกะรอยออกมาจนถึงบริเวณชายป่าข้างวัดทับสะเดา ต.โคกกระชาย พบรถยนต์บรรทุก 4 ล้อ ยี่ห้อโตโยต้าสีบอนซ์ ทอง หมายเลขทะเบียน บษ 6965 อุดรธานี บรรทุกไม้พะยูงจำนวน 7 ท่อน /เหลี่ยม จึงได้เข้าตรวจสอบ
นายนุวรรต กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบรถยนต์และไม้พะยูงของกลาง และอยู่ระหว่างการเรียกกำลังเจ้าหน้าที่ชุดใหญ่มาสมทบนั้น ได้มีกลุ่มราษฎรกว่า 30 คน บางคนอำพรางใบหน้าด้วยการคลุมผ้าและสวมหมวก วิ่งกรูเข้ามายังรถ และพูดจาข่มขู่ว่าจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ ต้องการเอาไม้พะยูงและรถของกลางคืน แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยินยอม โดยกลุ่มราษฎรดังกล่าวได้ช่วยกันขนและถีบไม้ลงจากรถได้จำนวน 4 ท่อนต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่ ที่ไม่สามารถห้ามปรามได้เพราะมีกำลังน้อยกว่า จากนั้นได้ขับรถหลบหนีไปโดยมีไม้เหลือติดอยู่บนรถ 3 ท่อน เจ้าหน้าที่จึงยึดได้เฉพาะไม้ 4 ท่อนที่ถูกถีบลงมา คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2 – 3 แสนบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกการจับกุมส่ง สภ.ครบุรี เพื่อติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการต่อไป
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น