วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2555

“ไก่อู”จวกดีเอสไอสอบคดีเสื้อแดงเอียง-นชป.โต้ไม่ใช้สไนเปอร์แล้วใช้อะไรยิงเสธ.แดง


เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 17 ส.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก แถลงถึงกรณีที่พ.ต.อ.ประเวศน์  มูลประมุข รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนออกมาเปิดเผยข้อเท็จจริงเหตุการณ์การสลายการ ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553ว่า ขอชี้แจงกรณีที่หัวหน้าชุดสอบสวนระบุว่าจะเรียกทหารสไนเปอร์ในภาพชุดมาสอบ สวนนั้น ยืนยันว่าคลิปดังกล่าวเป็นภาพชุดของพลระวังป้องกันถืออาวุธประจำกายปืนเอ็ม 16 อยู่ในท่าตรวจการณ์ด้วยกล้องที่ติดอยู่กับตัวปืน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ตามท้องตลาด เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในด้านการมองเห็น ไม่ใช่อาวุธสไนเปอร์แต่อย่างใด
ขณะเดียวกันกองทัพบกต้องขอบคุณนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอที่เข้าใจความรู้สึกของกองทัพ แต่ในส่วนพ.ต.อ.ประเวศน์ ที่ระบุว่าที่ผ่านมากองทัพไม่ได้ส่งข้อมูล หลักฐานที่ทหารอ้างว่า มีชายชุดดำทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหาร และฆ่าประชาชน ทั้งนี้หลังจากที่เหตุการณ์สิ้นสุดลง ทางกองทัพได้รวบรวมข้อมูลหลักฐานที่เกี่ยวข้องส่งมอบให้พนักงานสอบสวนไปหมด แล้ว เช่น กรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารถืออาวุธประจำกายที่เรียกว่า พลระวังป้องกัน ซึ่งเหตุการณ์ขณะนั้นชุลมุนมีทั้งชายชุดดำและผู้ไม่หวังดีปะปนกับผู้ชุมนุม ตลอด และใช้อาวุธยิงไปในสถานที่ต่าง ๆ สื่อมวลชนก็รับทราบ ขณะนั้นเราอธิบายชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่เป็นพลระวังป้องกัน ไม่ได้มีจุดประสงค์ดักซุ่มยิง หรือทำร้ายใคร แต่มีหน้าที่ตรวจการณ์ป้องกันไม่ให้ผู้ไม่หวังดีทำร้ายเจ้าหน้าที่ และประชาชน  เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จึงมีความจำเป็นต้องใช้อาวุธ
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ส่วนหลักฐานที่กองทัพบกได้ส่งให้พนักงานสอบสวน เช่น เมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 ที่กองทัพบกนำเฮลิคอปเตอร์ไปโปรยใบปลิวเพื่อยุติการชุมนุม ขณะนั้นได้มีการยิงอาวุธขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์ เมื่อเหตุการณ์จบลง ได้มีการจับกุมผู้กระทำความผิด 3 ราย ยึดของกลางได้จำนวนมาก ทั้งอาวุธสงคราม เอ็ม 16 ปืนอาก้า กระสุนปืนความเร็วสูงเป็นพันนัด และได้ส่งหลักฐานให้พนักงานสอบสวนไปแล้ว แต่ปรากฏว่า การพิจารณาของศาลมีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่ไม่มีหลักฐานประกอบ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวผู้ปฏิบัติงานตามกฎหมายต้องการได้รับความเป็นธรรมเช่น เดียวกัน จึงอยากถามว่า เอกสารหลักฐานที่ส่งมอบให้พนักงานสอบสวนหายไปไหน เหตุใดไม่ได้นำมาประกอบหลักฐานในการพิพากษา ทั้งนี้ไม่อยากระบุว่า เป็นความผิดของใคร เพียงแต่ต้องการตั้งข้อสังเกตว่า ผู้เกี่ยวข้องกับการสอบสวนคดีความ ระบุว่าทหารไม่ได้นำหลักฐานไปให้ แต่ความจริงได้ให้ไปแล้ว และสมัยนั้นนายธาริต เป็นหนึ่งในคณะกรรมการของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ได้ร่วมประชุมทุกครั้ง รับรู้เหตุการณ์ และร่วมกันตกลงใจ และตัดสินใจมาโดยตลอด ซึ่งน่าจะทราบเหตุการณ์ดีว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำอะไรลงไปบ้าง
“ส่วนกรณีที่ของชายชุดดำที่นั่งรถตู้สีขาวเข้ามาที่บริเวณสี่แยกคอกวัว และใช้อาวุธสงครามยิงใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่จนทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมากและ เสียชีวิต โดยกองทัพให้รายละเอียด ข้อมูลทั้งหมดกับพนักงานสอบสวนไปแล้วทั้งทะเบียนรถ ชื่อเจ้าของรถเชื่อว่า น่าจะเชื่อมโยงหาผู้กระทำความผิดได้ แต่เรื่องกลับเงียบหายไปอีก กองทัพบกหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พนักงานสอบสวนจะใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่กองทัพบกส่งไปให้ เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และหวังว่า คดีความต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปี 53 ไม่ว่า จะเป็นเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปเกี่ยวข้องในฐานะผู้ถูกกล่าวหา และเจ้าหน้าที่เป็นฝ่ายถูกกระทำ ให้มีความคืบหน้าในลักษณะใกล้เคียงกันอย่าเน้นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจนทำให้ผู้ ปฏิบัติหน้าที่เกิดความไม่สบายใจ เพราะคดีที่เจ้าหน้าที่เป็นผู้ถูกกระทำไม่คืบหน้า แต่คดีที่เจ้าหน้าที่ตกเป็นผู้ต้องหากลับคืบหน้า”โฆษกกองทัพบก กล่าว
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า กองทัพไม่อยากมีปัญหากับทุกฝ่าย แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีความได้ให้ข้อมูลกับสังคมในรายละเอียดเนื้อหา สำนวนการสอบสวน ทั้งที่กระบวนการไต่สวนทั้งหลายยังไม่จบ ถามว่าสามารถทำได้หรือไม่ และหัวหน้าของท่านก็เป็นหนึ่งในศอฉ. ได้สอบถามข้อมูลจากนายธาริตหรือไม่ ส่วนกรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่อยากให้ทหารไม่สบายใจนั้น ต้องฝากขอบคุณร.ต.อ.เฉลิมที่เข้าใจกองทัพ ทั้งนี้ที่ผ่านมากองทัพไม่เคยออกมาชี้แจงอะไรก่อนหรือกวนน้ำให้ขุ่น อย่างไรก็ตามกองทัพบกไม่ได้รู้สึกเสียเปรียบหรือต้องการได้เปรียบใคร เพราะไม่ต้องการทำร้ายประชาชน แต่วันนี้ผู้เกี่ยวข้องดูเหมือนจะเร่งรัดคดีทางด้านหนึ่ง และไม่คืบหน้าอีกด้านหนึ่ง ปัจจุบันทหารที่บาดเจ็บและตายจากเหตุการณ์การชุมนุมก็อยากได้รับความ ยุติธรรมเช่นเดียวกับทุกฝ่าย  ถ้าเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องในรูปคดีมีความมั่นคง และยุติธรรมตามหลักการก็ไม่น่ากังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง ทั้งนี้มั่นใจในกระบวนการยุติธรรมและในหน่วยงานทั้งหลายมีจรรยาบรรณ
ที่ศูนย์การค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีทหารใช้อาวุธทำร้ายประชาชนในเหตุการณ์เม.ย.-พ.ค .53 ว่า ยุคนี้การสื่อสารทันสมัย หลังเหตุการณ์มีทั้งคลิปวีดิโอและภาพนิ่งออกมาเผยแพร่มากมาย ที่บอกว่าไม่มีสไนเปอร์ไปยิงประชาชน แล้วที่เห็นในคลิปวีดิโอ ทั้งเสียงสั่งการและไฟจากกระบอกปืนนั่นจะว่าอย่างไร ส่วนเหตุการณ์10เม.ย. ที่มีทหารเสียชีวิต นปช.พร้อมรอพิสูจน์ความจริงเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ขอถามผบ.ทบ.ว่าใครกันแน่ ที่ไม่ยอมให้มีการชันสูตรศพนายทหารที่เสียชีวิต
“ประเทศนี้ต้องอยู่กันด้วยความจริง จึงจะเดินหน้าไปได้ คำก็ว่าล้มเจ้า สองคำว่าเผาบ้านเผาเมือง ทุกวันนี้ที่ศาลยกฟ้องคดีเผาเซ็นทรัลเวิลด์ไปแล้ว 2 คดีจะว่าอย่างไร ขอเรียกร้องมายังกระบวนการยุติธรรมให้ทำความจริงให้ปรากฏโดยเร็วที่สุด คนเสื้อแดงไม่ขอให้มาเข้าข้าง เพราะอาวุธที่สำคัญของคนเสื้อแดงคือความจริง ขอให้คนเสื้อแดงระวังการรัฐประหารไว้ด้วย เพราะเกรงว่าจะซ้ำรอยเหมือนเหตุการณ์สมัย 6 ตุลา 19 ที่มีการเผยความจริงออกมามาก ๆ จนผู้สั่งการต้องออกมาทำรัฐประหาร” นางธิดา กล่าว
ด้าน นายสมหวัง อัสราษี รองประธานนปช. กล่าวว่า คนเสื้อแดงไม่ใช่ควาย เหตุการณ์10 เม.ย.-19พ.ค.53 มีแต่ทหารเท่านั้นที่อยู่รอบพื้นที่ชุมนุมและอยู่บนยอดตึก การเสียชีวิตของพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ถ้าไม่ใช่สไนเปอร์และเกิดจากอะไร ผบ.ทบ.ยอมรับความจริงดีกว่า นปช.ต้องการพิสูจน์ความจริง เพื่อให้นำไปสู่กระบวนการยุติธรรม และดำเนินคดีกับผู้ที่สั่งการให้ฆ่า เท่านั้น ส่วนการที่ผบ.ทบ.ชอบใช้อารมณ์กับสื่อเวลาให้สัมภาษณ์ ถือเป็นการแสดงออกถึงคนที่ขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์ ซึ่งอาจขู่ทางดีเอสไอได้ แต่คนเสื้อแดงไม่กลัว
ขณะที่ นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ โฆษกนปช. กล่าวว่า วันที่ 19 ก.ย.นี้ เป็นวันครบรอบ 6 ปีการรัฐประหาร นปช.เตรียมจัดงานรำลึกเหตุการณ์นี้อย่างยิ่งใหญ่ ในวันที่ 15 ก.ย. เพื่อให้เห็นถึงความอัปยศ และดูว่า 6 ปี ประเทศมีอะไรดีขึ้นมาบ้าง วันนี้หัวหน้าคณะรัฐประหารเริ่มกลับตัวเป็นนักการเมืองที่ดี แต่ลิ่วล้อยังทำตัวเหมือนเดิม
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ไม่พอใจต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่เปิดเผยผลการสอบสวนคดีผู้เสียชีวิตในการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 จำนวน 98 ศพ โดยมีการเชื่อมโยงว่าทหารใช้สไนเปอร์ฆ่าประชาชน ว่า การพูดเพื่อปกป้ององค์กรหรือบุคคลในองค์กร เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะตอนนี้คดียังไม่ถึงที่สุดและศาลยังไม่มีคำตัดสิน ทุกฝ่ายจึงต้องใช้ความระมัดระวัง โดยฝ่ายที่สืบสวนต้องมีความละเอียดอ่อนในการให้ข้อมูล ส่วนฝ่ายที่ถูกกล่าวหาหรือได้รับความเสียหาย ก็ต้องแสดงความคิดเห็นอย่างรอบคอบ เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมที่กำลังเดินหน้าอยู่ในรัฐบาลชุดนี้ เดินหน้าได้ต่อไปโดยไม่มีคำครหา ขณะเดียวกันเรื่องของความจริงนั้น ถึงอย่างไรก็หนีไม่พ้น ขณะนี้เรื่องทั้งหมดกำลังเข้าใกล้ไปถึงคนที่เป็นผู้บงการหรือสั่งให้ทหารออก มา จึงควรให้กระบวนการยุติธรรมทำงานต่อไป.

0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources