เมื่อช่วงหัวค่ำวันนี้ (9 ธ.ค.)
ผู้สื่อข่าวรายงานในการแข่งขันศึกมวยไทยวอริเออร์สปีที่ 2 เทิดไท้องค์ราชัน
เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในวโรกาสปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา ที่โรงแรมมาเก๊า ฟิชเมน
วูฟ เขตปกครองพิเศษมาเก๊า โดยการแข่งขันรายการนี้มีพล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร
อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ในฐานะประธานสหพันธ์มวยไทยอาชีพโลกเป็นประธานจัดงาน ซึ่งก่อนเริ่มชกคู่แรก
ปรากฏว่ามี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิด
พร้อมกับมีการถ่ายทอดสดผ่านทางช่อง 11 ด้วย
โดย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ซึ่งได้มีการจัดมวยเฉลิมพระชนมพรรษา ซึ่งต้องขอบคุณพล.อ.ชัยสิทธิ์ และพ.ต.ท.บุญชัย ประจวบเหมาะ ที่ทำให้พี่น้องชาวไทยในต่างแดนได้มีโอกาสได้เทิดพระเกียรติ ให้เกียรติผมมาเป็นประธานเปิดงานในวันนี้ ทั้งนี้การจัดงานเฉลิมพระเกียรติเพื่อให้คนไทยมารวมตัวกันเพื่อแสดงความจง รักภักดี แสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเพื่อถวายพระพรชัยมงคลต่อพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวฯ ร่วมกันอีกครั้ง เมื่อวันพุธที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา พสกนิกรที่อยู่ในประเทศไทยได้มีโอกาสชื่นชมพระบารมีของพระองค์ท่านที่ได้ทรง ออก ณ มหาสมาคมสิงหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม พร้อมกันนี้ก็มีประชาชนเปล่งเสียงทรงพระเจริญร่วมกัน ถึงแม้นว่าผมจะไม่มีโอกาสเข้าร่วมในพิธี แต่ก็ได้ดูข่าวทางโทรทัศน์อยู่ที่ยุโรป แต่ขณะที่ดูผมก็นึกย้อนไปถึงวันพระราชพิธีฉลองครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2549 ซึ่งพระบาทพระสมเด็จพะเจ้าอยู่หัวทรงออก ณ พระที่นั่งอนันตสมาคมรับการถวายพระพร เช่นเดียวกันกับปีนี้
"ภาพที่ผมเห็นด้วยตาตัวเอง เมื่อครั้งปี 2549 กับภาพที่เห็นทางทีวีเมื่อวันก่อนเหมือนกัน ทั้งๆ ที่ระยะเวลาห่างกันถึง 6 ปี ภาพที่เห็นมิได้แตกต่างกันเลยแสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์พระองค์ท่านทรงเป็น ศูนย์รวมจิตใจคนไทยทั้งชาติอย่างแท้จริง เมื่อครั้งปี 2549 นั้น ผมในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 ได้มีโอกาสกล่าวนำถวายพระพรและได้ร่วมเข้าเฝ้าพระองค์อย่างใกล้ชิด แม้ว่าผมจะต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยการปฏิวัติรัฐประหาร และคณะปฏิวัติก็ได้ตั้งกลุ่มบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์กับผมมาเป็นคณะกรรมการตรวจ สอบทรัพย์สินและดำเนินคดี จนกระทั่งมีคำพิพากษาตัดสินลงโทษ ซึ่งผมและผู้คนอีกจำนวนมากมิอาจยอมรับในกระบวนการอันไม่ยุติธรรมของ คตส.นี้ได้ ทำให้ผมจำต้องออกจากบ้านเกิดเมืองนอนมาอยู่เมืองไกล แต่ผมไม่เคยลืมเลยว่าตัวเองได้เกิดมาเป็นคนไทย จึงมีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ขอยืนยันว่ามีการกล่าวหาผมมาตลอดในช่วงหลายปีว่าผมไม่มีความจงรักภักดีต่างๆ นานานั้น ล้วนแล้วแต่ไม่มีมูลความจริงเลย เป็นเพียงการกล่าวอ้างของฝ่ายตรงข้ามเพื่อนำมาเป็นเครื่องมือเอาชนะทางการ เมืองเท่านั้น แม้กระทั่งล่าสุดมีการนำคลิปที่เป็นเสียงผมในงานม็อบเสธ.อ้าย เมื่อไม่มีกี่วันที่ผ่านมานั้นเป็นการตัดต่อแบบไร้เทคนิค ขอยืนยันว่าคลิปนี้ไม่เป็นความจริง เพราะผมเหมือนคนไทยทุกคนที่เรารักและเทิดทูนพระเจ้าอยู่หัวฯ วันมหามงคลนี้ผมขอให้พวกเราร่วมกันทำความดีถวายในหลวงด้วยการบำเพ็ญตนให้ เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศ และทุกคนมีสมานสามัคคี ไม่ทะเลาะไม่แบ่งฝ่าย ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองในกรอบของกฎหมายและขนบธรรมเนียมประเพณีไทยอัน ดีงามเพื่อถวายเป็นราชสักการะ" อดีตนายกเผย.
