วันนี้ (29 ต.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์
จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)
ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมใหญ่ของพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย
แกนนำกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา
ว่าทุกคนมีบทบาทไม่เหมือนกัน พล.อ.บุญเลิศก็ทำหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตย
ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาก็เคยมี ทั้งการเดินขบวน การปลุกระดม
ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตย อย่ามาแยกแยะว่าอันไหนถูกหรือผิด
ตราบใดที่ใครขึ้นมาเป็นรัฐบาลคือถูกต้อง หากไม่ถูกต้องก็ขอให้ไปหากลไกมา
ตนไม่ได้เข้าข้างใครทั้งสิ้น เพราะยึดถือข้อกฎหมายและวิธีการปฏิบัติ
หากตนไม่ยึดถือแบบนี้ ทหารทำงานไม่ได้
เมื่อถามว่าการชุมนุมครั้งล่าสุดพยายามยุให้ทหารออกมาปฏิวัติ ในส่วนของกองทัพมีความหนักแน่นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้อนถามว่า แล้วมีหรือยัง เมื่อถามย้ำว่าอยากให้พูดให้ชัดว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ยุไม่ขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มี ตนไม่พูด และไม่ท้าทายใคร ทุกอย่างมีสาเหตุทั้งสิ้น หากไม่มีสาเหตุก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว เช่นพื้นที่ภาคใต้ ที่บอกว่าจะไม่ให้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือกฎหมายพิเศษ ตนถามว่าทำไมถึงต้องใช้ ก็เพราะในพื้นที่ยังมีผู้ร้ายและใช้วิธีการใหม่ๆในการปฏิบัติการ ใช้ยุทธวิธีรุนแรงจึงจำเป็นต้องมีกฎหมายพิเศษ หรือยาแรงไปตามลำดับ ถ้าไม่มีเหตุการณ์ก็ไม่อยากใช้ ทุกอย่างเหมือนกัน เพราะฉะนั้นอย่ามาบอกว่าอยากทำจะทำหรือไม่ทำ เพราะถ้าไม่มีสาเหตุให้ทำก็ทำไม่ได้ หรืออยากจะทำก็ทำไม่ได้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ดังนั้นอย่าถามตนอีกเลยว่าจะทำการปฏิวัติหรือไม่ ขอให้พอแล้ว ที่ผ่านมาการทำปฏิวัติก็ไม่เห็นใครว่าดี ดังนั้นใครที่เห็นว่าประเทศชาติไม่ดีในขณะนี้ก็ไปหาวิธีการที่ถูกต้องตาม กฎหมายมา รวมถึงความชอบธรรม ซึ่งรัฐธรรมนูญเขียนไว้หลายข้อ ถ้าไม่ชอบแล้วจะทำอย่างไร
“ทหารอยู่ในกรอบของงาน จะมาบอกว่าทหารปล่อยให้ประเทศชาติเสียหาย ผมไม่ได้ปล่อย โทษแบบนั้นต้องโทษคนทั้งประเทศ ถ้าทุกคนอยากช่วยเหลือประเทศชาติ เวลาเลือกตั้งต้องออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งทุกคน เพราะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ถ้าตนเองไม่เลือกตั้งจะมาโวยวายคนอื่นนั้นไม่ได้ สิ่งนี้คือการใช้อำนาจที่ถูกต้อง เรื่องอื่นจะตามมาทีหลัง ดังนั้นอย่ามาถามผมอีกว่าจะปฏิวัติหรือไม่ และใครจะมาชวนผมไปไหน อย่ามาชี้นำ ผมโตมาขนาดนี้วุฒิภาวะพอและกองทัพก็ต้องเชื่อฟังผม ไม่อย่างนั้นก็ปกครองกองทัพไม่ได้ ประเทศชาติก็จะวุ่นวายมากกว่านี้ ผมไม่ได้ว่าใคร และผมไม่ได้เอาตัวรอดด้วย ดังนั้นต้องให้ความเป็นธรรมกับผม มาดูว่าผมทำงานบกพร่องตรงไหน อย่าเอาผมไปว่าว่าไม่รักชาติและแผ่นดิน ซึ่งวิธีการของผมมีอยู่ ผมไม่ให้ใครมาชี้นำผมได้” ผบ.ทบ. กล่าว.
เมื่อถามว่าการชุมนุมครั้งล่าสุดพยายามยุให้ทหารออกมาปฏิวัติ ในส่วนของกองทัพมีความหนักแน่นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้อนถามว่า แล้วมีหรือยัง เมื่อถามย้ำว่าอยากให้พูดให้ชัดว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ยุไม่ขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มี ตนไม่พูด และไม่ท้าทายใคร ทุกอย่างมีสาเหตุทั้งสิ้น หากไม่มีสาเหตุก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว เช่นพื้นที่ภาคใต้ ที่บอกว่าจะไม่ให้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือกฎหมายพิเศษ ตนถามว่าทำไมถึงต้องใช้ ก็เพราะในพื้นที่ยังมีผู้ร้ายและใช้วิธีการใหม่ๆในการปฏิบัติการ ใช้ยุทธวิธีรุนแรงจึงจำเป็นต้องมีกฎหมายพิเศษ หรือยาแรงไปตามลำดับ ถ้าไม่มีเหตุการณ์ก็ไม่อยากใช้ ทุกอย่างเหมือนกัน เพราะฉะนั้นอย่ามาบอกว่าอยากทำจะทำหรือไม่ทำ เพราะถ้าไม่มีสาเหตุให้ทำก็ทำไม่ได้ หรืออยากจะทำก็ทำไม่ได้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ดังนั้นอย่าถามตนอีกเลยว่าจะทำการปฏิวัติหรือไม่ ขอให้พอแล้ว ที่ผ่านมาการทำปฏิวัติก็ไม่เห็นใครว่าดี ดังนั้นใครที่เห็นว่าประเทศชาติไม่ดีในขณะนี้ก็ไปหาวิธีการที่ถูกต้องตาม กฎหมายมา รวมถึงความชอบธรรม ซึ่งรัฐธรรมนูญเขียนไว้หลายข้อ ถ้าไม่ชอบแล้วจะทำอย่างไร
“ทหารอยู่ในกรอบของงาน จะมาบอกว่าทหารปล่อยให้ประเทศชาติเสียหาย ผมไม่ได้ปล่อย โทษแบบนั้นต้องโทษคนทั้งประเทศ ถ้าทุกคนอยากช่วยเหลือประเทศชาติ เวลาเลือกตั้งต้องออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งทุกคน เพราะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ถ้าตนเองไม่เลือกตั้งจะมาโวยวายคนอื่นนั้นไม่ได้ สิ่งนี้คือการใช้อำนาจที่ถูกต้อง เรื่องอื่นจะตามมาทีหลัง ดังนั้นอย่ามาถามผมอีกว่าจะปฏิวัติหรือไม่ และใครจะมาชวนผมไปไหน อย่ามาชี้นำ ผมโตมาขนาดนี้วุฒิภาวะพอและกองทัพก็ต้องเชื่อฟังผม ไม่อย่างนั้นก็ปกครองกองทัพไม่ได้ ประเทศชาติก็จะวุ่นวายมากกว่านี้ ผมไม่ได้ว่าใคร และผมไม่ได้เอาตัวรอดด้วย ดังนั้นต้องให้ความเป็นธรรมกับผม มาดูว่าผมทำงานบกพร่องตรงไหน อย่าเอาผมไปว่าว่าไม่รักชาติและแผ่นดิน ซึ่งวิธีการของผมมีอยู่ ผมไม่ให้ใครมาชี้นำผมได้” ผบ.ทบ. กล่าว.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น