วันนี้ (17 ธ.ค.) ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายธีรภัทร
ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ แถลงว่า เมื่อวันที่ 15
ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ได้ร่วมกันจับกุมชายชาวเวียดนาม พร้อมงาช้างแอฟริกันจำนวน 11 กิ่ง
เดินทางจากประเทศเอธิโอเปียมายังประเทศไทย
โดยผู้ต้องหาให้ข้อมูลเบื้องต้นว่ารับจ้างขนงาช้างดังกล่าวจากชาวเวียดนาม
ไม่ทราบชื่อที่ประเทศเอธิโอเปีย
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามผู้ต้องหาได้ขณะกำลังรอขึ้นเครื่องบินสายการ
บินไทย ไปกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
ผู้ต้องหาไม่มีใบอนุญาตให้นำงาช้างแอฟริกันเข้ามาในราชอาณาจักรหรือนำออกนอก
ประเทศเอธิโอเปียแต่อย่างใด
ทั้งนี้คณะเจ้าหน้าที่ได้นำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน
สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
สำหรับของกลางงาช้างได้นำมาเก็บรักษาไว้ที่กรมอุทยานฯ ต่อไป
นายธีรภัทร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ในรอบ 15 ปี ตั้งแต่ปี 2540-2554 มีการตรวจยึดงาช้างแอฟริกาทั่วโลกได้จำนวน 11,633 คดี โดยเฉพาะสำหรับ 3 ปี ย้อนหลัง ทั่วโลกมีการจับกุมเพิ่มขึ้นรวมเกือบ 60 ตัน ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการจับกุมการลักลอบขนงาช้างเข้าประเทศได้ประมาณ 10 ตัน ประเทศไทยจึงเป็นประเทศที่ถูกจับตามองในลำดับต้นระดับโลกร่วมกับประเทศจีน มาเลเซีย และเวียดนาม สำนักงานเลชาธิการไซเตสได้เตือนประเทศไทยให้เร่งแก้ปัญหามิฉะนั้นอาจเสนอให้ ประเทศภาคีไซเตสยกเลิกการค้าขายผลิตภัณฑ์สัตว์ป่าและพืชป่ากับประเทศไทย ซึ่งมีมูลค่านับหมื่นล้านบาทได้ โดยกรมอุทยานฯ กำลังอยู่ระหว่างการเสนอแก้กฎหมายด้านสัตว์ป่า และควบคุมการค้าขายผลิตภัณฑ์งาช้าง กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ และภาคเอกชนต่างๆ
นายธีรภัทร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้สำหรับการควบคุมการค้างาช้างภายในประเทศนั้น กรมอุทยานฯ ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงพาณิชย์จะได้เข้มงวดใน การดำเนินการตรวจสอบร้านค้างาช้าง เพื่อควบคุมการค้างาช้างทั่วประเทศให้เป็นไปตามเงื่อนไขของไซเตส โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจสอบงาช้าง ที่ปัจจุบันสามารถใช้เทคนิคการตรวจสอบสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) เพื่อตรวจสอบว่าเป็นงาช้างเอเชียหรือแอฟริกาได้แล้ว ประกอบกับกรมอุทยานฯ ได้เก็บรวบรวมเนื้อเยื่อของช้างเลี้ยงทั่วประเทศไว้แล้ว จึงสามารถตรวจสอบเปรียบเทียบตามเอกสารได้ ทั้งนี้ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการค้างาช้างไม่ให้ขายงาช้างและผลิตภัณฑ์ ที่ทำจากงาช้างให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากประเทศไทยไม่อนุญาตให้ส่งออกงาช้างและผลิตภัณฑ์จากงาช้างเพราะเป็น การฝ่าฝืนอนุสัญญาไซเตส รวมทั้งขอประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนชาวไทยที่จะซื้องาช้างและผลิตภัณฑ์ที่ ทำจากงาช้าง ให้ขอใบเสร็จรับเงินจากร้านค้าด้วยทุกครั้ง เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ซื้อในการอ้างอิงเอกสารหลักฐานแสดงที่มาของงาช้าง ที่อยู่ในความครอบครองด้วย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย เพื่อเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสมัยสามัญภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่าง ประเทศซึ่งชนิดพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 16 ระหว่างวันที่ 3-14 มี.ค. 2556..
นายธีรภัทร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ในรอบ 15 ปี ตั้งแต่ปี 2540-2554 มีการตรวจยึดงาช้างแอฟริกาทั่วโลกได้จำนวน 11,633 คดี โดยเฉพาะสำหรับ 3 ปี ย้อนหลัง ทั่วโลกมีการจับกุมเพิ่มขึ้นรวมเกือบ 60 ตัน ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการจับกุมการลักลอบขนงาช้างเข้าประเทศได้ประมาณ 10 ตัน ประเทศไทยจึงเป็นประเทศที่ถูกจับตามองในลำดับต้นระดับโลกร่วมกับประเทศจีน มาเลเซีย และเวียดนาม สำนักงานเลชาธิการไซเตสได้เตือนประเทศไทยให้เร่งแก้ปัญหามิฉะนั้นอาจเสนอให้ ประเทศภาคีไซเตสยกเลิกการค้าขายผลิตภัณฑ์สัตว์ป่าและพืชป่ากับประเทศไทย ซึ่งมีมูลค่านับหมื่นล้านบาทได้ โดยกรมอุทยานฯ กำลังอยู่ระหว่างการเสนอแก้กฎหมายด้านสัตว์ป่า และควบคุมการค้าขายผลิตภัณฑ์งาช้าง กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ และภาคเอกชนต่างๆ
นายธีรภัทร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้สำหรับการควบคุมการค้างาช้างภายในประเทศนั้น กรมอุทยานฯ ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงพาณิชย์จะได้เข้มงวดใน การดำเนินการตรวจสอบร้านค้างาช้าง เพื่อควบคุมการค้างาช้างทั่วประเทศให้เป็นไปตามเงื่อนไขของไซเตส โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจสอบงาช้าง ที่ปัจจุบันสามารถใช้เทคนิคการตรวจสอบสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) เพื่อตรวจสอบว่าเป็นงาช้างเอเชียหรือแอฟริกาได้แล้ว ประกอบกับกรมอุทยานฯ ได้เก็บรวบรวมเนื้อเยื่อของช้างเลี้ยงทั่วประเทศไว้แล้ว จึงสามารถตรวจสอบเปรียบเทียบตามเอกสารได้ ทั้งนี้ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการค้างาช้างไม่ให้ขายงาช้างและผลิตภัณฑ์ ที่ทำจากงาช้างให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากประเทศไทยไม่อนุญาตให้ส่งออกงาช้างและผลิตภัณฑ์จากงาช้างเพราะเป็น การฝ่าฝืนอนุสัญญาไซเตส รวมทั้งขอประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนชาวไทยที่จะซื้องาช้างและผลิตภัณฑ์ที่ ทำจากงาช้าง ให้ขอใบเสร็จรับเงินจากร้านค้าด้วยทุกครั้ง เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ซื้อในการอ้างอิงเอกสารหลักฐานแสดงที่มาของงาช้าง ที่อยู่ในความครอบครองด้วย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย เพื่อเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสมัยสามัญภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่าง ประเทศซึ่งชนิดพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 16 ระหว่างวันที่ 3-14 มี.ค. 2556..
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น