วันนี้ (17 มิ.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.นครสวรรค์ พล.ต.ต.เกษียร
วรศิริ รอง ผบช.ภ.6 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุธีระ ปุณณะบุตร ผบก.ศฝร.ภ.6
พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ พ.ต.อ.นิกร เข็มทอง รอง
ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ พ.ต.อ.โกมินทร์ สิงห์ขาว ผกก.กก.สส.ภ.จว.นครสวรรค์
และเจ้าหน้าที่ชุด สส.ภ.จว.นครสวรรค์ ร่วมแถลงข่าวจับนายเจ๊ง ร้ายกลับดี
อายุ 50 ปี ชาว จ.ลพบุรี ผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยจับกุมตัวได้
ในพื้นที่ อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี เมื่อช่วงค่ำวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.เกษียร เปิดเผยว่า นายเจ๊ง คือหนึ่งผู้ร่วมขบวนการทุจริตการแข่งขันสอบตำรวจชั้นประทวนในครั้งนี้ โดยผู้ต้องหาคนดังกล่าว เป็นนายหน้าเครือข่าย จ.ลพบุรี ในการติดต่อผู้ปกครองของผู้ต้องการสอบโดยตรง มีผู้ปกครองสนใจพาบุตรหลานมาติดต่อกับนายเจ๊ง 15 ราย เป็นคนในพื้นที่ อ.โคกเจริญ อ.ท่าวุ้ง และ อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี นอกจากนี้ ยังมีผู้ต้องหาอีกคน คือนายสมสิทธิ์ จันทรกวี เครือข่าย จ.พิจิตร ที่ถูกออกหมายจับแล้วเจ้าหน้าที่กำลังไล่ติดตามจับกุมอยู่
ส่วนการสอบสวนนายเจ๊ง ให้การรับสารภาพว่า รู้จักกับนายวิบูลศักดิ์ หรือนายกฤษฎา แสนจักร โต้โผใหญ่ในขบวนการอีกราย ชักชวนให้หาคนมาสมัครสอบเข้าตำรวจ โดยมีเงื่อนไข ต้องจ่ายเงินก่อน 1 หมื่นบาท เป็นค่าเครื่องรับสัญญาณวิทยุสื่อสาร เมื่อสอบข้อเขียนได้แล้ว ต้องจ่ายเพิ่ม 1.5 แสนบาท และหลังจากประกาศสอบต้องจ่ายอีก 1.5 แสนบาท
“หลังจากทำหน้าที่ติดต่อ และได้รับเงินจากผู้ปกครองทั้งหมดแล้ว 15 รายๆ ละ 1 หมื่นบาท รวมเป็นเงิน 1.5 แสนบาท จึงได้นัดส่งมอบเงินจำนวนดังกล่าวให้กับนายวิบูลศักดิ์ ที่ห้างเดอะมอลล์บางกะปิ ซึ่งในวันนั้น มี น.ส.แนน ไม่ทราบชื่อจริง เดินทางมากับนายวิบูลศักดิ์ด้วย โดยทั้งคู่บอกว่า ก่อนสอบ 5 วัน ให้เอารหัสผู้เข้าสอบทั้งหมดมาให้ พร้อมรับเครื่องรับส่งสัญญาณไปด้วย ส่วนวิธีการรับส่งเครื่องรับสัญญาณนั้น ได้ส่ง น.ส.จิดาภา ร้ายกลับดี น้องสาว ให้ไปเรียนรู้กับ น.ส.แนน แล้วนำกลับมาสอนให้ผู้ที่สมัครเข้าสอบอีกทอดหนึ่ง”
นายเจ๊ง ให้การอีกว่า น.ส.แนน เป็นคนๆเดียวกันกับที่นำเครื่องส่งสัญญาณมาให้กับนายปวีนวัฒน์ ผู้ต้องหาในคดี พ.ร.บ.โทรคมนาคม ที่ถูกตำรวจ สภ.หนองปลิง จับกุมได้คาสนามสอบโรงเรียนสวนกุหลาบจิรประวัติวิทยาคมก่อนหน้านี้ ส่วนตน หลังจากที่มีการตรวจจับเครื่องรับส่งสัญญาณได้ในสนามสอบ จ.นครสวรรค์ จึงได้รีบโทรรายงานให้นายวิบูลศักดิ์ทราบทันที แต่นายวิบูลศักดิ์กลับบอกว่า ให้ต่างคนต่างไป หากถูกจับได้อย่าซัดทอดกันเด็ดขาด ตนเลยรีบหนีไปกบดานที่ จ.ลพบุรี กระทั่งมาถูกจับกุมได้ในที่สุด
