วันนี้(29พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก
ตร.
แถลงการณ์เตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเศรษฐกิจในภูมิภาค
เอเชียตะวันออก 2012 (World Economic Forum 2012) ระหว่างวันที่ 30 พ.ค. – 1
มิ.ย.ที่ โรงแรมแชงกรีล่า กทม. และกำหนดพิธีเปิดการประชุมในวันที่ 31
พ.ค. เวลา 15.30น. โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ซึ่งในส่วนของตร.ทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ
สถานที่ประชุมและสถานที่พักผู้เข้าร่วมประชุม
ตลอดจนการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร
ได้จัดทำแผนมาตรการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร
โดยมอบหมายภารกิจให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจสันติบาล
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โรงพยาบาลตำรวจ ฯลฯ
ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศ ได้แจ้งว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
นอกจากจะเข้าร่วมประชุมแล้ว ยังมาเยือนประเทศไทยในฐานะแขกของรัฐบาลด้วย
สำหรับประเทศที่มีระดับผู้นำเข้าร่วมประชุม ได้แก่ ราชอาณาจักรบาเรนห์,
สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และสาธารณรัฐอินโดนีเซีย
นอกจากนี้จะเป็นบุคคลสำคัญระดับรัฐมนตรี จำนวน 18 ประเทศ
และมีผู้นำองค์กรระหว่างประเทศ จำนวน 8คน
โดยผู้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้มีจำนวนประมาณกว่า 600 คน
โฆษก ตร. กล่าวว่า นางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย สาธารณรัฐสหภาพพม่า จะเดินทางมาร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย โดยกำหนดเดินทางถึงประเทศไทยในวันที่ 29 พฤษภาคม เวลาประมาณ 21.00 น. โดยเครื่องบินสายการบินไทย ซึ่งตร. ได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ รปภ. และมาตรการรักษาความปลอดภัยในส่วนที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว โดยส่วนตัวนางอองซาน จะมีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจสันติบาลดูตลอดเวลา โดยทราบว่า ในวันที่ 30 พฤษภาคม นางอองซานจะไปเยี่ยมแรงงานพม่าที่จ.สมุทรสาคร จากนั้นจะไปพบแรงงานพม่าที่ทำงานย่านมีนบุรี ก่อนวันที่ 3 มิถุนายน จะเดินทางไปอ.แม่สอด จ.ตาก และเดินทางกลับในวันที่ 3 มิถุนายน อย่างไรก็ตามจากการข่าวตอนนี้ไม่มีภัยคุกคามใด ต่อตัวนางอองซานแต่เนื่องจากเป็นบุคคลที่คนทั้งโลกให้ความสนใจจึงต้องให้การ ดูแลเป็นกรณีพิเศษ ส่วนผู้นำคนอื่นๆก็ยังไม่พบข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าห่วง หรือภัยคุกคามแต่อย่างใด
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า การประชุมจะใช้สถานที่ภายในโรงแรมแชงกรีล่าทั้งหมด และกำหนดหอประชุมกองทัพเรือเป็นสถานที่จัดเลี้ยง ในส่วนของโรงแรมที่พักผู้เข้าร่วมประชุม ได้แก่ โรงแรมแชงกรีล่า โรงแรมดุสิตธานี และโรงแรมโอเรียลเต็ล ในส่วนของ บช.น. มอบหมายให้ พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ รอง ผบช.น. ดูแลงานด้านกิจการพิเศษ เป็นผู้ควบคุมกำกับดูแลในด้านการรักษาความปลอดภัย และ พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผบช.น. ดูแลด้านการจราจร ทั้งนี้ บช.น. ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลความปลอดภัยบริเวณสถานที่ประชุมและสถานที่พักของ ผู้เข้าร่วมประชุม จะมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า (ศปก.สน.) ที่โรงแรมแชงกรีล่า สำหรับโรงแรมดุสิตธานีและโรงแรมโอเรียลเต็ล จะตั้งศูนย์ปฏิบัติการแยกออกไปอีก ส่วนหอประชุมกองทัพเรือ ซึ่งเป็นสถานที่จัดเลี้ยง บก.น.7 เป็นผู้รับผิดชอบจัดกำลังดูแล ส่วนพื้นที่ทางน้ำจะใช้กำลังพลจาก บก.น.8ดูแลพื้นที่ในแม่น้ำเจ้าพระยา
โฆษก ตร. กล่วต่อว่า การดูแลความปลอดภัยพื้นที่ชั้นในของบุคคลสำคัญจะเป็นหน้าที่ของตำรวจสันติ บาล บช.น. จะรับผิดชอบพื้นที่ชั้นกลาง คือบริเวณโดยรอบสถานที่ประชุมและที่พัก รวมทั้งเส้นทางการจราจรต่างๆ กำลังพลส่วนอื่นๆ ที่ร่วมปฏิบัติ ได้แก่ ชุดปฏิบัติการเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ตลอดจนเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทั้งในและนอกเครื่องแบบ การจัดทำแผนเผชิญเหตุไว้รับมือในกรณีที่มีกลุ่มมวลชนต่างๆ เดินทางมาแสดงความคิดเห็นในพื้นที่การประชุม โดยรวมแล้ว บช.น. ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในแต่ละวันรวมทั้งสิ้นประมาณ 430-500 นาย นอกจากนี้ บช.น. ยังมีภารกิจในการจัดขบวนรถของผู้นำแต่ละประเทศและบุคคลสำคัญระดับรัฐมนตรี ที่มาร่วมประชุม โดยใช้รถยนต์ จำนวน 29 คัน และรถจักรยานยนต์ จำนวน 14 คัน จากกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน กองบังคับการตำรวจจราจร และกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งในเวลา 14.00น. ของวันเดียวกันนี้ พล.ต.ต.อนันต์ ได้ร่วมซักซ้อมขบวนรถบุคคลสำคัญเพื่อให้เกิดความถูกต้องตามกำหนดพิธีการ ตลอดจนเป็นการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนที่เกี่ยวข้องทั้ง หมด
ขณะเดียวกันพล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.พร้อมคณะได้เดินทางตรวจดูความพร้อมตามจุดต่างๆที่อยู่ในความรับผิดชอบ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมถึงโรงแรมที่พักที่เตรียมไว้ตอนรับผู้เข้าร่วมประชุม อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้มีการเตรียมความพร้อมและซักซ้อมการอารักขาผู้นำอย่างขมักเขม่น..
