วันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เปิดประชุมอาเซียนซัมมิตครั้งที่ 21 อย่างเป็นทางการ


วันนี้ (18 พ.ย. ) เวลา 09.00 น. นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสุรพงษ์  โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การต่างประเทศ  นายนิวัฒน์ธำรง บญทรงไพศาล รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เดินทางไปยังสำนักงานนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 21 อย่างเป็นทางการ
โอกาสนี้สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 21 ว่า ยินดีต้อนรับผู้นำชาติอาเซียนในการมาร่วมประชุมเพื่อแสวงหาความร่วมมือ และกระชับความสัมพันธ์ในการนำชาติอาเซียนไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2015 ด้วยการต่อยอดความร่วมมือทั้งสามเสา คือ เศรษฐกิจ การเมืองความมั่นคง และสังคมวัฒนธรรม และหวังว่าในการประชุมครั้งนี้จะได้ผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรม และสร้างประโยชน์ร่วมกันแก่ชาติอาเซียน
จากนั้นผู้นำอาเซียนได้ขึ้นไปบนเวทีเพื่อถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน และร่วมพิธีเปิดสถาบันอาเซียนสำหรับสันติภาพและสมานฉันท์ ต่อมาเวลา 10.00 น. นางสาวยิ่งลักษณ์ เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 21 โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวถ้อยแถลงเพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการผลักดันสู่การ เป็นประชาคมอาเซียน มีสาระสำคัญดังนี้
นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณแก่นายกรัฐมนตรีฮุนเซนที่ให้การต้อนรับ อย่างอบอุ่น และขอแสดงความเสียใจต่อการเสด็จสรรคตของพระบาทสมเด็จพระนโรดมสีหนุ โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้ยกย่องความเป็นผู้นำและคำมั่นของกัมพูชาในฐานะ ประธานอาเซียนที่จะสานต่อข้อริเริ่มต่าง ๆ ในการกระชับความร่วมมือที่เข้มแข็งของอาเซียน และการเตรียมความพร้อมไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2015
ประการแรก ในปีนี้อาเซียนประสบความสำเร็จในการพัฒนาร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยสิทธิ มนุษยชน สะท้อนให้เห็นถึงเจตนารมณ์ทางการเมืองของอาเซียนในการส่งเสริมและคุ้มครอง สิทธิมนุษยชน ซึ่งประเทศไทยรอคอยให้การนำปฏิญญาดังกล่าวไปใช้ให้เกิดผลอย่างสมบูรณ์ การส่งเสริมและการปกป้องสิทธิมนุษยชนกำลังเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยหวังว่าปฏิญญานี้จะปูทางให้เกิดการพัฒนาสิทธิมนุษยชนในภูมิภาค ทั้งนี้ไทยยังได้มีการทำงานอย่างแข็งขันในการส่งเสริมสิทธิของเด็กและสตรี กำจัดความรุนแรงต่อเด็กและสตรี การสร้างอำนาจแก่สตรี การสร้างความเท่าเทียมกัน และการพัฒนาเด็ก
ประการที่สอง การต่อยอดความร่วมมือทั้งสามเสาเพื่อสร้างประชาคมอาเซียนที่แข็งแกร่ง สำหรับเสาเศรษฐกิจต้องขจัดอุปสรรคทางการค้าด้านภาษี การอำนวยความสะดวกในการค้าการลงทุนได้อย่างเสรี การปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อเอื้อประโยชน์ และการสร้างกลไกและสถาบันของอาเซียนให้ตอบสนองต่อการรวมกลุ่มเศรษฐกิจได้ดี ยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่การบูรณาการด้านเศรษฐกิจของภูมิภาค และใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) รวมถึงเพิ่มความสามารถด้านการแข่งขันในระยะยาว ประเทศไทยยินดีที่ได้มีการพัฒนาต่อยอดความตกลงพันธมิตรทางเศรษฐกิจระดับ ภูมิภาค และรอคอยการประกาศเจรจาความตกลงดังกล่าวในอีก 2 วันข้างหน้า และเห็นว่าควรมอบหมายให้เจ้าหน้าที่เริ่มต้นการเจรจาช่วงต้นปี 2556
สำหรับเสาด้านการเมืองความมั่นคง นายกรัฐมนตรีเห็นว่าควรให้ความสำคัญในการต่อสู่กับปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ และการฟอกเงิน ในด้านยาเสพติดนั้นควรผลักดันผลสำเร็จจากการจัดประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัย พิเศษด้านยาเสพติดซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ และขยายความร่วมมือในการต่อต้านยาเสพติดระหว่างพรมแดน ส่วนปัญหาด้านการค้ามนุษย์ ไทยเห็นว่าควรเร่งรัดอนุสัญญาอาเซียนว่าด้วยการค้ามนุษย์ และผลักดันให้มีการจัดทำแผน Regional Plan Action to Combat Trafficking in Persons

เสาด้านสังคมวัฒนธรรม ควรขยายความร่วมมือด้านการบริหารจัดการภัยพิบัติ ไทยยินดีที่ศูนย์ประสานงานอาเซียนสำหรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในการ จัดการภัยพิบัติได้ดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบ และเห็นว่าควรมีการประสานงานและทำงานร่วมกับศูนย์ภัยพิบัติอื่นๆ ในภูมิภาคเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการบริหารจัดการภัยพิบัติ โดยเฉพาะในเรื่องข้าว ประเทศไทยมีความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางสนับสนุนในด้านข้าว นอกจากนี้ไทยจะเป็นเจ้าภาพร่วมกับสาธารณรัฐเกาหลีเพื่อจัดการฝึกซ้อมตามแผน ARF Disaster Relief Exercise 2013 เพื่อให้รับมือกับภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในด้านภัยพิบัติทางน้ำ ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมกับประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงกับจีนใน ปีหน้า เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการบริหารจัดการน้ำ
ประการที่สาม การลดการช่องว่างด้านการพัฒนา ไทยยืนยันที่จะให้ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาแก่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยเน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาสาธารณูปโภค ทั้งในกรอบระดับทวิภาคี กรอบอนุภูมิภาคและกรอบอาเซียน รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือในลักษณะไตรภาคี เพื่อเร่งให้การลดช่องว่างด้านการพัฒนาของประเทศเพื่อนบ้านประสบผลสำเร็จโดย เร็ว
ประการที่สี่ การสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน ซึ่งถือเป็นวาระสำคัญสูงสุดอย่างหนึ่งของอาเซียน ในการสร้างความเชื่อมโยงนั้นสิ่งสำคัญคือการระดมเงินทุนเพื่อสร้างเครือข่าย สาธารณูปโภค อำนวยความสะดวกในการไปมาหาสู่และการค้าการลงทุนระหว่างกัน ขณะนี้ประเทศไทยได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับเมียนมาร์ ในโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวายเพื่อเป็นสะพานเชื่อมโยงเอเชียตะวันออก เฉียงใต้กับเอเชียใต้ ซึ่งจะส่งเสริมให้อาเซียนเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของภูมิภาค สำหรับด้านการศึกษา ได้มีโครงการเคลื่อนย้ายนักศึกษาในภูมิภาค การแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างกัน
ประการที่ห้า การทำให้อาเซียนเป็นประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง ให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงต้องมีความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอาหารอย่างใกล้ชิด แสวงหาแนวทางและวิธีการเพื่อให้มีอาหารที่เพียงพอ ทั้งในกรอบทวิภาคี อนุภูมิภาค และอาเซียน+3 โดยไทยได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิต ข้าว ยางพารา
ในตอนท้ายนายกรัฐมนตรีได้แสดงความขอบคุณแก่นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียนคนปัจจุบัน ที่ได้มีบทบาทในการสร้างประชาคมอาเซียนอย่างแข็งขันมาตลอดระยะเวลาห้าปี และไทยยินดีสนับสนุนเลขาธิการคนต่อไปคือ นายเลอ เลือง มินห์ ซึ่งเป็นชาวเวียดนาม และเชื่อมั่นว่าด้วยความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ของนายเลอ เลือง มินห์ จะนำอาเซียนไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนอย่างสมบูรณ์ในปี 2015 อย่างแน่นอน

0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources