วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2556

กลุ่มสังคมออนไลน์บุกช่อง 3 จัดกิจกรรมค้านแบนละคร "เหนือเมฆ 2"


วันนี้(13 ม.ค.) กลุ่มสังคมออนไลน์ทางเฟซบุ๊ก ในนาม "กลุ่มรณรงค์แบนช่อง 3 กรณีถอดะครเหนือเมฆ 2 สนองคำสั่งนักโกงเมือง" ประมาณ 200 คน แต่งกายด้วยชุดสีขาว พร้อมใส่หน้ากากสีขาวปกปิดใบหน้า  เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณหน้าสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง อาคารมาลีนนท์ ทาวเวอร์ ถนนพระรามที่ 4 เพื่อจัดกิจกรรม "ศรัทธา : พลังแห่งความดี" เพื่อคัดค้านการถอดละครเรื่องดังกล่าว โดยมีการชูป้ายกระดาษให้กำลังใจทีมงานละคร “เหนือเมฆ 2” อีกด้วย
เจ้าของนามแฝงในโซเชียลมีเดีย “แอดมินจ่าสมิง” ซึ่งเป็นชายวัยประมาณ 40 ปี ไม่เปิดเผยชื่อจริงนามสกุล ได้อ่านแถลงการณ์ มีเนื้อหาว่า กิจกรรมครั้งนี้สะท้อนว่าสิทธิเสรีภาพของสื่อกำลังถูกริดรอน การออกมาครั้งนี้ไม่ได้โจมตีช่อง 3 โดยตรง โดยหลังจากที่สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3 ได้ออกมาชี้แจง ถึงเหตุผลในการระงับละคร “เหนือเมฆ 2” เนื่องจากมีเนื้อหาที่จะส่งผลกระทบกับความมั่นคงของประเทศ เข้าข่ายผิดมาตรา37 แห่งพ.ร.บ. ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ 2551นั้น หากพิจารณาจากเนื้อหาของละครที่มุ่งเน้นเปิดโปงพฤติกรรมนักโกงเมืองในคราบ นักการเมือง ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยรณรงค์ในการสร้างความมั่นคงต่อประเทศในทางอ้อม การชี้แจงของทางช่อง 3 จึงกลายเป็นเหตุผลที่ขัดแย้งกับเนื้อหาที่เกิดขึ้น และทำให้ประชาชนยอมรับไม่ได้ในเรื่องความโปร่งใส จากเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น จึงทำให้เกิดการรวมตัวกันบนสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก ภายใต้ชื่อกลุ่ม “รณรงค์แบนช่อง3 กรณีถอดละครเหนือเมฆ 2 สนองคำสั่งนักโกงเมือง”
แอดมินจ่าสมิง กล่าวต่อว่า สำหรับกิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ข้อด้วยกันคือ ข้อแรกเพื่อเปิดประเด็น “อำนาจมืดบางอย่างกำลังคุกคาม และริดรอนสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน” ซึ่งเป็นการกระทำที่ “เข้าข่ายผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ว่าด้วยสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของบุคคล และสื่อมวลชนมาตรา 45,46,47  ข้อที่สองเพื่อเปิดประเด็น “การขาดจริยธรรม และธรรมภิบาลของช่อง3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” ได้แก่ การชี้แจงของช่อง3 เข้าข่ายปกปิดบิดเบือนข้อเท็จจริง ขาดความโปร่งใสต่อสาธารณชน และเรียกร้องให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ,กลต. และสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ประกาศปรับลดระดับเรื่องธรรมาภิบาลช่อง3 (BEC) สู่ระดับต่ำสุด จนกว่าเหตุการณ์เรื่องนี้จะเกิดความโปร่งใสต่อสาธารณชน  เรียกร้องให้บริษัทต่างๆ ที่ได้ซื้อเวลาในการโฆษณา ผ่านทางช่อง 3 ร่วมกันสร้างธรรมาภิบาลต่อสังคม ด้วยการถอนโฆษณา หรือหยุดชำระค่าโฆษณาเป็นการชั่วคราว ทั้งนี้หากภายใน 1 สัปดาห์ต่อจากนี้ ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ เราจะเริ่มรณรงค์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ด้วยมาตรการต่อต้านทางสังคม โดยการประกาศงดชมรายการข่าว และละครทางช่อง3 รวมถึงลดการบริโภคสินค้าและผลิตภัณฑ์ ที่โฆษณาผ่านทางช่อง3  และข้อสุดท้ายคือให้กำลังใจทีมงาน "เหนือเมฆ 2"ที่ได้สร้างละครน้ำดี ประเทืองสติปัญญาประชาชน
