เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 9 มิ.ย. พ.ต.ต.วิเชียร ทะน้อม
สวส.สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุโรงงานพลุ ชื่อสุจินต์ดอกไม้ไฟ เลขที่
74 หมู่ 5 บ้านป่าสามดำ ต.สวนแตง ระเบิดจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ
ไปตรวจสอบพร้อม นายทวีชัย พลายชุมพล นายอำเภอเมืองสุพรรณบุรี
พ.ต.อ.ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ รอง ผบก.ภจ.สุพรรณบุรี พ.ต.ท.สุมนตรี กรรณเลขา
รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสุพรรณบุรี พ.ต.ท.เสกสิทธิ์ จันทร
สว.สส.กก.สส.ภจ.สุพรรณบุรี กำลังฝ่ายสืบสวน และรถดับเพลิงกว่าสิบคัน
โรงงานดังกล่าวอยู่ห่างจากบ้านเรือนประชาชนพบไฟกำลังลุกไหม้โกดังสำหรับเก็บ
พลุและดอกไม้ไฟจำนวนมากอย่างรุนแรงเจ้าหน้าที่พยายามระดมฉีดน้ำสกัดแต่ยังมี
พลุที่ตกค้างระเบิดขึ้นเป็นระยะ เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 1
ชม.จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีทรัพย์สินที่เสียหายประกอบด้วยบ้าน 1 หลัง
รถยนต์กระบะที่จอดอยู่ในโรงจอด 4 คัน และโกดังเก็บพลุ และโรงงานผลิตอีก 1
หลังนอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 2 คนคือ นางระเบียบ
จ่าพันธ์ อายุ 56 ปีและ น.ส.สุภาภรณ์ จ่าพันธ์ อายุ 30
ปีถูกเศษกระเบื้องที่ขา และคิ้ว
จากการสอบสวนนายสุจินต์ จ่าพันธ์ อายุ 50 ปีเจ้าของโรงงานพลุ ให้การว่าตนเป็นสมาชิก อบต.หมู่ 5 ต.สวนแตง สำหรับโรงงานพลุนั้นมีเพียงใบทะเบียนพาณิชย์ แต่ไม่มีใบอนุญาตประกอบการเนื่องจากอยู่ระหว่างยื่นเรื่องขอใบอนุญาตจากฝ่าย ปกครอง ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนและครอบรวม 5 คนกำลังนอนหลับอยู่ในบ้านจู่ๆมีเสียงระเบิดดังขึ้นสนั่นหวั่นไหวมาจากโกดัง เก็บพลุดอกไม้ไฟ ซึ่งตั้งอยู่อีกมุมหนึ่งห่างจากตัวบ้านประมาณ 100 เมตรจากนั้นได้มีเศษกระเบื้องหลังคาตกลงมากระจายเกลื่อนพื้น ตนและคนในครอบครัวพากันตกใจตื่นและวิ่งหนีออกจากตัวบ้าน และพบว่าที่โกดังมีเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยดับเพลิงมาช่วยดับแต่ไม่สามารถดับ ได้ทันทำให้โรงงานและรถยนต์ถูกไฟไหม้วอดทั้งหมดสำหรับพลุที่ระเบิดนั้นตนไม่ ได้เป็นคนผลิตเองแต่เป็นพลุจีนที่สั่งนำเข้าโดยตนสั่งผ่านเถ้าแก่อีกทอด หนึ่ง และพลุที่เกิดระเบิดนั้นมีขนาด 4 นิ้วประมาณ 200 ลูกและขนาด 5 นิ้วอีกประมาณ 400-500 ลูกส่วนที่เหลือเป็นแบบลูกปิงปองจำนวนมากค่าเสียหายเบื้องต้นประมาณ 5 ล้านบาท
ทางด้าน พ.ต.อ.ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ รอง ผบก.ภจ.สุพรรณบุรี กล่าวว่าโรงงานแห่งนี้เมื่อเดือนมิถุนายน ปีที่แล้ว พ.ต.อ.