เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. เวลา 17.00 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ
นายกสมาคมอาหารแช่-เยือกแข็งไทย และนายก สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป
ได้นำคณะเข้าพบนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล
รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ
เพื่อขอทราบนโยบายของรัฐบาลและการแก้ไขกรณีที่สหรัฐฯ
ออกรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (TIP Report) ประจำปี 2555
โดยจัดอันดับไทยถูกจัดอันดับอยู่ในกลุ่มประเทศที่ถูกจับตามอง ระดับ 2
ภายหลังการหารือ นายสุรพงษ์ให้สัมภาษณ์ว่า ทั้ง 2 สมาคมได้แสดงความห่วงใย ถ้าสหรัฐฯปรับระดับไทยลงไปสู่ระดับ 3 ในปี 2556 เพราะจะทำให้ไทยต้องเจอมาตรการกีดกันทางด้านการค้า เช่น กุ้ง ปลาทูน่า เป็นต้น ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญมาก และได้มอบให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว อีกทั้งแต่งตั้งให้ตนเป็นประธานคณะผู้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการของ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยตามแผนปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนจึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนิน งานตามแผนปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีนายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ เป็นประธานคณะทำงาน และอธิบดีกรมสารนิเทศ กรมองค์การระหว่างประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และอัยการ เข้าร่วมด้วย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อชี้ให้เห็นว่าไทยให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะที่ผ่านมามีเอ็นจีโอชาวอังกฤษ ที่เป็นผู้เขียนรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์การค้ามนุษย์ในไทย ส่งไปยังต่างประเทศ แต่ข้อมูลที่นำเสนอนั้นไม่ตรงกับความเป็นจริง สำหรับคณะทำงานดังกล่าวจะประชุมนัดแรกในวันที่ 26 ธ.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 สมาคมได้เคยเชิญเอ็นจีโอคนดังกล่าวไปดูสถานที่จริง แต่ได้รับการปฏิเสธ ขณะที่การหาข้อมูลของเอ็นจีโอคนนี้ไม่ได้ลงพื้นที่จริง เพียงแต่ขับรถยนต์ตระเวนถ่ายภาพตามโรงงานต่างๆ และจะถ่ายในช่วงที่โรงเรียนปิดภาคเรียน ซึ่งลูกของแรงงานมักติดตามพ่อแม่ซึ่งมาทำงานที่โรงงาน ทำให้เกิดภาพว่าไทยใช้แรงงานเด็ก
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้แนะนำว่าให้เปิดสถานศึกษาดูแลเด็กในช่วงปิดภาคเรียน ซึ่งทั้ง 2 สมาคมพร้อมสนับสนุนเพื่อให้เรื่องนี้เป็นรูปธรรม ซึ่งนายกรัฐมนตรีกำชับว่าต้องดำเนินการให้เห็นผลความคืบหน้าเป็นรูปธรรมภาย ใน 45 วัน อีกทั้ง กระทรวงการต่างประเทศจะเชิญนางคริสตี้ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย และคณะผู้เกี่ยวข้อง เดินทางลงพื้นที่สถานประกอบการเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าไม่ได้เป็นตาม รายงานของเอ็นจีโอข้างต้น ตนเชื่อว่าถ้าได้ชี้แจงอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา ตามข้อเท็จจริง จะสามารถนำไปเปรียบเทียบกับรายงานฉบับนี้.
ภายหลังการหารือ นายสุรพงษ์ให้สัมภาษณ์ว่า ทั้ง 2 สมาคมได้แสดงความห่วงใย ถ้าสหรัฐฯปรับระดับไทยลงไปสู่ระดับ 3 ในปี 2556 เพราะจะทำให้ไทยต้องเจอมาตรการกีดกันทางด้านการค้า เช่น กุ้ง ปลาทูน่า เป็นต้น ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญมาก และได้มอบให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว อีกทั้งแต่งตั้งให้ตนเป็นประธานคณะผู้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการของ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยตามแผนปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนจึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนิน งานตามแผนปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีนายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ เป็นประธานคณะทำงาน และอธิบดีกรมสารนิเทศ กรมองค์การระหว่างประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และอัยการ เข้าร่วมด้วย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อชี้ให้เห็นว่าไทยให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะที่ผ่านมามีเอ็นจีโอชาวอังกฤษ ที่เป็นผู้เขียนรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์การค้ามนุษย์ในไทย ส่งไปยังต่างประเทศ แต่ข้อมูลที่นำเสนอนั้นไม่ตรงกับความเป็นจริง สำหรับคณะทำงานดังกล่าวจะประชุมนัดแรกในวันที่ 26 ธ.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 สมาคมได้เคยเชิญเอ็นจีโอคนดังกล่าวไปดูสถานที่จริง แต่ได้รับการปฏิเสธ ขณะที่การหาข้อมูลของเอ็นจีโอคนนี้ไม่ได้ลงพื้นที่จริง เพียงแต่ขับรถยนต์ตระเวนถ่ายภาพตามโรงงานต่างๆ และจะถ่ายในช่วงที่โรงเรียนปิดภาคเรียน ซึ่งลูกของแรงงานมักติดตามพ่อแม่ซึ่งมาทำงานที่โรงงาน ทำให้เกิดภาพว่าไทยใช้แรงงานเด็ก
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้แนะนำว่าให้เปิดสถานศึกษาดูแลเด็กในช่วงปิดภาคเรียน ซึ่งทั้ง 2 สมาคมพร้อมสนับสนุนเพื่อให้เรื่องนี้เป็นรูปธรรม ซึ่งนายกรัฐมนตรีกำชับว่าต้องดำเนินการให้เห็นผลความคืบหน้าเป็นรูปธรรมภาย ใน 45 วัน อีกทั้ง กระทรวงการต่างประเทศจะเชิญนางคริสตี้ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย และคณะผู้เกี่ยวข้อง เดินทางลงพื้นที่สถานประกอบการเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าไม่ได้เป็นตาม รายงานของเอ็นจีโอข้างต้น ตนเชื่อว่าถ้าได้ชี้แจงอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา ตามข้อเท็จจริง จะสามารถนำไปเปรียบเทียบกับรายงานฉบับนี้.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น