เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่ห้องพิจารณาคดี 712 ศาลอาญา
ถนนรัชดาฯ ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดี หมายเลขดำ อ.4849/2554
ที่พนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 เป็นโจทก์ ฟ้องนายประชา
โพธิพิพิธ หรือ กำนันเซี๊ยะ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ และนาง เขมพร
ต่างใจเย็น ภรรยา เป็นจำเลยที่ 1 – 2 ในความผิดฐาน
ร่วมกันเข้าไปยึดถือครอบครองที่ดิน หรือก่นสร้าง แผ้วถาง เผาป่า
หรือกระทำด้วยประการใดๆ เป็นการทำลายหรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน
ในที่ดินซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดิน
เนื้อที่เกินกว่า50 ไร่
โจทก์ฟ้องว่า ระหว่างวันที่ 29 พ.ย.44 – 8 ก.พ.45 จำเลยทั้งสองร่วมกันบุกรุก ที่ดินของสำนักงานธนารักษ์ จ.กาญจนบุรี ที่หมู่ 2 ต.ช่องด่าน และ ต.หลุมรัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ซึ่งกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เป็นผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ และกองทักบกมีหน้าที่ดูแลรักษาเพื่อใช้ประโยชน์ในราชการทหารโดยไม่ได้รับ อนุญาตและขอให้จำเลย และบริวารออกจากที่ดิน ด้วย
โดยวันนี้อัยการโจทก์ยื่นบัญชีพยานจำนวน 60 ปาก ซึ่งศาลได้สอบถามประเด็นและรายละเอียดพยาน ของโจทก์และจำเลยแล้วเห็นว่ามีพยานบางส่วนที่ฝ่ายจำเลยรับได้ เช่นเจ้าหน้าที่ที่ดินที่จะต้องส่งประเด็นไปสืบในศาลจังหวัดกาญจนบุรีและศาล จังหวัด นครปฐม ศาลจึงให้ส่งประเด็นไปสืบยังศาลจังหวัดดังกล่าวโดยเริ่มที่ศาลจังหวัด กาญจนบุรีในวันที่ 3 ก.ย.นี้ 09.00น. และเมื่อ สืบพยานดังกล่าวเสร็จแล้วให้รวบรวมประเด็นส่งกลับมาที่ศาลอาญาเพื่อสืบพยาน ต่อไป
นอกจากนี้ฝ่ายจำเลยได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอสืบพยานลับหลังจำเลย ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยได้ประสงค์ต่อสู้คดีในชั้นศาลแล้วประกอบกับคดี นี้มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี จึงอนุญาตให้พิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้
นาย ทนงศักดิ์ โพธิพิพิธ ทนายจำเลยกล่าว หลังศาลนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีนี้ว่าโจทก์ได้ยื่นบัญชีสืบพยานจำนวน 60 ปาก แต่เนื่องจากพยานโจทก์บางปากซ้ำกับพยานจำเลยและจำเลยรับข้อเท็จจริงบาง ประเด็นได้ พยานโจทก์ที่จะนำสืบจึงเหลือประมาณ 24 ปาก ซึ่งจะต้องส่งประเด็นไปสืบในศาลจังหวัด กาญจนบุรี และ นครปฐม อย่างไรก็ดี ทางพยานจำเลยได้เตรียมไว้ 4 ปากแต่อาจจะเพิ่มเติมในภายหลังได้ถ้ามีประเด็นมากขึ้น
โจทก์ฟ้องว่า ระหว่างวันที่ 29 พ.ย.44 – 8 ก.พ.45 จำเลยทั้งสองร่วมกันบุกรุก ที่ดินของสำนักงานธนารักษ์ จ.กาญจนบุรี ที่หมู่ 2 ต.ช่องด่าน และ ต.หลุมรัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ซึ่งกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เป็นผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ และกองทักบกมีหน้าที่ดูแลรักษาเพื่อใช้ประโยชน์ในราชการทหารโดยไม่ได้รับ อนุญาตและขอให้จำเลย และบริวารออกจากที่ดิน ด้วย
โดยวันนี้อัยการโจทก์ยื่นบัญชีพยานจำนวน 60 ปาก ซึ่งศาลได้สอบถามประเด็นและรายละเอียดพยาน ของโจทก์และจำเลยแล้วเห็นว่ามีพยานบางส่วนที่ฝ่ายจำเลยรับได้ เช่นเจ้าหน้าที่ที่ดินที่จะต้องส่งประเด็นไปสืบในศาลจังหวัดกาญจนบุรีและศาล จังหวัด นครปฐม ศาลจึงให้ส่งประเด็นไปสืบยังศาลจังหวัดดังกล่าวโดยเริ่มที่ศาลจังหวัด กาญจนบุรีในวันที่ 3 ก.ย.นี้ 09.00น. และเมื่อ สืบพยานดังกล่าวเสร็จแล้วให้รวบรวมประเด็นส่งกลับมาที่ศาลอาญาเพื่อสืบพยาน ต่อไป
นอกจากนี้ฝ่ายจำเลยได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอสืบพยานลับหลังจำเลย ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยได้ประสงค์ต่อสู้คดีในชั้นศาลแล้วประกอบกับคดี นี้มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี จึงอนุญาตให้พิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้
นาย ทนงศักดิ์ โพธิพิพิธ ทนายจำเลยกล่าว หลังศาลนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีนี้ว่าโจทก์ได้ยื่นบัญชีสืบพยานจำนวน 60 ปาก แต่เนื่องจากพยานโจทก์บางปากซ้ำกับพยานจำเลยและจำเลยรับข้อเท็จจริงบาง ประเด็นได้ พยานโจทก์ที่จะนำสืบจึงเหลือประมาณ 24 ปาก ซึ่งจะต้องส่งประเด็นไปสืบในศาลจังหวัด กาญจนบุรี และ นครปฐม อย่างไรก็ดี ทางพยานจำเลยได้เตรียมไว้ 4 ปากแต่อาจจะเพิ่มเติมในภายหลังได้ถ้ามีประเด็นมากขึ้น
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น