โฆษก ตร. กล่าวว่า นางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย สาธารณรัฐสหภาพพม่า จะเดินทางมาร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย โดยกำหนดเดินทางถึงประเทศไทยในวันที่ 29 พฤษภาคม เวลาประมาณ 21.00 น. โดยเครื่องบินสายการบินไทย ซึ่งตร. ได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ รปภ. และมาตรการรักษาความปลอดภัยในส่วนที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว โดยส่วนตัวนางอองซาน จะมีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจสันติบาลดูตลอดเวลา โดยทราบว่า ในวันที่ 30 พฤษภาคม นางอองซานจะไปเยี่ยมแรงงานพม่าที่จ.สมุทรสาคร จากนั้นจะไปพบแรงงานพม่าที่ทำงานย่านมีนบุรี ก่อนวันที่ 3 มิถุนายน จะเดินทางไปอ.แม่สอด จ.ตาก และเดินทางกลับในวันที่ 3 มิถุนายน อย่างไรก็ตามจากการข่าวตอนนี้ไม่มีภัยคุกคามใด ต่อตัวนางอองซานแต่เนื่องจากเป็นบุคคลที่คนทั้งโลกให้ความสนใจจึงต้องให้การ ดูแลเป็นกรณีพิเศษ ส่วนผู้นำคนอื่นๆก็ยังไม่พบข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าห่วง หรือภัยคุกคามแต่อย่างใด
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า การประชุมจะใช้สถานที่ภายในโรงแรมแชงกรีล่าทั้งหมด และกำหนดหอประชุมกองทัพเรือเป็นสถานที่จัดเลี้ยง ในส่วนของโรงแรมที่พักผู้เข้าร่วมประชุม ได้แก่ โรงแรมแชงกรีล่า โรงแรมดุสิตธานี และโรงแรมโอเรียลเต็ล ในส่วนของ บช.น. มอบหมายให้ พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ รอง ผบช.น. ดูแลงานด้านกิจการพิเศษ เป็นผู้ควบคุมกำกับดูแลในด้านการรักษาความปลอดภัย และ พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผบช.น. ดูแลด้านการจราจร ทั้งนี้ บช.น. ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลความปลอดภัยบริเวณสถานที่ประชุมและสถานที่พักของ ผู้เข้าร่วมประชุม จะมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า (ศปก.สน.) ที่โรงแรมแชงกรีล่า สำหรับโรงแรมดุสิตธานีและโรงแรมโอเรียลเต็ล จะตั้งศูนย์ปฏิบัติการแยกออกไปอีก ส่วนหอประชุมกองทัพเรือ ซึ่งเป็นสถานที่จัดเลี้ยง บก.น.7 เป็นผู้รับผิดชอบจัดกำลังดูแล ส่วนพื้นที่ทางน้ำจะใช้กำลังพลจาก บก.น.8ดูแลพื้นที่ในแม่น้ำเจ้าพระยา
โฆษก ตร. กล่วต่อว่า การดูแลความปลอดภัยพื้นที่ชั้นในของบุคคลสำคัญจะเป็นหน้าที่ของตำรวจสันติ บาล บช.น. จะรับผิดชอบพื้นที่ชั้นกลาง คือบริเวณโดยรอบสถานที่ประชุมและที่พัก รวมทั้งเส้นทางการจราจรต่างๆ กำลังพลส่วนอื่นๆ ที่ร่วมปฏิบัติ ได้แก่ ชุดปฏิบัติการเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ตลอดจนเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทั้งในและนอกเครื่องแบบ การจัดทำแผนเผชิญเหตุไว้รับมือในกรณีที่มีกลุ่มมวลชนต่างๆ เดินทางมาแสดงความคิดเห็นในพื้นที่การประชุม โดยรวมแล้ว บช.น. ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในแต่ละวันรวมทั้งสิ้นประมาณ 430-500 นาย นอกจากนี้ บช.น. ยังมีภารกิจในการจัดขบวนรถของผู้นำแต่ละประเทศและบุคคลสำคัญระดับรัฐมนตรี ที่มาร่วมประชุม โดยใช้รถยนต์ จำนวน 29 คัน และรถจักรยานยนต์ จำนวน 14 คัน จากกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน กองบังคับการตำรวจจราจร และกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งในเวลา 14.00น. ของวันเดียวกันนี้ พล.ต.ต.อนันต์ ได้ร่วมซักซ้อมขบวนรถบุคคลสำคัญเพื่อให้เกิดความถูกต้องตามกำหนดพิธีการ ตลอดจนเป็นการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนที่เกี่ยวข้องทั้ง หมด
ขณะเดียวกันพล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.พร้อมคณะได้เดินทางตรวจดูความพร้อมตามจุดต่างๆที่อยู่ในความรับผิดชอบ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมถึงโรงแรมที่พักที่เตรียมไว้ตอนรับผู้เข้าร่วมประชุม อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้มีการเตรียมความพร้อมและซักซ้อมการอารักขาผู้นำอย่างขมักเขม่น..