วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ประชุมสภาถกญัตติซักฟอก “นายกฯ-3 รมต.”เริ่มแล้ว



วันนี้ ( 25 พ.ย.)   เมื่อเวลา 09.30 น.ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยสามัญทั่วไป เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยมีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์  ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ และรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายทั้ง 3 คน ทั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม และ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย รวมทั้งรัฐมนตรีคนอื่นๆ และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เข้าร่วมฟังการอภิปรายฯอย่างพร้อมเพรียง  และในห้องประชุมสภาได้มีการนำช่อดอกไม้สีสดใสประดับไว้ตรงป้ายพรรคที่นั่ง ของ ส.ส.แต่ละพรรค

ก่อนเข้าวาระการประชุม นายสมศักดิ์ ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า การอภิปราย  2 วันแรกจะยุติลงในเวลาไม่เกิน  01.00 และในวันที่สามต้องอภิปรายให้เสร็จก่อนเที่ยงคืน หรือ 24.00 น. และการอภิปรายหากมีคลิปหรือเอกสารประกอบก็ขอให้ผู้อภิปรายขออนุญาตจากประธาน ก่อน ตามประเพณีปฏิบัติที่ผ่านมา ต้องให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเอกสารหลักฐานและคลิปต่างๆ ทำให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน ได้ทักท้วงว่า ที่ประชุมวิป 2 ฝ่ายได้ข้อยุติร่วมกันแล้วว่าจะไม่มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ เพราะจะเป็นการรู้ข้อมูลล่วงหน้าในการอภิปรายฯโดยให้เป็นดุลยพินิจของและการ ควบคุมดูแลของประธานสภาฯ รวมทั้งก่อนการใช้เอกสาร จะต้องมีการหารือกับ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุน รองประธานสภาฯ เป็นผู้รับผิดชอบก่อน ทำให้ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล หลายคนได้โต้แย้งพร้อมเสนอตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ เช่นเดียวกับที่เคยทำในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งมีการโต้เถียงกันไปมา ในที่สุดนายสมศักดิ์  ได้สรุปว่า ขอให้ตั้งคณะกรรมการที่เป็นข้าราชการขึ้นมาดูแลเรื่องคลิปและเอกสาร พร้อมสั่งให้เลขาธิการสภาฯ ไปดำเนินการแต่งตั้งทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย หารือว่า ญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะต้องให้ ส.ส.ได้ทราบถึงเอกสารในประเด็นการยื่นถอดถอนนายกฯและรัฐมนตรีตามมาตรา 271 ของรัฐธรรมนูญด้วย ดังนั้น ผู้ถูกอภิปรายต้องเห็นประเด็นข้อกล่าวหา และส.ส.ต้องเห็นด้วย ไม่ใช่เปิดอภิปรายแล้วมีการยื่นภายหลัง ขณะที่นายจุรินทร์ ทักท้วงว่า เอกสารถอดถอนถือเป็นเอกสารลับและเพื่อป้องกันการเผยแพร่ที่อาจก่อให้เกิด ความเสียหายบุคคลใด กรณีฝ่ายค้านสำเนายื่นต่อประธาน เพราะประธานมีหน้าที่ควบคุมการประชุมให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ  แต่อยู่ดุลพินิจท่านจะเผยแพร่หรือไม่ เป็นเรื่องถูกต้องว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารลับหรือไม่ เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งก่อนมีปัญหาเอกสารลับนี้รั่วไหลไป ยัง ส.ส.แล้วนำมาอภิปรายในสภา  ที่สุดนายสมศักดิ์ สรุปว่า การที่ฝ่ายค้านบอกว่าเอกสารลับได้ยื่นถอดถอน เป็นแค่หัวข้อเท่านั้น ต่อไปนี้ฝ่ายค้านจะหยิบยกประเด็นเหล่านี้ขึ้นมาอภิปรายลงในรายละเอียดให้ ประชาชนได้ฟัง แล้วจะลับตรงไหน ตนเห็นว่าเอกสารนี้น่าจะแจกให้ ส.ส.ทุกคนให้ได้ช่วยการกำกับดูแลที่ประชุมดำเนินตามระเบียบข้อบังคับหรือไม่ ตนขอยืนยันแจกเอกสารให้ ส.ส.ทุกท่าน

นายจุรินทร์ แถลงเปิดญัตติว่า พวกตน ส.ส.จำนวน 157 คน ประกอบด้วย ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และพรรครักประเทศไทย ร่วมกันเสนอญัตติญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายก รัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 และรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามมาตรา 159  สำหรับญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลนั้นมีรัฐมนตรีที่ถูก เปิดอภิปรายคือ 1.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี  2.พล.อ.อ. สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม และ 3 .พล.ต.ท.ชัชจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย ทั้งนี้ได้แนบหลักฐานที่ได้ยื่นต่อประธานวุฒิสภาเพื่อขอให้วุฒิสภามีมติถอด ถอนรัฐมนตรีออกจากตำแหน่งตามมาตรา 271 มาด้วยแล้วเนื่องจากรัฐมนตรีมีรายนามข้างต้นได้มีพฤติกรรมการบริหารราชการ แผ่นดินที่  บกพร่องผิดพลาด  ล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ ขาดความรู้ความสามารถ ลุแก่อำนาจ ขาดคุณธรรม จริยธรรม เล่นพรรคเล่นพวก เลือกปฏิบัติ มุ่งสนองผลประโยชน์ผู้มีบุญคุณทางการเมืองมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวมที่แท้ จริงของประชาชน และความสงบสุขของบ้านเมือง ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต ไม่คำนึงถึงหลักนิติธรรมและระบบนิติรัฐ รัฐมนตรีบางคนยังมีพฤติกรรมทุจริต จงใจกระทำผิดกฎหมายและรัฐธรรมนูญหากปล่อยให้บริหารราชการแผ่นดิน ก็จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศและประชาชนไม่มีที่สิ้นสุด จึงไม่สมควรดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่อไป

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับญัตติญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม้ไว้วางใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีนั้นตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 158  โดยได้แนบหลักฐานการยื่นขอถอดถอนนายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 271 ด้วยทั้งนี้เนื่องจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีพฤติกรรมการบริหารราชการแผ่นดินบกพร่อง ล้มเหลว ผิดพลาด ไร้ความสามารถ ไร้ประสิทธิภาพ ไม่ปฏิบัติตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาและประชาชน มีพฤติการณ์พูดอย่างทำอย่าง นโยบายป้องกันและปราบปรามการทุจริตเป็นแค่เครื่องมือ “สร้างภาพ” “เอื้อพวก” มีการ“เลือกปฏิบัติ” “ละเว้น”เป็นหลายมาตรฐาน มีพฤติกรรมปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต ใช้จ่ายเงินแผ่นดินกระจายไปในกลุ่มบุคคลและหน่วยงานต่างๆ ท่ามกลางความเดือดร้อนแสนสาหัสของคนไทยทั้งประเทศ จนมีคำกล่าวว่ารัฐบาลภายใต้การบริหารของน.ส.ยิ่งลักษณ์ นอกจากน้ำท่วม หนี้ท่วม แพงทั้งแผ่นดินแล้ว ยังเกิดการทุจริตเป็นทำนอง“โกงทั้งแผ่นดิน”ด้วย

ในญัตติยังระบุด้วยว่า นายกฯยังบริหารราชการโดยไม่คำนึงถึงคุณธรรม จริยธรรม รังแกข้าราชการประจำ ทำลายระบบนิติรัฐ เห็นประเทศเป็นบริษัท ขัดหลักนิติธรรม มีพฤติกรรมลอยตัวเลี่ยงความรับผิดเพื่อตัว  เอื้อพวกเอื้อญาติ ปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอำนาจเหนือตัว เหนือรัฐธรรมนูญ ลักลอบควบคุมกำกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยมิชอบ ทั้งยังมีพฤติกรรมการบริหารโดยจงใจไม่รับผิดชอบต่อรัฐสภา ขาดวุฒิภาวะนายกรัฐมนตรีในระบอบประชาธิปไตย ปิดหูปิดตาประชาชน ปิดบังข้อมูล หลีกเลี่ยงการตรวจสอบเพื่อประโยชน์พวกพ้องและวงศ์วานว่านเครือ อีกทั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังมีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ราชการ จงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมายตลอดจนมีพฤติกรรมกระทำการอันไม่ บังควร หากปล่อยให้บริหารราชการแผ่นดินต่อไปก็จะเกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติไม่มี ที่สิ้นสุด จึงไม่สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป และเพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 159 พวกตนขอเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources