วันนี้ ( 15 ม.ค. ) เวลา 23.00 น. พ.ต.อ.สุกิตติ ไสวเกียรติ
ผกก.สภ.เมืองระยอง พ.ต.ท.กฤษณ์พงษ์ ใจรักเรียน สวป.และ พ.ต.ต.วิรัตน์
เตชนันท์ สว.สส.สภ.เมืองระยอง ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ
และได้รับแจ้งมีเกิดเหตุ 2 วัยรุ่น
ใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ผู้เสียหายเป็นผู้หญิง
เหตุเกิดบริเวณถนนข้างโรงเรียนสาธิตเทศบาลนครระยอง ต.ปากน้ำ อ.เมืองระยอง
โดยคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดง ทะเบียน ขธษ-543 ระยอง
มุ่งหน้าไปตามถนนอดุลย์ธรรมประภาส จึงแจ้งวิทยุให้ตำรวจสายตรวจ
และตำรวจอาสาช่วยกันสกัดจับ
ต่อมาตำรวจสายตรวจสามารถสกัดจับกุม 2 คน้รายได้ที่บริเวณป่าละเมาริมถนนอดุลย์ธรรมประภาส ต.ปากน้ำ ขณะคนร้ายกำลังจอดรถรื้อค้นกระเป๋าของผู้เสียหาย พร้อมกับตรวจยึดรถจักรยานยนต์ อาวุธปืนปลอมดัดแปลงเป็น ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก หมวกกันน๊อค 1 ใบและหมวกแก๊ป 1ใบ และทราบชื่อคนร้ายทั้ง 2 คน คือ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี และนายนี่ สัญชาติกัมพูชา จึงนำตัวไปสอบสวนที่สภ.เมืองระยอง
จากนั้น ได้มี น.ส.อังคณา สิทธิชัย อายุ 42 ปี ผู้เสียหาย เดินทางมาดูตัวคนร้าย พร้อมกับเล่าว่า ตนทำงานอยู่ที่ห้างแสงทอง ในตัวเมืองระยอง มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการห้าง ขณะเลิกงานได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีดำคาดทอง ทะเบียน คตก-123 ระยอง มาตามถนนในซอยวัดตรีฯ ข้างโรงเรียนสาธิตเทศบาลนครระยองเพื่อกลับบ้านพัก เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายจำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์มาประกบ โดยคนขับชักปืนออกมาและบอกให้ตนจอดรถ พร้อมกับตะโกนบอกว่าถ้าไม่หยุดจะยิงให้ตาย ด้วยความกลัวตนจึงหยุดรถ จากนั้นคนร้ายจึงกระชากกระเป๋าสะพายแล้วเร่งเครื่องยนต์หลบหนีไป
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน รับสารภาพว่าก่อเหตุใช้ปืนจี้ชิงกระเป๋า น.ส.อังคณา ผู้เสียหายจริง โดยนายดลสันต์ ผู้ต้องหารับว่าเพิ่งลงมือเป็นครั้งแรกเพราะติดเงินเพื่อนจำนวน 3 พันบาท ก่อนหน้าได้ขโมยโน๊ตบ๊คของแม่ไปขายแล้วแต่ไม่พอ จึงตัดสินใจก่อเหตุขึ้น ขณะที่นายนี่ ผู้ต้องหาสัญชาติกัมพูชา บอกว่าต้องการนำเงินเพื่อเดินทางกลับประเทศกัมพูชา จึงร่วมกับนายดลสันต์ ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ดังกล่าว เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกคำให้การ พร้อมลงบันทึกประจำวันไว้ และนำตัวส่งพนักวงานสอบสวนสภ.เมืองระยอง ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป..
ต่อมาตำรวจสายตรวจสามารถสกัดจับกุม 2 คน้รายได้ที่บริเวณป่าละเมาริมถนนอดุลย์ธรรมประภาส ต.ปากน้ำ ขณะคนร้ายกำลังจอดรถรื้อค้นกระเป๋าของผู้เสียหาย พร้อมกับตรวจยึดรถจักรยานยนต์ อาวุธปืนปลอมดัดแปลงเป็น ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก หมวกกันน๊อค 1 ใบและหมวกแก๊ป 1ใบ และทราบชื่อคนร้ายทั้ง 2 คน คือ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี และนายนี่ สัญชาติกัมพูชา จึงนำตัวไปสอบสวนที่สภ.เมืองระยอง
จากนั้น ได้มี น.ส.อังคณา สิทธิชัย อายุ 42 ปี ผู้เสียหาย เดินทางมาดูตัวคนร้าย พร้อมกับเล่าว่า ตนทำงานอยู่ที่ห้างแสงทอง ในตัวเมืองระยอง มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการห้าง ขณะเลิกงานได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีดำคาดทอง ทะเบียน คตก-123 ระยอง มาตามถนนในซอยวัดตรีฯ ข้างโรงเรียนสาธิตเทศบาลนครระยองเพื่อกลับบ้านพัก เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายจำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์มาประกบ โดยคนขับชักปืนออกมาและบอกให้ตนจอดรถ พร้อมกับตะโกนบอกว่าถ้าไม่หยุดจะยิงให้ตาย ด้วยความกลัวตนจึงหยุดรถ จากนั้นคนร้ายจึงกระชากกระเป๋าสะพายแล้วเร่งเครื่องยนต์หลบหนีไป
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน รับสารภาพว่าก่อเหตุใช้ปืนจี้ชิงกระเป๋า น.ส.อังคณา ผู้เสียหายจริง โดยนายดลสันต์ ผู้ต้องหารับว่าเพิ่งลงมือเป็นครั้งแรกเพราะติดเงินเพื่อนจำนวน 3 พันบาท ก่อนหน้าได้ขโมยโน๊ตบ๊คของแม่ไปขายแล้วแต่ไม่พอ จึงตัดสินใจก่อเหตุขึ้น ขณะที่นายนี่ ผู้ต้องหาสัญชาติกัมพูชา บอกว่าต้องการนำเงินเพื่อเดินทางกลับประเทศกัมพูชา จึงร่วมกับนายดลสันต์ ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ดังกล่าว เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกคำให้การ พร้อมลงบันทึกประจำวันไว้ และนำตัวส่งพนักวงานสอบสวนสภ.เมืองระยอง ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป..
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น