คดี “ยิงเสี่ยข้าวมันไก่-เจ้าของร้านสูท” เชื่อสาเหตุชิงทรัพย์

ตำรวขเชื่อคดี “ยิงเสี่ยข้าวมันไก่-เจ้าของร้านสูท” เชื่อสาเหตุชิงทรัพย์

วันนี้ 19 เม.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิศักดิ์  รอง ผบช.น.  เปิดเผยความคืบหน้าเหตุคนร้ายยิง นายอุดมพร ไพงาม อายุ 35 ปี เจ้าของร้านเด่นข้าวมันไก่  บริเวณลานจอดรถ ภายในวัดมัชฌันติการาม (วัดน้อย) ซ.วงศ์สว่าง11 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กทม. พื้นที่ สน.ประชาชื่น เมื่อค่ำวันที่ 17 เมษายน ว่า ผู้ตายเป็นคนขายข้าวมันไก่ และเวลาขายมักจะถอดเสื้อโชว์สร้อยทองคำหนัก 10 บาท วันเกิดเหตุเดินมาที่รถและถูกยิง 1 นัด เข้าด้านหลังเป็นปืนสั้นสันนิษฐานว่าเป็นขนาด .22 แต่หากเป็นกรณีที่มีคนจ้างวานมายิง น่าจะเป็น ขนาด .38  .357 หรือ 11 มม. น่าจะรุนแรงกว่านี้ เพราะฉะนั้นจึงให้น้ำหนักไปทางประสงค์ต่อทรัพย์ และคนร้ายน่าจะอยากมาชิงทรัพย์มากกว่า ขณะนี้ยังไม่ได้กล้องวงจรปิด แต่เชื่อว่าคนร้ายเป็นคนท้องถิ่นรู้จักละแวกดังกล่าว ส่วนพาหนะนั่นเชื่อว่าไม่มีพาหนะ เพราะพยานได้ยินแต่เสียงปืนแต่ไม่มีเสียงรถ

เมื่อถามว่าผู้ตายพกพาอาวุธปืนด้วยอาจมีเรื่องอื่นด้วยหรือไม่ พล.ต.ต.พิสิฏฐ์กล่าวว่า เรื่องส่วนตัวก็มี มีหลายประเด็นที่รู้อยู่ แต่ให้น้ำหนักไปที่เรื่องประสงค์ต่อทรัพย์มากกว่า

ส่วนคดีคนร้ายชิงทรัพย์  นายศิริพงศ์ จิรพงศ์สกุล หรือ“เฮียเงาะ” อายุ 68 ปี เจ้าร้านสูท “เงาะ” เป็นเหตุให้เสียชีวิต บริเวณหน้าร้านเงาะตัดเสื้อสูท เลขที่ 66 เยื้องแยกเจริญผล ถนนพระราม 1 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. พื้นที่ สน.ปทุมวัน เมื่อวันที่ 18 เมษายน  พล.ต.ต.พิสิฏฐ์กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ของ สน.ปทุมวัน ก็เช่นกัน คือให้น้ำหนักไปที่ประสงค์ต่อทรัพย์ เมื่อไปทานอาหารกลับมาจากนั้นมีกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายได้ มาโดยใช้รถจักรยานยนต์ 2 คัน คนร้าย 4 คน ภาพขณะนี้พยายามทำให้ชัดเจนขึ้น แต่ยังไม่เห็นทะเบียนรถ

เมื่อถามว่ามีการใช้อาวุธปืนหรือไม่ เพราะมีคนบอกว่าได้ยินเสียงปืน พล.ต.ต.พิสิฏฐ์กล่าวว่า ดูที่เกิดเหตุเบื้องต้นมีแต่บาดแผล ร่องรอยคล้ายถูกของแข็งตามลำตัว ตามหน้า แต่เมื่อไปตรวจพิสูจน์ชัดเจนพบว่าถูกกระสุนปืน 1 นัด  โดยยังมองประเด็นชิงทรัพย์เป็นสำคัญ เพราะหากจะเจตนาฆ่าเส้นทางที่ผ่านมาก็มีหลายจุดที่จะยิงได้ไม่จำเป็นต้องตามมาถึงบ้าน คงไม่ได้เจตนาฆ่ามาก่อน น่าจะเข้ามาทำร้ายเอาสร้อยคอ แต่มีการต่อสู้จึงเกิดการยิงกันขึ้น

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

This entry was posted in News