จากนั้นทางกลุ่มรณรงค์แบนช่อง 3ฯ ได้เริ่มทำกิจกรรม 3 กิจกรรมด้วยกันคือ อย่างแรกกล่าวถึงการใช้หน้ากากสีขาวและสวมเสื้อสีขาวมารวมตัวกันก็เนื่องจาก ตัวละครที่สวมหน้ากากสีดำและสวมชุดดำในละครเหนือเมฆ 2 เป็นจอมมารที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลังนักโกงเมือง เปรียบเหมือน อธรรม ส่วนสีขาวเป็นสีแห่งธรรมมะ จึงต้องการสะท้อนให้เห็นว่าจะร่วมกันเริ่มต้นสร้างสิ่งที่ดีงามและต่อสู้กับ อำนาจมืดเหนือนักโกงเมืองบนแผ่นดินนี้ หลังจากนั้นทางกลุ่มได้ให้ทางผู้ร่วมกิจกรรมออกมาถ่ายทอดความรู้สึกไปยัง ช่อง 3ว่าเป็นอย่างไรบ้าง โดยผู้ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นได้ฝากบอกไปยังช่อง 3 ว่าถ้าแบนละครเหนือเมฆ 2 ต่อไปก็ไม่ควรจะเห็นละครที่มีฉากนางร้ายกรี๊ดหน้าจอ ดาราแต่งชุดวาบหวิบหรือฉากบนเตียงอีกต่อไป บางรายออกมาบอกให้ช่อง 3 ระบุออกมาเลยว่า นักการเมืองคนใดเป็นคนสั่งแบนละคร แล้วประชาชนจะอยู่เคียงข้างช่อง 3 ต่อไป หลังจากนั้นทางกลุ่มได้ร่วมกันกันชูป้ายให้กำลังใจทีมงานละครเหนือเมฆ 2 พร้อมทั้งร่วมกันอธิษฐานตามบทละครของ ผบ.นภาในละครเหนือเมฆอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ผู้ชุมนุมกำลังดำเนินกิจกรรมอยู่นั้น นายบริสุทธิ์ บูรณะสัมฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 ได้ลงมาจากอาคารมาลีนนท์เพื่อรับหนังสือแถลงการณ์พร้อมกับกล่าวชี้แจงว่า สาเหตุที่ช่อง 3 ยุติการการออกอากาศละคร “เหนือเมฆ2” เป็นไปตามที่ที่ได้แถลงไปว่า ได้พิจารณาว่าละครเรื่องนี้มีเนื้อหาบางส่วนไม่เหมาะสม ซึ่งหากเราบอกถึงเรื่องราวที่ไม่เหมาะสมไปก็จะนำไปสู่ประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ หรือส่งผลกระทบต่อสถานีได้ ทั้งนี้ทางช่อง 3 ได้ทำการเซ็นเซอร์มาตลอดอยู่แล้ว โดยสำหรับละครเรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน ทางผู้บริหารเห็นแล้วว่าไม่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม ขณะที่นายบริสุทธิ์ กำลังกล่าวชี้แจงอยู่นั้น ก็มีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนไม่พอใจได้ตะโกนแย้งและถามคำถามกลับไปเช่น “ช่อง 3 ห่วงเรื่องสัมปทานมากกว่าความถูกต้องของสื่อใช่หรือไม่” หรือ“ช่อง3 รู้สึกผิดบ้างไหม ที่ทำเช่นนี้ต่อประชาชน” ทำให้ทางแอดมินจ่าสมิงต้องเข้ามาไกล่เกลี่ย จากนั้นนายบริสุทธิ์ ได้ชี้แจงต่อว่า เรื่องที่เป็นผลกระทบต่อการออกอากาศของสถานีทางช่องก็ต้องระมัดระวัง ส่วนเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการสอบสัมปทานของช่องแต่อย่างใด ซึ่งสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง มีอะไรที่เห็นว่าผิดระเบียบผิดกฎหมาย พ.ร.บ.ที่ควบคุม ก็ต้องระมัดระวังตรงนี้ ทั้งนี้เมื่อทางกลุ่มรณรงค์แบนช่อง 3ฯ จัดกิจกรรมเสร็จสิ้นก็แยกย้ายกันกลับไปในเวลา 11.00 น.

0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources