วันนี้ 29 ต.ค ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง สนามหลวง
ศาลอ่านคำสั่งคดีหมายเลขดำที่ ลต.4/2555 ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของ นายพิทยา บุญเฉลียว
ผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 2 พรรคมาตุภูมิ เป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากกระทำผิด
พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550
กรณีที่มีการกล่าวหาว่านายพิทยา ผู้คัดค้านให้เงินกับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งคนละ 100 บาท เมื่อวันที่ 29 พ.ค.54 ในการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง และกรณีที่ถูกกล่าวหาว่ามอบเงินจำนวน 29,000 บาท ให้กับผู้ที่เป็นตัวแทน (หัวคะแนน) เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้ ผู้คัดค้านให้การปฏิเสธ
ศาลพิเคราะห์แล้วข้อเท็จจริงรับฟังเป็นที่ยุติว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ค.54 เวลา 15.00 น. นายพิทยา ผู้คัดค้าน ไปปราศรัยหาเสียงที่ศาลาประชาคมกลางบ้านเหล่าเสน หมู่ที่ 4 ต.บก อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ พร้อมทีมงาน โดยได้ขึ้นปราศรัยประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นทีมงานหาเสียงที่เป็นชายและหญิงประมาณ 7 คนได้แจกแผ่นพับแนะนำตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง และแจกเงินให้แก่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่มาฟังการปราศรัย ซึ่งระหว่างนั้นนายพิทยา ผู้คัดค้าน กล่าวเป็นภาษาอีสานว่า “พี่น้องครับผมมีน้ำใจอยู่ ผู้ใด๋ยังบ่อได้เงิน อย่าฟ้าวลุก ไผได้แล้วให้ลุกได้” ซึ่งต่อมามีพยานชี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม แต่ผู้ที่รับเงินได้ขับรถออกไปจากที่เกิดเหตุพร้อมกับผู้คัดค้าน จากนั้นพยาน 4 คนได้เข้าแจ้งความพร้อมมอบแผ่นพับและเงินของกลางจำนวน 200 บาท ไว้เป็นหลักฐาน
ข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานจากชั้นไต่สวนจึงมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า นายพิทยา ผู้คัดค้านได้ก่อสนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจให้ตัวแทน (หัวคะแนน) ให้เงินกับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเพื่อจูงใจ ให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนเสียงให้กับนายพิทยา ผู้คัดค้าน โดยผู้คัดค้านได้รับประโยชน์ในการเลือกตั้งจึงเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.เลือกตั้งฯ มาตรา 53 และมีผลให้การเลือกตั้ง ส.ส.เขต 2 ศรีสะเกษ ไม่สุจริต และเที่ยงธรรม
ส่วนที่มีการกล่าวหาว่านายพิทยา ผู้คัดค้าน ได้มอบเงินให้กับหัวคะแนน จำนวน 29,000 บาท นั้นข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานในการไต่สวน มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า หัวคะแนนของผู้คัดค้าน 2 คน ได้เข้าประชุมที่สำนักงานของนายพิทยาแล้ว ผู้คัดค้านได้ก่อสนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจให้ทีมงานของผู้คัดค้านให้เงิน 29,000 บาทกับหัวคะแนน เพื่อไปแจกจ่ายให้กับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง หวังจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกผู้คัดค้าน อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.เลือกตั้งฯ มาตรา 53 วรรค 1 (1) ทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมเช่นกัน
ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งจึงมีคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งของนายพิทยา บุญเฉลียว เป็นเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่มีคำสั่งเป็นต้นไป.
กรณีที่มีการกล่าวหาว่านายพิทยา ผู้คัดค้านให้เงินกับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งคนละ 100 บาท เมื่อวันที่ 29 พ.ค.54 ในการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง และกรณีที่ถูกกล่าวหาว่ามอบเงินจำนวน 29,000 บาท ให้กับผู้ที่เป็นตัวแทน (หัวคะแนน) เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้ ผู้คัดค้านให้การปฏิเสธ
ศาลพิเคราะห์แล้วข้อเท็จจริงรับฟังเป็นที่ยุติว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ค.54 เวลา 15.00 น. นายพิทยา ผู้คัดค้าน ไปปราศรัยหาเสียงที่ศาลาประชาคมกลางบ้านเหล่าเสน หมู่ที่ 4 ต.บก อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ พร้อมทีมงาน โดยได้ขึ้นปราศรัยประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นทีมงานหาเสียงที่เป็นชายและหญิงประมาณ 7 คนได้แจกแผ่นพับแนะนำตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง และแจกเงินให้แก่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่มาฟังการปราศรัย ซึ่งระหว่างนั้นนายพิทยา ผู้คัดค้าน กล่าวเป็นภาษาอีสานว่า “พี่น้องครับผมมีน้ำใจอยู่ ผู้ใด๋ยังบ่อได้เงิน อย่าฟ้าวลุก ไผได้แล้วให้ลุกได้” ซึ่งต่อมามีพยานชี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม แต่ผู้ที่รับเงินได้ขับรถออกไปจากที่เกิดเหตุพร้อมกับผู้คัดค้าน จากนั้นพยาน 4 คนได้เข้าแจ้งความพร้อมมอบแผ่นพับและเงินของกลางจำนวน 200 บาท ไว้เป็นหลักฐาน
ข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานจากชั้นไต่สวนจึงมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า นายพิทยา ผู้คัดค้านได้ก่อสนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจให้ตัวแทน (หัวคะแนน) ให้เงินกับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเพื่อจูงใจ ให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนเสียงให้กับนายพิทยา ผู้คัดค้าน โดยผู้คัดค้านได้รับประโยชน์ในการเลือกตั้งจึงเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.เลือกตั้งฯ มาตรา 53 และมีผลให้การเลือกตั้ง ส.ส.เขต 2 ศรีสะเกษ ไม่สุจริต และเที่ยงธรรม
ส่วนที่มีการกล่าวหาว่านายพิทยา ผู้คัดค้าน ได้มอบเงินให้กับหัวคะแนน จำนวน 29,000 บาท นั้นข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานในการไต่สวน มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า หัวคะแนนของผู้คัดค้าน 2 คน ได้เข้าประชุมที่สำนักงานของนายพิทยาแล้ว ผู้คัดค้านได้ก่อสนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจให้ทีมงานของผู้คัดค้านให้เงิน 29,000 บาทกับหัวคะแนน เพื่อไปแจกจ่ายให้กับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง หวังจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกผู้คัดค้าน อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.เลือกตั้งฯ มาตรา 53 วรรค 1 (1) ทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมเช่นกัน
ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งจึงมีคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งของนายพิทยา บุญเฉลียว เป็นเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่มีคำสั่งเป็นต้นไป.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น