เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ ( 19 พ.ย.)
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต
ส.ว.สรรหา
เปิดเผยภายหลังการเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ
การเลือกตั้ง ว่า
ตนได้มาให้ถ้อยคำยืนยันถึงกรณีที่ตนได้ยื่นคำร้องให้กกต.ตรวจสอบกรณีที่
กระทรวงกลาโหมมีคำสั่งปลด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยทหารร้ายแรง
ซึ่งอาจมีผลให้สมาชิกภาพการเป็น ส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ ต้องสิ้นสุดลงตามมาตรา
102 (6) ประกอบมาตรา 106(5) ของรัฐธรรมนูญ
และหากเห็นว่ากรณีมีมูลก็ขอให้ส่งเรื่องไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร
เพื่อส่งเรื่องดังกล่าวไปยังศาลรัฐธรรนูญวินิจฉัย ตามมาตรา 91
ของรัฐธรรมนูญต่อไปโดยเร็ว
นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าวตนเห็นว่า ข้อเท็จจริงได้ปรากฏเป็นที่ยุติแล้ว โดยกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งปลดนายอภิสิทธิ์ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ ดังนั้นเพียงแค่ กกต.ขอเอกสาร ซึ่งเป็นคำสั่งที่ 1163/2555 ลงวันที่ 8 พ.ย. 2555 ให้ปลดว่าที่ร.ต.อภิสิทธิ์ออกจากราชการมาประกอบการพิจารณา ซึ่งเชื่อว่ากรณีดังกล่าวไม่น่าจะใช้ระยะเวลานานในการสอบสวน เนื่องจากมีปรากฏข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติแล้ว
ทั้งนี้ หากคิดว่าเอกสารใดยังไม่ชัดเจน ก็แนะนำให้กกต.สามารถขอรายงานผลการดำเนินการกรณีการบรรจุเข้ารับราชการการ ขึ้นทะเบียนกองประจำการและการแต่งตั้งยศทหารของ ร.ต.อภิสิทธิ์ ได้ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งทางกระทรวงกลาโหมได้ทำรายงานผล ชี้แจงตั้งแต่แรกเริ่มจนเรื่องยุติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม การดำเนินการของกกต.ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการที่นายอภิสิทธิ์ไปร้องต่อศาล ปกครอง เพราะเป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งการยื่นคำร้องต่อศาลปกครองของนายอภิสิทธิ์นั้น ถือว่าเป็นการยื้อเวลา เห็นได้จาก ไม่ได้มีการขอให้ศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉินหรือขอคุ้มครองชั่วคราว เพื่อออกมาตรการบรรเทาทุกข์คุ้มครองชั่วคราวก่อนที่ศาลมีคำพิพากษา.
นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าวตนเห็นว่า ข้อเท็จจริงได้ปรากฏเป็นที่ยุติแล้ว โดยกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งปลดนายอภิสิทธิ์ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ ดังนั้นเพียงแค่ กกต.ขอเอกสาร ซึ่งเป็นคำสั่งที่ 1163/2555 ลงวันที่ 8 พ.ย. 2555 ให้ปลดว่าที่ร.ต.อภิสิทธิ์ออกจากราชการมาประกอบการพิจารณา ซึ่งเชื่อว่ากรณีดังกล่าวไม่น่าจะใช้ระยะเวลานานในการสอบสวน เนื่องจากมีปรากฏข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติแล้ว
ทั้งนี้ หากคิดว่าเอกสารใดยังไม่ชัดเจน ก็แนะนำให้กกต.สามารถขอรายงานผลการดำเนินการกรณีการบรรจุเข้ารับราชการการ ขึ้นทะเบียนกองประจำการและการแต่งตั้งยศทหารของ ร.ต.อภิสิทธิ์ ได้ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งทางกระทรวงกลาโหมได้ทำรายงานผล ชี้แจงตั้งแต่แรกเริ่มจนเรื่องยุติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม การดำเนินการของกกต.ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการที่นายอภิสิทธิ์ไปร้องต่อศาล ปกครอง เพราะเป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งการยื่นคำร้องต่อศาลปกครองของนายอภิสิทธิ์นั้น ถือว่าเป็นการยื้อเวลา เห็นได้จาก ไม่ได้มีการขอให้ศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉินหรือขอคุ้มครองชั่วคราว เพื่อออกมาตรการบรรเทาทุกข์คุ้มครองชั่วคราวก่อนที่ศาลมีคำพิพากษา.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น