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ได้นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดสุพรรณบุรี เลขที่ ค.444/2554 เข้าตรวจค้นพบพลุที่ทำเสร็จเรียบร้อย มีทั้งระเบิดปิงปอง ประทัดกระจับ เตรียมส่งให้ลูกค้าเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบดินปืน กับอุปกรณ์การทำพลุ และสารเคมีผิดกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมซึ่งเป็นสารต้องห้าม เช่นสารโพแทสเซียม เจ้าหน้าที่จึงขอดูใบอนุญาต แต่นายสุจินต์ไม่มี เอาเพียงใบทะเบียนพาณิชย์มาให้ แต่ปรากฏว่าได้หมดอายุไปแล้ว ตำรวจจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีข้อหา มีสารเคมีและยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีและผลิตดอกไม้เพลิงโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างไรก็ตามตนได้สั่งการให้เจ้า หน้าที่ พฐ.ภจ.สุพรรณบุรี และหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดมาตรวจสอบหาสาเหตุของการระเบิดครั้งนี้แล้วเพื่อ เป็นหลักฐานในการดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
จากการสอบสวนนายสุจินต์ จ่าพันธ์ อายุ 50 ปีเจ้าของโรงงานพลุ ให้การว่าตนเป็นสมาชิก อบต.หมู่ 5 ต.สวนแตง สำหรับโรงงานพลุนั้นมีเพียงใบทะเบียนพาณิชย์ แต่ไม่มีใบอนุญาตประกอบการเนื่องจากอยู่ระหว่างยื่นเรื่องขอใบอนุญาตจากฝ่าย ปกครอง ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนและครอบรวม 5 คนกำลังนอนหลับอยู่ในบ้านจู่ๆมีเสียงระเบิดดังขึ้นสนั่นหวั่นไหวมาจากโกดัง เก็บพลุดอกไม้ไฟ ซึ่งตั้งอยู่อีกมุมหนึ่งห่างจากตัวบ้านประมาณ 100 เมตรจากนั้นได้มีเศษกระเบื้องหลังคาตกลงมากระจายเกลื่อนพื้น ตนและคนในครอบครัวพากันตกใจตื่นและวิ่งหนีออกจากตัวบ้าน และพบว่าที่โกดังมีเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยดับเพลิงมาช่วยดับแต่ไม่สามารถดับ ได้ทันทำให้โรงงานและรถยนต์ถูกไฟไหม้วอดทั้งหมดสำหรับพลุที่ระเบิดนั้นตนไม่ ได้เป็นคนผลิตเองแต่เป็นพลุจีนที่สั่งนำเข้าโดยตนสั่งผ่านเถ้าแก่อีกทอด หนึ่ง และพลุที่เกิดระเบิดนั้นมีขนาด 4 นิ้วประมาณ 200 ลูกและขนาด 5 นิ้วอีกประมาณ 400-500 ลูกส่วนที่เหลือเป็นแบบลูกปิงปองจำนวนมากค่าเสียหายเบื้องต้นประมาณ 5 ล้านบาท
ทางด้าน พ.ต.อ.ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ รอง ผบก.ภจ.สุพรรณบุรี กล่าวว่าโรงงานแห่งนี้เมื่อเดือนมิถุนายน ปีที่แล้ว พ.ต.อ.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ได้นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดสุพรรณบุรี เลขที่ ค.444/2554 เข้าตรวจค้นพบพลุที่ทำเสร็จเรียบร้อย มีทั้งระเบิดปิงปอง ประทัดกระจับ เตรียมส่งให้ลูกค้าเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบดินปืน กับอุปกรณ์การทำพลุ และสารเคมีผิดกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมซึ่งเป็นสารต้องห้าม เช่นสารโพแทสเซียม เจ้าหน้าที่จึงขอดูใบอนุญาต แต่นายสุจินต์ไม่มี เอาเพียงใบทะเบียนพาณิชย์มาให้ แต่ปรากฏว่าได้หมดอายุไปแล้ว ตำรวจจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีข้อหา มีสารเคมีและยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีและผลิตดอกไม้เพลิงโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างไรก็ตามตนได้สั่งการให้เจ้า หน้าที่ พฐ.ภจ.สุพรรณบุรี และหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดมาตรวจสอบหาสาเหตุของการระเบิดครั้งนี้แล้วเพื่อ เป็นหลักฐานในการดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น