วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555

แม่ยกลงขัน 5 ล้านต่ออายุราชการ “ดำรงค์” เจ้าตัวชี้ทำไม่ได้


วันนี้ (24 ส.ค.)ที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประชาชนชาว จ.นครราชสีมา กว่า 60 คน นำโดยนางวราภรณ์ เกิดถาวร ตัวแทนกลุ่มชาวโคราช  ได้นำช่อดอกกุหลาบสีแดงมามอบให้นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกพื้นที่ป่า อนุรักษ์ โดยนางวราภรณ์ กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนชาวโคราช ขอเป็นกำลังใจให้นายดำรงค์ปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องผืนป่าต่อไป และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับข้าราชการไทยคนอื่นๆในการทำหน้าที่เพื่อประชาชน ด้วย

ด้านนายดำรงค์ กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ และขอให้ทุกคนที่มีป่าต้นน้ำอยู่ในพื้นที่ช่วยรักษาป่าต้นน้ำเช่นกัน เนื่องจากวันนี้ปัญหาการบุกรุกป่าต้นน้ำเกิดขึ้นอย่างรุนแรง ส่งผลให้เกิดภัยพิบัติทั้งน้ำท่วมฝนแล้งตามมา ยกตัวอย่างในพื้นที่ภาคเหนือที่ป่าต้นน้ำถูกบุกรุกเพื่อเพาะปลูกพืชผลทางการ เกษตรอย่างหนัก ตนเชื่อว่าอีกไม่ถึง 5 ปี พื้นที่ภาคเหนือจะเกิดปัญหาการแย่งน้ำระหว่างคนบนภูเขากับคนพื้นราบแน่นอน  ในส่วนของภาคใต้เองโดยเฉพาะนครศรีธรรมราชวันนี้ก็เกิดภาวะแล้งหนักที่สุด อย่างที่ตนไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะการบุกรุกป่าต้นน้ำเพื่อปลูกยางพารา และวันนี้ยังจะมีประชาชนบนเทือกเขาบรรทัดในพื้นที่อุทยานฯ เขาปู่-เขาย่า จ.พัทลุง ที่จะขอออกโฉนดชุมชนเพื่อปลูกสวนยาง ซึ่งตนขอยืนยันว่าไม่สามารถทำได้แน่นอน ถ้ามีการขอออกโฉนดชุมชนในพื้นที่รับผิดชอบของกรมอุทยานฯ ได้ และต้องดำเนินการทั้งประเทศ จะต้องเสียพื้นที่ป่าถึง 6 ล้านไร่ ดังนั้นตนเห็นว่าโฉนดชุมชนจะดำเนินการได้ก็ในพื้นที่ สปก. เท่านั้น พื้นที่ 30 ล้านไร่ของ สปก. ที่วันนี้มีบางส่วนอยู่ในมือของคนรวย ถ้าเอาไปจัดสรรให้คนจนก็แก้ปัญหาได้แล้ว

"คดีการรื้อถอนรีสอร์ท บ้านพักตากอากาศ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่วังน้ำเขียว ทับลาน เกิดก่อนผมมารับตำแหน่งทั้งนั้น แต่จังหวะเวลาในการรื้อถอนเกิดขึ้นในยุคผมพอดี และถึงเป็นอธิบดีคนอี่นก็ต้องดำเนินการ  ซึ่งได้ดำเนินการกับรีสอร์ท บ้านพักตากอากาศที่เข้ามาอย่างผิดกฎหมายทเท่านั้น   ไม่ได้ทำกับชาวบ้านคนยากคนจน  สำหรับชาวบ้านที่ยากจนจริงๆ แม้เข้ามาอยู่หลังมติ ครม. 30 มิ.ย. 2541 เราก็ผ่อนผันให้อยู่ได้ เพียงแต่ห้ามบุกรุกเพิ่มและขายให้นายทุนเปลี่ยนไปเป็นรีสอร์ท  วันนี้ผมไม่ได้รังแกคนจน ผมไม่ได้รวยมาจากไหน และเข้าใจความยากจนดี ผมเป็นเด็กวัดเก่า อาศัยข้าวก้นบาตรพระอยู่วัด หาทางเรียนหนังสือมา ผมรู้หมดความยากจนเป็นอย่างไร แต่วันนี้มันเป็นเรื่องของกฎหมายที่ต้องปฎิบัติตามทั้งหมด ” นายดำรงค์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการพูดคุยชาวบ้านได้พยายามสอบถามถึงการต่ออายุราชการของนายดำรงค์ ซึ่งนายดำรงค์กล่าวว่า ตนเหลืออายุราชการเพียง 1 เดือนเศษจะเกษียณแล้ว  จากนั้นก็คงไปตามเส้นทางของตนต่อไป อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาได้มีประชาชน รวมทั้งนักธุรกิจได้โทรมาสอบถามในเรื่องดังกล่าว และมีอยู่รายหนึ่งเป็นผู้หญิงตนก็ไม่เคยรู้จักมาก่อน บอกว่าขณะนี้ได้มีการรวบรวมเงินใช้เป็นกองทุนจำนวน 5 ล้านบาท เพื่อหาทางต่ออายุราชการให้กับตน  เพราะพอใจการทำงานของกรมอุทยานฯ มีวิธีการใดบ้างที่จะทำให้ตนได้ต่ออายุ  ซึ่งตนก็ตอบไปว่ามันเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้