อย่างไรก็ตามก่อนเริ่มแข่งขันชกมวย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ขอให้ผู้ที่อยู่ในสนามร่วมกันเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” 3 ครั้ง ขณะที่ช่อง 11 มีรายงานว่าหลังกรณีดังกล่าวได้สร้างความปั่นป่วนในฝ่ายข่าวพอสมควร ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ชี้แจงว่าเป็นการซื้อเวลาของฝ่ายจัดงาน.
โดย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ซึ่งได้มีการจัดมวยเฉลิมพระชนมพรรษา ซึ่งต้องขอบคุณพล.อ.ชัยสิทธิ์ และพ.ต.ท.บุญชัย ประจวบเหมาะ ที่ทำให้พี่น้องชาวไทยในต่างแดนได้มีโอกาสได้เทิดพระเกียรติ ให้เกียรติผมมาเป็นประธานเปิดงานในวันนี้ ทั้งนี้การจัดงานเฉลิมพระเกียรติเพื่อให้คนไทยมารวมตัวกันเพื่อแสดงความจง รักภักดี แสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเพื่อถวายพระพรชัยมงคลต่อพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวฯ ร่วมกันอีกครั้ง เมื่อวันพุธที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา พสกนิกรที่อยู่ในประเทศไทยได้มีโอกาสชื่นชมพระบารมีของพระองค์ท่านที่ได้ทรง ออก ณ มหาสมาคมสิงหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม พร้อมกันนี้ก็มีประชาชนเปล่งเสียงทรงพระเจริญร่วมกัน ถึงแม้นว่าผมจะไม่มีโอกาสเข้าร่วมในพิธี แต่ก็ได้ดูข่าวทางโทรทัศน์อยู่ที่ยุโรป แต่ขณะที่ดูผมก็นึกย้อนไปถึงวันพระราชพิธีฉลองครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2549 ซึ่งพระบาทพระสมเด็จพะเจ้าอยู่หัวทรงออก ณ พระที่นั่งอนันตสมาคมรับการถวายพระพร เช่นเดียวกันกับปีนี้
"ภาพที่ผมเห็นด้วยตาตัวเอง เมื่อครั้งปี 2549 กับภาพที่เห็นทางทีวีเมื่อวันก่อนเหมือนกัน ทั้งๆ ที่ระยะเวลาห่างกันถึง 6 ปี ภาพที่เห็นมิได้แตกต่างกันเลยแสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์พระองค์ท่านทรงเป็น ศูนย์รวมจิตใจคนไทยทั้งชาติอย่างแท้จริง เมื่อครั้งปี 2549 นั้น ผมในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 ได้มีโอกาสกล่าวนำถวายพระพรและได้ร่วมเข้าเฝ้าพระองค์อย่างใกล้ชิด แม้ว่าผมจะต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยการปฏิวัติรัฐประหาร และคณะปฏิวัติก็ได้ตั้งกลุ่มบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์กับผมมาเป็นคณะกรรมการตรวจ สอบทรัพย์สินและดำเนินคดี จนกระทั่งมีคำพิพากษาตัดสินลงโทษ ซึ่งผมและผู้คนอีกจำนวนมากมิอาจยอมรับในกระบวนการอันไม่ยุติธรรมของ คตส.นี้ได้ ทำให้ผมจำต้องออกจากบ้านเกิดเมืองนอนมาอยู่เมืองไกล แต่ผมไม่เคยลืมเลยว่าตัวเองได้เกิดมาเป็นคนไทย จึงมีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ขอยืนยันว่ามีการกล่าวหาผมมาตลอดในช่วงหลายปีว่าผมไม่มีความจงรักภักดีต่างๆ นานานั้น ล้วนแล้วแต่ไม่มีมูลความจริงเลย เป็นเพียงการกล่าวอ้างของฝ่ายตรงข้ามเพื่อนำมาเป็นเครื่องมือเอาชนะทางการ เมืองเท่านั้น แม้กระทั่งล่าสุดมีการนำคลิปที่เป็นเสียงผมในงานม็อบเสธ.อ้าย เมื่อไม่มีกี่วันที่ผ่านมานั้นเป็นการตัดต่อแบบไร้เทคนิค ขอยืนยันว่าคลิปนี้ไม่เป็นความจริง เพราะผมเหมือนคนไทยทุกคนที่เรารักและเทิดทูนพระเจ้าอยู่หัวฯ วันมหามงคลนี้ผมขอให้พวกเราร่วมกันทำความดีถวายในหลวงด้วยการบำเพ็ญตนให้ เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศ และทุกคนมีสมานสามัคคี ไม่ทะเลาะไม่แบ่งฝ่าย ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองในกรอบของกฎหมายและขนบธรรมเนียมประเพณีไทยอัน ดีงามเพื่อถวายเป็นราชสักการะ" อดีตนายกเผย.
อย่างไรก็ตามก่อนเริ่มแข่งขันชกมวย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ขอให้ผู้ที่อยู่ในสนามร่วมกันเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” 3 ครั้ง ขณะที่ช่อง 11 มีรายงานว่าหลังกรณีดังกล่าวได้สร้างความปั่นป่วนในฝ่ายข่าวพอสมควร ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ชี้แจงว่าเป็นการซื้อเวลาของฝ่ายจัดงาน.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น