วันนี้ (15 ม.ค.) ที่โรงเรียนบ้านโคกมะม่วง หมู่ที่ 11 ตำบลนาท่ามเหนือ
อำเภอเมือง จังหวัดตรัง ครูสมพร บุญส่งนาค อายุ 55 ปี
รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโคกมะม่วง
และเป็นครูผู้สอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และปีที่ 5
กำลังตั้งใจสอนนักเรียนตัวน้อยอายุ 10-11 ปี จำนวน 6 คน ในระดับชั้น
ป.4และป.5 ซึ่งนั่งหลังชนกัน เรียนในห้องเดียวกัน
โดยบรรยากาศแบบนี้เป็นมาได้ปีกว่า
เนื่องจากมีนักเรียนในชุมชนมาเรียนน้อยลงทุกปี
ครูสมพร บุญส่งนาค อายุ 55 ปี รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโคกมะม่วง เปิดเผยว่า ปัจจุบันโรงเรียนบ้านโคกมะม่วงมีนักเรียนเพียง 11 คน ในระดับชั้นป.2 จำนวน 1 คน ระดับชั้นป.3 จำนวน 3 คน ระดับชั้นป.4 จำนวน 4 คน และระดับชั้นป.5 จำนวน 3 คน ส่วนระดับชั้นป.1และชั้นป.6 ไม่มีนักเรียน โดยชั้นป.2 ซึ่งเป็นนักเรียนผู้หญิงให้นั่งเรียนคนเดียว ชั้นป.3 เป็นนักเรียนผู้ชายล้วน ส่วนป.4และป.5 เรียนในห้องเดียวกัน แต่แม้จะมีนักเรียนน้อย แต่ด้วยความเป็นครูก็ตั้งใจสอนนักเรียนทุกคน เต็มความสามารถ โดยสอนแบบตัวต่อตัวและใช้ระบบการเรียนทางไกลผ่านดาวเทียม ตามหลักสูตรของโรงเรียนไกลกังวล อำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ครูดูแลเด็กได้อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ทั้งโรงเรียนมีครูเพียง 2 คน อีกคนเป็นผู้หญิงจะดูแลนักเรียนป.2และป.3 ซึ่งนอกจากการสอนหนังสือเด็กแล้ว ครูทั้ง 2 คนยังต้องทำหน้าที่ทุกอย่างในโรงเรียนตั้งแต่เปิดประตูห้อง ทำความสะอาดร่วมกับนักเรียน หุงข้าว ทำกับข้าวให้นักเรียนกินช่วงกลางวัน รวมถึงงานบริหารโรงเรียน ซึ่งบรรยากาศแบบนี้อบอุ่นไปตามธรรมชาติ
ครูสมพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันอาคาร ฝ้าเพดานโรงเรียนก็เริ่มทรุดโทรม วัสดุอุปกรณ์เช่นโต๊ะ เก้าอี้หรือ ห้องเรียนหลายห้องถูกปิดเนื่องจากไม่มีความจำเป็นต้องใช้ รัฐบาลไม่มีนโยบายยุบโรงเรียน แต่มีโครงการเรียนร่วมคือย้ายนักเรียนไปเรียนที่อื่นที่ใหญ่กว่าในตำบล ซึ่งในส่วนของโรงเรียนบ้านโคกมะม่วงคาดว่าไม่เกินสิ้นปี 2556 หรือต้นปี 2557 แต่สิ่งที่น่าใจหาย คือ พ่อแม่ผู้ปกครองรวมถึงเด็กที่เรียนอยู่ยังต้องการจะเรียนที่นี้ อยากจบชั้นป.6 ที่นี้เพราะด้วยความสะดวกหลายๆอย่าง แต่ส่วนตัวครูเองแม้รู้ว่าโรงเรียนต้องถูกยุบแน่นอน แต่ใจจริงก็อยากให้เด็กได้เปิดโลกทัศน์ ไปเรียนโรงเรียนขนาดใหญ่ มีครูที่มีประสบการณ์ในการถ่ายทอดได้มากกว่า ได้ทำกิจกรรมและมีโอกาสด้านการศึกษาที่ดีกว่า สำหรับบุคลากรครูการเข้าโครงการเรียนร่วมไม่มีผลกระทบแต่ถือเป็นโอกาสที่ดี ของเด็กๆเอง
ครูสมพร บุญส่งนาค อายุ 55 ปี รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโคกมะม่วง เปิดเผยว่า ปัจจุบันโรงเรียนบ้านโคกมะม่วงมีนักเรียนเพียง 11 คน ในระดับชั้นป.2 จำนวน 1 คน ระดับชั้นป.3 จำนวน 3 คน ระดับชั้นป.4 จำนวน 4 คน และระดับชั้นป.5 จำนวน 3 คน ส่วนระดับชั้นป.1และชั้นป.6 ไม่มีนักเรียน โดยชั้นป.2 ซึ่งเป็นนักเรียนผู้หญิงให้นั่งเรียนคนเดียว ชั้นป.3 เป็นนักเรียนผู้ชายล้วน ส่วนป.4และป.5 เรียนในห้องเดียวกัน แต่แม้จะมีนักเรียนน้อย แต่ด้วยความเป็นครูก็ตั้งใจสอนนักเรียนทุกคน เต็มความสามารถ โดยสอนแบบตัวต่อตัวและใช้ระบบการเรียนทางไกลผ่านดาวเทียม ตามหลักสูตรของโรงเรียนไกลกังวล อำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ครูดูแลเด็กได้อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ทั้งโรงเรียนมีครูเพียง 2 คน อีกคนเป็นผู้หญิงจะดูแลนักเรียนป.2และป.3 ซึ่งนอกจากการสอนหนังสือเด็กแล้ว ครูทั้ง 2 คนยังต้องทำหน้าที่ทุกอย่างในโรงเรียนตั้งแต่เปิดประตูห้อง ทำความสะอาดร่วมกับนักเรียน หุงข้าว ทำกับข้าวให้นักเรียนกินช่วงกลางวัน รวมถึงงานบริหารโรงเรียน ซึ่งบรรยากาศแบบนี้อบอุ่นไปตามธรรมชาติ
ครูสมพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันอาคาร ฝ้าเพดานโรงเรียนก็เริ่มทรุดโทรม วัสดุอุปกรณ์เช่นโต๊ะ เก้าอี้หรือ ห้องเรียนหลายห้องถูกปิดเนื่องจากไม่มีความจำเป็นต้องใช้ รัฐบาลไม่มีนโยบายยุบโรงเรียน แต่มีโครงการเรียนร่วมคือย้ายนักเรียนไปเรียนที่อื่นที่ใหญ่กว่าในตำบล ซึ่งในส่วนของโรงเรียนบ้านโคกมะม่วงคาดว่าไม่เกินสิ้นปี 2556 หรือต้นปี 2557 แต่สิ่งที่น่าใจหาย คือ พ่อแม่ผู้ปกครองรวมถึงเด็กที่เรียนอยู่ยังต้องการจะเรียนที่นี้ อยากจบชั้นป.6 ที่นี้เพราะด้วยความสะดวกหลายๆอย่าง แต่ส่วนตัวครูเองแม้รู้ว่าโรงเรียนต้องถูกยุบแน่นอน แต่ใจจริงก็อยากให้เด็กได้เปิดโลกทัศน์ ไปเรียนโรงเรียนขนาดใหญ่ มีครูที่มีประสบการณ์ในการถ่ายทอดได้มากกว่า ได้ทำกิจกรรมและมีโอกาสด้านการศึกษาที่ดีกว่า สำหรับบุคลากรครูการเข้าโครงการเรียนร่วมไม่มีผลกระทบแต่ถือเป็นโอกาสที่ดี ของเด็กๆเอง
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น