วันเสาร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2555

บึ้มหาดใหญ่ท่องเที่ยวสะดุดรัฐ-เอกชนตื่นเรียกเชื่อมั่นคืน


แม้เสียงระเบิดที่ดังสนั่นหวั่นไหวจากโรงแรมลีการ์เดนส์ หาดใหญ่เมื่อ 31 มี.ค.ที่ผ่านมาจะเงียบสนิทลงแล้ว แต่กลับทิ้งคราบรอยน้ำตาให้ญาติเหยื่อผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ แถมยังฝากความบอบช้ำให้ภาคธุรกิจหาดใหญ่ โดยเฉพาะภาคธุรกิจท่องเที่ยวที่เข้าข่ายบอบช้ำแสนสาหัส! เพราะเหตุระเบิดครั้งนี้ได้บั่นทอนความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่มีต่อหาดใหญ่มากมาย และอาจบานปลายไปถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อการท่องเที่ยวของไทยในภาพรวม หากภาครัฐและเอกชนยังไม่ระแวดระวังเพียงพอ และปล่อยให้มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำรอยในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีก

“ประกิตติ์ พิริยะเกียรติ” รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า เหตุระเบิดครั้งนี้กระทบตลาดมาเลเซียเป็นหลัก เพราะเป็นตลาดสำคัญที่เดินทางไปหาดใหญ่ ส่วนตลาดสิงคโปร์ไม่กระทบมากเท่า ขณะที่ตลาดอื่นไม่กระทบเลย ไม่มีการสอบถามเกี่ยวกับเหตุระเบิดเข้ามา เชื่อว่าสิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าใจดีว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุในพื้นที่ความไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ขยายมายังอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แต่ไม่เกี่ยวข้องกับพื้นที่อื่นของไทย ส่วนการออกประกาศเตือนของต่างชาตินั้น เป็นปกติอยู่ ประเทศทางยุโรปที่เคยมีคำแนะนำหลีกเลี่ยงการเดินทางมายัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็คงประกาศนี้เอาไว้นานแล้ว เพียงแต่เพิ่มการเตือนครอบคลุมอำเภอหาดใหญ่ พื้นที่เกิดเหตุด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่จะมีเมื่อเกิดเหตุการณ์ ไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไร

อย่างไรก็ตาม ททท. คงต้องหาแนวทางร่วมกับเอกชนและหน่วยงานท้องถิ่นในหาดใหญ่ว่า หลังจากนี้อาจต้องเพิ่มการเดินสายโรดโชว์ในต่างประเทศ รวมทั้งดึงตัวแทนบริษัททัวร์และสื่อจากมาเลเซีย และสิงคโปร์ มาสำรวจเส้นทางท่องเที่ยว (แฟมทริป) ที่หาดใหญ่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กลับมาเร็วที่สุด

ด้าน  “สมชาติ พิมพ์ธนะพูนพร”  ประธานสภาอุตสาหกรรมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา และนายกสมาคมธุรกิจโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา บอกว่า นักท่องเที่ยวจากมาเลเซียและสิงคโปร์ ปกติคิดเป็น 70-80% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่มาหาดใหญ่ ปัจจุบันหดหายไปเกือบครึ่งหนึ่งจากยอดปกติ หลังจากมีเหตุระเบิด ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวในหาดใหญ่เงียบเหงาลงไปมาก โดยในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ที่จะมีการจัดงานหาดใหญ่ มิดไนท์ สงกรานต์ เดิมทีคาดว่าจะช่วยให้เกิดเงินสะพัดกับธุรกิจท่องเที่ยวในหาดใหญ่ 50-60 ล้านบาท แต่เมื่อเหตุระเบิดขึ้น ก็ทำใจว่า หากมีรายได้เข้ามาในธุรกิจท่องเที่ยวครึ่งหนึ่งของเป้าหมายที่คาดไว้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว

ทั้งนี้ผู้ประกอบการก็เตรียมหาทางไว้ฟื้นคืนชีพธุรกิจท่องเที่ยวแล้ว โดยเบื้องต้นจะร่วมมือกับ ททท. จัดงานแกรนด์ เซลส์ ให้ผู้ประกอบการศูนย์การค้า โรงแรม รวมถึงร้านค้าทั่วไปในหาดใหญ่ พร้อมใจกันลดราคาสินค้าและบริการไม่ต่ำกว่า 50% เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวกลับมาใช้บริการในระยะสั้น โดยเชื่อว่าการจัดแกรนด์ เซลส์ จะดึงคนไทยให้กลับมาเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยในหาดใหญ่ได้ใน 3-6 เดือน และจากนั้นเมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะมาเลเซีย และสิงคโปร์ เห็นคนไทยกลับมาเที่ยว ก็คงจะเชื่อมั่นกลับมาเที่ยวตาม ซึ่งก็คงได้เห็นภาพการท่องเที่ยวปกติเร็วที่สุดปลายปีนี้

“ช่วงปี 47-48 ที่หาดใหญ่เกิดเหตุระเบิดขึ้น และมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นประปราย หลังจากนั้นส่งผลให้บางสายการบิน ยกเลิกเที่ยวบินมาหาดใหญ่ นักท่องเที่ยวหนีไปเที่ยวกรุงเทพฯ หรือเชียงใหม่กันหมด ทำให้การท่องเที่ยวหาดใหญ่เงียบเหงา 5-6 ปี เพิ่งจะกลับสู่ภาวะปกติ 1-2 ปีที่ผ่านมา เมื่อเกิดเหตุระเบิดอีก จึงเชื่อว่าคงต้องใช้เวลาเร็วที่สุดปลายปีนี้จึงจะฟื้นการท่องเที่ยวเป็นปกติได้”

ขณะที่ “กงกฤช หิรัญกิจ” ประธานฝ่ายนโยบายสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เชื่อว่า เหตุระเบิดครั้งนี้คงส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวหาดใหญ่ 2-3 เดือน จึงจะเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ แต่ทั้งนี้หมายความว่าต้องไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำอีกด้วย ส่วนสิ่งที่ควรทำตั้งแต่ตอนนี้เพื่อฟื้นการท่องเที่ยวคือ ผู้ประกอบการในหาดใหญ่ต้องร่วมมือกับภาครัฐรักษาความมั่นคง โดยภาครัฐต้องให้ข้อมูลด้านความมั่นคงที่ชัดเจนกับเอกชน เพื่อให้ความร่วมมือได้เต็มที่ ต้องระบุให้ชัดเจนถึงลักษณะของผู้ต้องสงสัยที่เอกชนควรจับตา ไม่ใช่บอกเพียงให้เอกชนเป็นหูเป็นตาแต่ไม่ให้เบาะแสอะไรเลย

ขณะเดียวกันภาครัฐต้องสร้างข่าวบวกกลบกระแสข่าวลบออกมาต่อเนื่อง เหมือนเช่นที่ทำอยู่ อาทิ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน การเดินทางไปเยี่ยมประเทศคู่ค้า หรือการเชิญผู้นำสำคัญเข้ามาในไทย

จากตัวเลขของกรมการท่องเที่ยว พบว่า 9 เดือนของปี 54 หาดใหญ่ มีนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ ทั้งที่ไปแบบค้างคืนและไม่ค้างคืน 3.17 ล้านคน สร้างรายได้ 18,414.86 ล้านบาท ขณะที่ทั้งปี 53 ตัวนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ ทั้งที่ไปแบบค้างคืนและไม่ค้างคืน อยู่ที่ 2.94 ล้านคน สร้างรายได้ 15,888.82 ล้านบาท

นี่....เป็นตัวเลขหนึ่งที่บ่งชี้ว่าการท่องเที่ยวหาดใหญ่กำลังมีทิศทางเติบโตอย่างสวยงาม แต่เมื่อเหตุระเบิดเกิดขึ้น ความสวยงามต้องมีอันพังทลายแน่นอน

อย่างไรก็ตามหากภาครัฐสร้างความเชื่อมั่นได้ว่าดูแลความมั่นคงและปลอดภัยในบ้านเมืองได้ดีเพียงพอ ไม่นานนักท่องเที่ยวจะกลับมาอย่างรวดเร็ว เหมือนทุกครั้งที่ไทยมีวิกฤตินานาประเภท เมื่อทุกอย่างผ่านไป นักท่องเที่ยวจะฟื้นตัวรวดเร็ว  เพราะจุดเด่นของการท่องเที่ยวไทย มีเสน่ห์มากมายในสายตาต่างชาติอยู่แล้ว หากไร้หมอกควันมาบดบัง.
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th 

0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources