วันนี้ (25 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร
รอง ผบช.น.รับผิดชอบงานด้านจราจร
เปิดเผยการเตรียมพร้อมรับมือการจราจรในช่วงเปิดภาคเรียนของโรงเรียนต่างทั่ว
กรุงเทพฯ ว่า เบื้องต้นทาง
บช.น.ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทั้งสน.และบก.จร. ประมาณ 3,000-4,000 นาย
เตรียมความพร้อมรับมือ ซึ่งทุกวันจะมีการประชุมเพื่อปรับแผนการปฏิบัติงาน
และนำข้อบกพร่องที่ผ่านมาทั้งหมดมาปรับแผนการทำงาน ซึ่งจากสถิติที่พบปัญหา
คือ รถเกิดอุบัติเหตุและรถเสียทำให้เกิดการจราจรติดขัด รองลงมาก็คือ
ในช่วงตอนเช้าผู้ปกครองจะออกจากบ้านมาส่งนักเรียนพร้อมๆกัน
ทำให้ถนนสายหลักบริเวณหน้าโรงเรียนส่วนใหญ่เกิดการจราจรติดขัด
ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ไปประชาสัมพันธ์ตามโรงเรียนต่างๆและผู้ปกครองของนัก
เรียนด้วย
พล.ต.ต.วรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการเหลื่อมเวลานั้น ได้ขอไปยังสถาบันการศึกษาบางแห่ง และมีการจัดกำลังไปดูแลการจราจรบริเวณถนนสายหลักที่จะส่งผลกระทบต่อโรงเรียน ตามปกติอยู่แล้ว นอกจากนี้ การรื้อพื้นที่เกาะกลาง 3 จุดใหญ่ คือ 1.ถนนพหลโยธิน ช่วงหน้าธนาคารทหารไทย ต้องขยายช่องจราจรเพิ่ม เนื่องจากในช่วงเวลาเร่งด่วนมีรถประจำทางผ่านจุดดังกล่าวถึง 40 สายต่อชั่วโมง ส่งผลให้การจราจรติดขัดต่อเนื่องในถนนพหลโยธิน ลาดพร้าว วิภาวดีรังสิต 2.ใต้ด่วนดินแดง ต้องปาดเกาะกลางถนนออกบางส่วน เพื่อให้รถที่จะเลี้ยวเข้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ คล่องตัวขึ้น 3.แยกรัชดา-ลาดพร้าว ให้ปาดเกาะกลางถนนให้เล็กลง เพิ่มช่องจราจรให้รถหมุนเวียนผ่านแยกได้เร็วขึ้น จะช่วยให้การจราจรในช่วงเปิดภาคเรียนดีขึ้นและยังมีอีกหลายๆจุดที่เสนอไป นั้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่รู้ว่าจะทำได้ทันหรือไม่เพราะว่าต้องรอทางกทม.ด้วย
“สำหรับจุดที่เป็นบริเวณคอขวด ซึ่งกำลังขยายขึ้นจะทำให้การเคลื่อนตัวของรถได้ดีขึ้นและขณะนี้กำลังดำเนิน การอยู่ บนถนนพระราม 3 ขาออกตรงจุดตัดทางรถไฟ ซึ่งมีสภาพเป็นคอขวด โดยรับรถที่มาจากทางสะพานข้ามแยกศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 3 ช่องและรับรถจากทางห้าแยก ณ ระนอง อีก 2 ช่อง แต่ต้องเบียดขึ้นสะพานคอขวดทางรถไฟซึ่งมีเพียง 2 ช่อง ทำให้เกิดปัญหาการจราจร โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนสะพานข้ามทางรถไฟมักมีรถบรรทุกขนาดใหญ่ขึ้นไปจอดเสียส่ง ผลกระทบให้รถติดอย่างหนัก คาดว่าต้นเดือนพ.ย. จะมีการเปิดภาคเรียนของโรงเรียนทั้งหมดในกทม. แต่อยากจะเรียนให้ทราบว่าการแก้ไขปัญหาจราจรต้องมีการปรับกันทุกวัน เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละวันต้องปรับให้ทันท่วงที ซึ่งทางบช.น. ได้ประชุมกับทางกองบังคับการโรงพักที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่จราจรที่มีปัญหา รถติดผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์อยู่ตลอด อย่างไรก็ตามการแก้ไขปัญหารถติด เจ้าหน้าที่ก็แก้ไขแค่ได้เพียงที่ปลายเหตุ เพราะปัญหาจราจรมันไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงเท่านั้น ต้องร่วมกันกับทางผู้ใช้รถใช้ถนน เช่น ถ้าผู้ปกครองต้องรู้จักวางแผนการเดินทางมาส่งนักเรียนไว้ล่วงหน้าจะทำให้ไม่ มีปัญหาการจราจรอย่างแน่นอน” รองผบช.น. กล่าว
พล.ต.ต.วรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการเหลื่อมเวลานั้น ได้ขอไปยังสถาบันการศึกษาบางแห่ง และมีการจัดกำลังไปดูแลการจราจรบริเวณถนนสายหลักที่จะส่งผลกระทบต่อโรงเรียน ตามปกติอยู่แล้ว นอกจากนี้ การรื้อพื้นที่เกาะกลาง 3 จุดใหญ่ คือ 1.ถนนพหลโยธิน ช่วงหน้าธนาคารทหารไทย ต้องขยายช่องจราจรเพิ่ม เนื่องจากในช่วงเวลาเร่งด่วนมีรถประจำทางผ่านจุดดังกล่าวถึง 40 สายต่อชั่วโมง ส่งผลให้การจราจรติดขัดต่อเนื่องในถนนพหลโยธิน ลาดพร้าว วิภาวดีรังสิต 2.ใต้ด่วนดินแดง ต้องปาดเกาะกลางถนนออกบางส่วน เพื่อให้รถที่จะเลี้ยวเข้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ คล่องตัวขึ้น 3.แยกรัชดา-ลาดพร้าว ให้ปาดเกาะกลางถนนให้เล็กลง เพิ่มช่องจราจรให้รถหมุนเวียนผ่านแยกได้เร็วขึ้น จะช่วยให้การจราจรในช่วงเปิดภาคเรียนดีขึ้นและยังมีอีกหลายๆจุดที่เสนอไป นั้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่รู้ว่าจะทำได้ทันหรือไม่เพราะว่าต้องรอทางกทม.ด้วย
“สำหรับจุดที่เป็นบริเวณคอขวด ซึ่งกำลังขยายขึ้นจะทำให้การเคลื่อนตัวของรถได้ดีขึ้นและขณะนี้กำลังดำเนิน การอยู่ บนถนนพระราม 3 ขาออกตรงจุดตัดทางรถไฟ ซึ่งมีสภาพเป็นคอขวด โดยรับรถที่มาจากทางสะพานข้ามแยกศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 3 ช่องและรับรถจากทางห้าแยก ณ ระนอง อีก 2 ช่อง แต่ต้องเบียดขึ้นสะพานคอขวดทางรถไฟซึ่งมีเพียง 2 ช่อง ทำให้เกิดปัญหาการจราจร โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนสะพานข้ามทางรถไฟมักมีรถบรรทุกขนาดใหญ่ขึ้นไปจอดเสียส่ง ผลกระทบให้รถติดอย่างหนัก คาดว่าต้นเดือนพ.ย. จะมีการเปิดภาคเรียนของโรงเรียนทั้งหมดในกทม. แต่อยากจะเรียนให้ทราบว่าการแก้ไขปัญหาจราจรต้องมีการปรับกันทุกวัน เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละวันต้องปรับให้ทันท่วงที ซึ่งทางบช.น. ได้ประชุมกับทางกองบังคับการโรงพักที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่จราจรที่มีปัญหา รถติดผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์อยู่ตลอด อย่างไรก็ตามการแก้ไขปัญหารถติด เจ้าหน้าที่ก็แก้ไขแค่ได้เพียงที่ปลายเหตุ เพราะปัญหาจราจรมันไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงเท่านั้น ต้องร่วมกันกับทางผู้ใช้รถใช้ถนน เช่น ถ้าผู้ปกครองต้องรู้จักวางแผนการเดินทางมาส่งนักเรียนไว้ล่วงหน้าจะทำให้ไม่ มีปัญหาการจราจรอย่างแน่นอน” รองผบช.น. กล่าว
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น