ส่วนความคืบหน้าที่ จ.นครราชสีมา พล.ต.ต.จักรทิพย์ โหละสุตสกุล รอง ผบช.ภ.3 ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ตรวจกระดาษคำถาม – คำตอบ เพื่อหาสิ่งผิดปกติแล้ว พบว่า มีพิรุธในกระดาษข้อสอบเหล่านั้น โดยการจดตัวเลข 149 ชุด จากทั้งหมดกว่า 3.6 หมื่นชุด ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมเรียกเจ้าของข้อสอบชุดที่มีพิรุธ มาสอบหาข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งหากพบว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตก็จะดำเนินการตามกฎหมาย จนถึงการตัดสิทธิการสอบเข้าราชการทุกกรณีต่อไป
ด้าน การจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดนั้น หลังจากจับกุมได้แล้วรวม 10 ราย ยังเหลืออีก 2 ราย ที่ยังหลบหนีอยู่ คือนายวิบูลย์ศักดิ์ แสนจักร ที่เป็นตัวเชื่อมโยงเครือข่ายทั้งหมด และนายโต ไม่ทราบชื่อ – สกุลจริง ที่ทำหน้าที่นำอุปกรณ์สัญญาณมาส่งให้ผู้สมัครสอบในโรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พร้อมกับแนะนำวิธีการใช้งานให้
โดยได้ประสานงานกับสถานีตำรวจทุกสถานีทั่วประเทศกระจายหมายจับและระดม กำลังตำรวจทั้งหมดเพื่อให้ช่วยติดตามตัวนายวิบูลย์ศักดิ์ฯ มาสอบสวนให้ได้โดยเร็วที่สุดแต่ถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววแต่อย่างใด จึงวอนพี่น้องประชาชนที่พบเบาะแส ให้แจ้งให้ตำรวจทราบด้วย เพื่อจะได้ติดตามจับกุมตัวต่อไป.
พล.ต.ต.เกษียร เปิดเผยว่า นายเจ๊ง คือหนึ่งผู้ร่วมขบวนการทุจริตการแข่งขันสอบตำรวจชั้นประทวนในครั้งนี้ โดยผู้ต้องหาคนดังกล่าว เป็นนายหน้าเครือข่าย จ.ลพบุรี ในการติดต่อผู้ปกครองของผู้ต้องการสอบโดยตรง มีผู้ปกครองสนใจพาบุตรหลานมาติดต่อกับนายเจ๊ง 15 ราย เป็นคนในพื้นที่ อ.โคกเจริญ อ.ท่าวุ้ง และ อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี นอกจากนี้ ยังมีผู้ต้องหาอีกคน คือนายสมสิทธิ์ จันทรกวี เครือข่าย จ.พิจิตร ที่ถูกออกหมายจับแล้วเจ้าหน้าที่กำลังไล่ติดตามจับกุมอยู่
ส่วนการสอบสวนนายเจ๊ง ให้การรับสารภาพว่า รู้จักกับนายวิบูลศักดิ์ หรือนายกฤษฎา แสนจักร โต้โผใหญ่ในขบวนการอีกราย ชักชวนให้หาคนมาสมัครสอบเข้าตำรวจ โดยมีเงื่อนไข ต้องจ่ายเงินก่อน 1 หมื่นบาท เป็นค่าเครื่องรับสัญญาณวิทยุสื่อสาร เมื่อสอบข้อเขียนได้แล้ว ต้องจ่ายเพิ่ม 1.5 แสนบาท และหลังจากประกาศสอบต้องจ่ายอีก 1.5 แสนบาท
