วันนี้ (18 พ.ย.) ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สยาม นายสมบัติ บุญงามอนงค์
หรือ บก.ลายจุด พร้อมผู้ชุมนุมกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ประมาณ 100 คน
รวมตัวกันจัดกิจกรรม “เทศกาลแช่แข็งประเทศไทย” เพื่อเป็นการล้อเลียน
พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม
ที่นัดชุมนุมใหญ่เพื่อไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ครั้งที่สอง
ในวันที่ 24 พ.ย. และเตรียมใช้โมเดล "แช่แข็งประเทศ 5 ปี"
หลังจากไล่รัฐบาลออกไปแล้ว โดยกล่มผู้ชุมนุมพากันแต่งกายด้วยชุดกันหนาว
ผ้าพันคอ ถุงมือ ถุงน่อง ถือป้ายข้อความ กับสติ๊กเกอร์
ที่มีข้อความเขียนต่าง ๆ เช่น หยุดการแช่แข็งประเทศไทย ,NO Freeze Thailand
หรือ หนาว แน่ มึง ฯลฯ มาทำแฟลชม็อบ (Flash Mob)
กันบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม
ก่อนจะพากันขึ้นรถไฟฟ้าเดินทางไปทำแฟลชม็อบที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสจตุจักร
แล้วนั่งรถไฟฟ้าย้อนกลับมาที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยามก่อนแยกย้ายกันกลับ
นายสมบัติ กล่าวว่า วันนี้ตั้งใจมาจัดกิจกรรมเทศกาลแช่แข็งประเทศไทย ทำแฟลชม็อบเพื่อเป็นการล้อเลียน เสธ.อ้าย โดยต้องการจะสื่อให้เห็นว่า หากประเทศไทยถูกแช่แข็งแล้วประชาชนจะต้องทำตัวอย่างไรบ้าง เพื่อเป็นการส่งสัญญาณไปก่อนที่สัปดาห์หน้า เสธ.อ้าย จะเริ่มปฏิบัติการแช่แข็งประเทศตามลำดับขั้น โดยส่วนตัวมองว่า การที่คนกลุ่มหนึ่งจะหยุดไม่ให้มีการเลือกผู้แทนของประชาชนถึง 5 ปี และจะตั้งตัวแทนของพวกตัวเองขึ้นมาบริหารประเทศโดยไม่ผ่านกระบวนการเลือก ตั้งนั้นไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงของสังคมไทยกับสังคมโลกในปัจจุบัน
นายสมบัติ กล่าวต่อว่า การที่ เสธ.อ้าย เสนอแบบนี้นั้นเหมือนกับหลุดมาจากยุคน้ำแข็ง ที่ตัวเองนึกอยากจะทำอะไรก็ทำได้ คิดว่าตัวเองมีกำลังเรียกทหารออกมาได้ ซึ่งความเป็นจริงแล้ว ประเทศไม่ได้อยู่ในยุคน้ำแข็งแต่อยู่ในสังคมประชาธิปไตยที่ประชาชนมีสิทธิ์ ร่วมด้วย คนเหล่านี้มีสิทธิ์ที่จะมีความเห็นทางการเมืองที่แตกต่างได้ แต่ต้องมาสู้กันผ่านกระบวนการรัฐสภา หากจะคิดเปลี่ยนแปลงอะไร อย่างไรก็ตาม ตนเคารพสิทธิในการชุมนุมที่สนามม้านางเลิ้ง ไม่คัดค้านการชุมนุมที่นั่น แต่คัดค้านข้อเสนอแช่แข็งประเทศไทย เพราะเห็นว่าเป็นข้อเสนอที่สังคมไทยรับได้ยาก ไม่น่าจะมีมวลชนสนับสนุนข้อเสนอนี้ ทำให้วาทกรรม “แช่แข็งประเทศไทย” ของ เสธ.อ้าย แทนที่จะแช่แข็งประเทศไทย กลับเป็นย้อนมาแช่แข็ง เสธ.อ้าย เรียบร้อย