ด้านนายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน กล่าวว่า ขณะนี้ได้เสนอรายชื่อบ้านพักและรีสอร์ทที่บุกรุกพื้นที่อุทยานฯ ทับลาน จำนวน 22 แห่ง เพื่อเสนอให้มีการรื้อถอนรอบที่ 4 ต่อนายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานฯ ซึ่งทั้ง 22 แห่ง ส่วนมากศาลปกครองไม่รับคุ้มครองการรื้อถอน และยกคำร้องไป ซึ่งอยู่ระหว่างการรอนายดำรงค์ให้ความเห็นชอบ ส่วนกรณีบ้านทะเลหมอกรีสอร์ททราบว่าหลังจากศาลปกครองมีคำสั่งไม่คุ้มครองการ รื้อถอนก็ได้รวมกลุ่มกับผู้ประกอบการรีสอร์ทในพื้นที่เพื่อต่อสู้ในแนวทาง อื่น  ซึ่งขณะนี้เหลือทางเดียวคือการแก้กฎหมาย พ.ร.บ.อุทยานฯ 2504  เพื่อให้เพิกถอน เขตอุทยานฯ หรือเช่าพื้นที่อุทยานฯ ได้โดยเคลื่อนไหวผ่านคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ในสภา รวมทั้งองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาการต่อสู้ด้วยการขอหยุดจับหยุดรื้อถอนนั้น ไม่สามารถทำได้  ซึ่งการต่อสู้ของฝ่ายผู้ประกอบการในลักษณะนี้ทำให้ตนรู้สึกเหนื่อยใจเช่นกัน เพราะต้องคอยเดินสายชี้แจงต่อฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทำให้เสียเวลาในการทำงานในพื้นที่พอสมควร

นายเทวินทร์ กล่าวว่า  พื้นที่ทั้งหมดที่กรมอุทยานฯ ได้ดำเนินการรื้อถอน แ ละจับกุมไปแล้วจำนวน 418 คดีนั้น มีพื้นที่บุกรุกรวม 8,000 ไร่เศษ โดยหากการดำเนินการแล้วเสร็จอาจถึง 1 หมื่นไร่   ซึ่งขณะนี้ได้มีประชาชนและภาคเอกชนต่างๆ เสนอขอเข้ามาปลูกป่าทดแทน ซึ่งอุทยานฯ ก็ยินดี โดยภาคเอกชนและประชาชนที่จะมาปลูกป่าหากเตรียมกล้าไม้มาปลูกเอง  ขอให้เป็นไม้ในท้องถิ่น เช่น ประดู่ มะค่า พะยูง เป็นต้น ทั้งนี้อุทยานฯ ขอเชิญชวนบริษัท ห้างร้าน และผู้ที่สนใจมาร่วมกันคืนผืนป่าให้แผ่นดิน อย่างไรก็ตามสำหรับแผนงบประมาณปลูกป่าทดแทน พร้อมทำแนวกันไฟ รวมทั้งค่าบำรุงรักษาอื่นๆ  ในพื้นที่บุกรุกในส่วนที่กรมอุทยานฯ จะต้องดำเนินการนั้น กำหนดไว้ 4 หมื่นบาท/ไร่ ในช่วงระยะเวลา 10 ปี  ซึ่งพื้นที่บุกรุกในอุทยานฯ ทับลานคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณทั้งหมด 400 ล้านบาท  แต่หากมีภาคเอกชนให้การสนับสนุนเข้ามามาก ก็จะเป็นการช่วยลดงบประมาณของภาครัฐได้

0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources