วันนี้ (26 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตัวแทนตัวแทนบริษัทผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศ ซึ่งเป็นสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.) รวม 20 ราย จำนวนนี้เป็นผู้ประกอบการสัญชาติไทย 9 ราย เช่น ยี่ห้ออามีนา เซ็นทรัลแอร์ ยูนิแอร์ ทาซากิ อีมิเนนท์ แอร์เทมป์ สตาร์แอร์ มิกิ และแอร์คอนด์ เอ็มเอฟจี เป็นต้น ร่วมกันแถลงข่าวให้รัฐบาลทบทวนการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตจาก 0% เป็น 15% ในส่วนของเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อบริโภคที่ต้องซื้อสินค้าในราคาแพงขึ้น
นางจินตนา ศิริสันธนะ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท. เตรียมเข้าชี้แจงต่อกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง เพื่อขอทบทวนนโยบายที่จะกลับมาเก็บภาษีสรรพสามิตเครื่องปรับอากาศในอัตรา 15% เท่าเดิมหลังจากที่ยกเว้นให้เหลือ 0% เพราะหากรัฐบาลจะกลับมาเก็บภาษีสรรพสามิตในอัตราเดิมอีก จะทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปล่อยภาระไปยังผู้บริโภคด้วยการปรับขึ้นราคาสินค้าอีก 15% หรือคิดเป็นเงิน 3,000-20,000 บาทต่อเครื่อง
นอกจากนี้ผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็นยังเจอปัญหาราคาทองแดง ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักปรับตัวสูงขึ้นจากช่วงปี 52 ที่อยู่ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันมาอยู่ที่ระดับ 8,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันของรัฐบาลนำร่อง 7 จังหวัดและที่เหลือจะปรับเพิ่มเฉลี่ยจังหวัดละ 40% มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 55 รวมทั้งปัญหาการแข่งขันจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีสูง เพราะส่วนใหญ่ไม่มีการเก็บภาษีสรรพสามิตเครื่องปรับอากาศ
นางจินตนา กล่าวว่า ขอยืนยันว่าที่ผ่านมา ผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศได้มีการปรับลดราคาเครื่องปรับอากาศลงทันทีที่รัฐบาลมีการประกาศลดการเก็บภาษีสรรพสามิตเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็นเหลือ 0% ตั้งแต่ช่วงปลายปี 52 ที่ผ่านมา
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น