บก.ลายจุด กล่าวต่อว่า กระแสการต่อต้านข้อเสนอของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ และการเคลื่อนไหวขององค์การพิทักษ์สยาม ยังมีอีกหลายรูปแบบ เช่น การขึ้นป้ายสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง คัดค้านการรัฐประหาร รวมทั้งยังมีกลุ่มเสื้อแดงที่ใช้ชื่อ “สมัชชาประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย” เตรียมจัดกิจกรรมประกาศเจตนารมณ์คนนนทบุรีไม่เอาการแช่แข็งประเทศและเจตจำนง ในการต่อต้านการรัฐประหารทุกรูปแบบในวันที่ 24 พ.ย.นี้ เวลา 15.00 น. ที่หน้าสถานีดาวเทียมไทยคม จังหวัดนนทบุรี อีกด้วย
นายสมบัติ กล่าวว่า วันนี้ตั้งใจมาจัดกิจกรรมเทศกาลแช่แข็งประเทศไทย ทำแฟลชม็อบเพื่อเป็นการล้อเลียน เสธ.อ้าย โดยต้องการจะสื่อให้เห็นว่า หากประเทศไทยถูกแช่แข็งแล้วประชาชนจะต้องทำตัวอย่างไรบ้าง เพื่อเป็นการส่งสัญญาณไปก่อนที่สัปดาห์หน้า เสธ.อ้าย จะเริ่มปฏิบัติการแช่แข็งประเทศตามลำดับขั้น โดยส่วนตัวมองว่า การที่คนกลุ่มหนึ่งจะหยุดไม่ให้มีการเลือกผู้แทนของประชาชนถึง 5 ปี และจะตั้งตัวแทนของพวกตัวเองขึ้นมาบริหารประเทศโดยไม่ผ่านกระบวนการเลือก ตั้งนั้นไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงของสังคมไทยกับสังคมโลกในปัจจุบัน
นายสมบัติ กล่าวต่อว่า การที่ เสธ.อ้าย เสนอแบบนี้นั้นเหมือนกับหลุดมาจากยุคน้ำแข็ง ที่ตัวเองนึกอยากจะทำอะไรก็ทำได้ คิดว่าตัวเองมีกำลังเรียกทหารออกมาได้ ซึ่งความเป็นจริงแล้ว ประเทศไม่ได้อยู่ในยุคน้ำแข็งแต่อยู่ในสังคมประชาธิปไตยที่ประชาชนมีสิทธิ์ ร่วมด้วย คนเหล่านี้มีสิทธิ์ที่จะมีความเห็นทางการเมืองที่แตกต่างได้ แต่ต้องมาสู้กันผ่านกระบวนการรัฐสภา หากจะคิดเปลี่ยนแปลงอะไร อย่างไรก็ตาม ตนเคารพสิทธิในการชุมนุมที่สนามม้านางเลิ้ง ไม่คัดค้านการชุมนุมที่นั่น แต่คัดค้านข้อเสนอแช่แข็งประเทศไทย เพราะเห็นว่าเป็นข้อเสนอที่สังคมไทยรับได้ยาก ไม่น่าจะมีมวลชนสนับสนุนข้อเสนอนี้ ทำให้วาทกรรม “แช่แข็งประเทศไทย” ของ เสธ.อ้าย แทนที่จะแช่แข็งประเทศไทย กลับเป็นย้อนมาแช่แข็ง เสธ.อ้าย เรียบร้อย
บก.ลายจุด กล่าวต่อว่า กระแสการต่อต้านข้อเสนอของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ และการเคลื่อนไหวขององค์การพิทักษ์สยาม ยังมีอีกหลายรูปแบบ เช่น การขึ้นป้ายสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง คัดค้านการรัฐประหาร รวมทั้งยังมีกลุ่มเสื้อแดงที่ใช้ชื่อ “สมัชชาประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย” เตรียมจัดกิจกรรมประกาศเจตนารมณ์คนนนทบุรีไม่เอาการแช่แข็งประเทศและเจตจำนง ในการต่อต้านการรัฐประหารทุกรูปแบบในวันที่ 24 พ.ย.นี้ เวลา 15.00 น. ที่หน้าสถานีดาวเทียมไทยคม จังหวัดนนทบุรี อีกด้วย
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น