วันนี้ (24 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา
รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ศึกษาธิการ
กล่าวถึงการเยียวยาบุคคลากรทางการศึกษาและ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยเฉพาะการพิจารณาเรื่องเบี้ยเสี่ยงภัย ว่า เมื่อวันที่ 23
ม.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
กรณีเรื่องสวัสดิการของครูในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาทิ
เรื่องเบี้ยเสี่ยงภัย ซึ่งได้ข้อสรุปในหลายประเด็น
ซึ่งจะเสนอให้คณะกรรมการเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดภาคใต้(กพต.)ให้ความ
เห็นชอบต่อไป จึงถือว่าเรื่องนี้มีความคืบหน้าไปมาก และเมื่อได้ข้อสรุปแล้ว
เราจะแถลงให้ทราบรายละเอียดต่อไป
เมื่อถามว่างบประมาณที่จะต้องใช้ในเรื่องเบี้ยเสี่ยงภัย นายพงศ์เทพ
กล่าวว่า ประมาณหลักร้อยล้านบาท
เมื่อดูตามข้อเสนอของครูที่ขอเพิ่มเบี้ยเสี่ยงภัย จากเดือนละ 2,500 บาท
เป็น 3,500 บาท
แต่ที่ประชุมยังไม่สรุปเป็นมติว่าตัวเลขจะออกมาอย่างไรขอให้ผ่าน กพต.ก่อน
ทั้งนี้ ถ้าจะปรับเพิ่มเบี้ยเสี่ยงภัยให้กับหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง
ก็ต้องพิจารณาครอบคลุมไปถึงหน่วยงานอื่นๆด้วย
เมื่อถามกรณีที่โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หลายแห่ง ประกาศปิดทำการเรียนการสอน เพราะหวั่นว่าจะเกิดเหตุขึ้นนั้น ได้ประสานเพื่อขอให้เร่งเปิดทำการสอนหรือไม่ นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ต้องดูความปลอดภัยของครูและนักเรียนเป็นสำคัญ ถ้าโรงเรียนบางแห่งมีความไม่มั่นใจและจะหยุดการสอนไปบ้าง ทางกระทรวงฯก็เข้าใจ และเราจะประสานงานกลับไปว่าครูในพื้นที่นี้ต้องการมาตรการอะไรเพิ่มเติม หรือสามารถร้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ไปให้ดูแลคุ้มครองโรงเรียน เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่ามีความปลอดภัย และเปิดทำการสอนได้ตามปกติ ส่วนโรงเรียนที่หยุดก็ต้องทำการสอนชดเชย
นายพงศ์เทพ ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีปราสาทเขาพระวิหาร ว่า นายกรัฐมนตรีจะเรียกประชุมในวันที่ 25 ม.ค.นี้ เวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งตนจะสรุปประเด็นที่ไทยเตรียมยกเป็นข้อต่อสู้หลักในการชี้แจงด้วยวาจาต่อ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ(ศาลโลก)ในคดีปราสาทพระวิหาร รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ ซึ่งมีหลายประเด็น อาทิ ประเด็นที่ว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องที่ศาลโลกจะวินิจฉัย เพราะไม่ใช่การตีความคำพิพากษา อย่างไรก็ตาม คณะทำงานเรื่องนี้ประกอบด้วย นักกฎหมายที่เป็นข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งมีประสบการณ์สูง และมีนักกฎหมายระดับอาจารย์สอนกฎหมายในต่างประเทศ อีกทั้งเคยทำคดีในศาลโลกมาแล้วจำนวนมาก เราถือว่ามีผู้เชี่ยวชาญกฎหมายระหว่างประเทศ และตนยืนยันว่าเราสู้ทุกประเด็น
เมื่อถามว่าข้อกังวลว่าความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างรัฐบาลชุดนี้กับรัฐบาล กัมพูชา อาจทำให้ไทยอ่อนข้อกับกัมพูชา นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ต้องแยกแยะเรื่องความสัมพันธ์กับการปกป้องประโยชน์ของประเทศ ความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยและคนไทยทุกคน แต่ขณะเดียวกันเราต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศเกี่ยวกับคดีนี้อย่างเต็มที่ ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาก็ต้องแยกแยะเช่นเดียวกันด้วย และแต่ละฝ่ายต้องรักษาประโยช์ของประเทศตัวเองเต็มที่..
เมื่อถามกรณีที่โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หลายแห่ง ประกาศปิดทำการเรียนการสอน เพราะหวั่นว่าจะเกิดเหตุขึ้นนั้น ได้ประสานเพื่อขอให้เร่งเปิดทำการสอนหรือไม่ นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ต้องดูความปลอดภัยของครูและนักเรียนเป็นสำคัญ ถ้าโรงเรียนบางแห่งมีความไม่มั่นใจและจะหยุดการสอนไปบ้าง ทางกระทรวงฯก็เข้าใจ และเราจะประสานงานกลับไปว่าครูในพื้นที่นี้ต้องการมาตรการอะไรเพิ่มเติม หรือสามารถร้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ไปให้ดูแลคุ้มครองโรงเรียน เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่ามีความปลอดภัย และเปิดทำการสอนได้ตามปกติ ส่วนโรงเรียนที่หยุดก็ต้องทำการสอนชดเชย
นายพงศ์เทพ ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีปราสาทเขาพระวิหาร ว่า นายกรัฐมนตรีจะเรียกประชุมในวันที่ 25 ม.ค.นี้ เวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งตนจะสรุปประเด็นที่ไทยเตรียมยกเป็นข้อต่อสู้หลักในการชี้แจงด้วยวาจาต่อ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ(ศาลโลก)ในคดีปราสาทพระวิหาร รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ ซึ่งมีหลายประเด็น อาทิ ประเด็นที่ว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องที่ศาลโลกจะวินิจฉัย เพราะไม่ใช่การตีความคำพิพากษา อย่างไรก็ตาม คณะทำงานเรื่องนี้ประกอบด้วย นักกฎหมายที่เป็นข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งมีประสบการณ์สูง และมีนักกฎหมายระดับอาจารย์สอนกฎหมายในต่างประเทศ อีกทั้งเคยทำคดีในศาลโลกมาแล้วจำนวนมาก เราถือว่ามีผู้เชี่ยวชาญกฎหมายระหว่างประเทศ และตนยืนยันว่าเราสู้ทุกประเด็น
เมื่อถามว่าข้อกังวลว่าความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างรัฐบาลชุดนี้กับรัฐบาล กัมพูชา อาจทำให้ไทยอ่อนข้อกับกัมพูชา นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ต้องแยกแยะเรื่องความสัมพันธ์กับการปกป้องประโยชน์ของประเทศ ความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยและคนไทยทุกคน แต่ขณะเดียวกันเราต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศเกี่ยวกับคดีนี้อย่างเต็มที่ ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาก็ต้องแยกแยะเช่นเดียวกันด้วย และแต่ละฝ่ายต้องรักษาประโยช์ของประเทศตัวเองเต็มที่..
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น