“หลังจากทำหน้าที่ติดต่อ และได้รับเงินจากผู้ปกครองทั้งหมดแล้ว 15 รายๆ ละ 1 หมื่นบาท รวมเป็นเงิน 1.5 แสนบาท จึงได้นัดส่งมอบเงินจำนวนดังกล่าวให้กับนายวิบูลศักดิ์ ที่ห้างเดอะมอลล์บางกะปิ ซึ่งในวันนั้น มี น.ส.แนน ไม่ทราบชื่อจริง เดินทางมากับนายวิบูลศักดิ์ด้วย โดยทั้งคู่บอกว่า ก่อนสอบ 5 วัน ให้เอารหัสผู้เข้าสอบทั้งหมดมาให้ พร้อมรับเครื่องรับส่งสัญญาณไปด้วย ส่วนวิธีการรับส่งเครื่องรับสัญญาณนั้น ได้ส่ง น.ส.จิดาภา ร้ายกลับดี น้องสาว ให้ไปเรียนรู้กับ น.ส.แนน แล้วนำกลับมาสอนให้ผู้ที่สมัครเข้าสอบอีกทอดหนึ่ง”
นายเจ๊ง ให้การอีกว่า น.ส.แนน เป็นคนๆเดียวกันกับที่นำเครื่องส่งสัญญาณมาให้กับนายปวีนวัฒน์ ผู้ต้องหาในคดี พ.ร.บ.โทรคมนาคม ที่ถูกตำรวจ สภ.หนองปลิง จับกุมได้คาสนามสอบโรงเรียนสวนกุหลาบจิรประวัติวิทยาคมก่อนหน้านี้ ส่วนตน หลังจากที่มีการตรวจจับเครื่องรับส่งสัญญาณได้ในสนามสอบ จ.นครสวรรค์ จึงได้รีบโทรรายงานให้นายวิบูลศักดิ์ทราบทันที แต่นายวิบูลศักดิ์กลับบอกว่า ให้ต่างคนต่างไป หากถูกจับได้อย่าซัดทอดกันเด็ดขาด ตนเลยรีบหนีไปกบดานที่ จ.ลพบุรี กระทั่งมาถูกจับกุมได้ในที่สุด
ส่วนความคืบหน้าที่ จ.นครราชสีมา พล.ต.ต.จักรทิพย์ โหละสุตสกุล รอง ผบช.ภ.3 ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ตรวจกระดาษคำถาม – คำตอบ เพื่อหาสิ่งผิดปกติแล้ว พบว่า มีพิรุธในกระดาษข้อสอบเหล่านั้น โดยการจดตัวเลข 149 ชุด จากทั้งหมดกว่า 3.6 หมื่นชุด ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมเรียกเจ้าของข้อสอบชุดที่มีพิรุธ มาสอบหาข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งหากพบว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตก็จะดำเนินการตามกฎหมาย จนถึงการตัดสิทธิการสอบเข้าราชการทุกกรณีต่อไป
ด้าน การจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดนั้น หลังจากจับกุมได้แล้วรวม 10 ราย ยังเหลืออีก 2 ราย ที่ยังหลบหนีอยู่ คือนายวิบูลย์ศักดิ์ แสนจักร ที่เป็นตัวเชื่อมโยงเครือข่ายทั้งหมด และนายโต ไม่ทราบชื่อ – สกุลจริง ที่ทำหน้าที่นำอุปกรณ์สัญญาณมาส่งให้ผู้สมัครสอบในโรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พร้อมกับแนะนำวิธีการใช้งานให้
โดยได้ประสานงานกับสถานีตำรวจทุกสถานีทั่วประเทศกระจายหมายจับและระดม กำลังตำรวจทั้งหมดเพื่อให้ช่วยติดตามตัวนายวิบูลย์ศักดิ์ฯ มาสอบสวนให้ได้โดยเร็วที่สุดแต่ถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววแต่อย่างใด จึงวอนพี่น้องประชาชนที่พบเบาะแส ให้แจ้งให้ตำรวจทราบด้วย เพื่อจะได้ติดตามจับกุมตัวต่อไป.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น